เพื่อนบ้าน และญาติ เข้าปลอบขวัญครอบครัว หญิงสาวที่ถูกสามีทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ยังอยู่ในการรักษาของแพทย์ ขณะที่ชุดกู้ภัย เผยตอนไปรับตัวน้องมีอาการหวาดกลัว และพูดจาไม่ได้สติ
จากกรณีที่มีการแชร์ภาพจากเฟซบุ๊ก ที่น้องสาวของหญิงรายหนึ่ง โพสต์ภาพพี่สาว ถูกสามีทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ทั้งที่ยังเป็นแม่ลูกอ่อน เพิ่งคลอดได้เพียง 1 เดือน 14 วัน ทำให้มีกระแสโชเชียลตำหนิการกระทำของผู้ชายที่เป็นสามี ที่กระทำการอย่างทารุณกับผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2563 ที่ผ่านมา วันนี้ (5 ก.พ.63 ) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านโคกไพศาล ต.เดื่อศรีคันไชย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ซึ่งเป็นบ้านของหญิงสาวคนดังกล่าว พบว่า หลังข่าวแพร่ออกไป มีเพื่อนบ้านและญาติต่างแวะเวียนมาเยี่ยม แต่ทราบว่าหญิงสาวเคราะห์ร้าย ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ญาติยังไม่ต้องการเปิดเผยสถานที่เพราะเป็นความต้องการของหญิงสาวคนดังกล่าว เนื่องจากยังอยู่ในอาการหวาดกลัว ไม่ต้องการให้สามีรู้และตามไปทำร้ายได้อีก โดยมีนักจิตวิทยาคอยเข้าพูดคุยเพื่อลดความหวาดกลัว
โดยบรรยากาศมีเพื่อนบ้านมาเยี่ยม มีการทำอาหารคอยเลี้ยงแขก โดยใช้ใต้ถุนบ้านเป็นสถานที่รับแขก แต่ภาพที่น่าสะเทือนใจคือ มีเด็กนอนอยู่ในเปลที่ใช้ผ้าขาวมามาผูกเปลนอนชั่วคราว ซึ่งชาวบ้านต่างเรียกว่า หมอๆ เป็นชื่อเรียก คือลูกของหญิงสาวที่ถูกสามีทำร้าย ซึ่งก็มีมีญาติและเพื่อนบ้าน คอยมาเปลี่ยนกันไกวเปลกล่อมนอน และหลายคนต่างพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่สะเทือนใจของชาวบ้านที่ทราบข่าว ส่วนนางนิภาพร เวยสาร แม่ และน.ส.ภานุมาศ เวยสาร น้องสาวผู้เสียหาย ทราบว่า นางสาว พิมพ์นัฐชา อธิภูชนะชัย ผู้ประสานงานช่วยเหลือด้านเด็กและสตรี จังหวัดสกลนคร ได้เดินทางไปส่งขึ้นเครื่องไปกรุงเทพ มหานคร เพื่อติดต่อหน่วยงานเพื่อขอความช่วยเหลือด้านคดีแล้ว
นางนิภาพร เวยสาร อายุ 50 ปี แม่หญิงสาวผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ลูกถูกบังคับ ปกติลูกจะไม่พูดอะไรให้ฟัง เพราะก่อนหน้านี้ลูกไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเลย แล้วที่เสพนี้ได้ขอมั้ย ลูกก็ตอบว่าลูกถูกบังคับ เขาบังคับให้เสพเพื่อที่จะให้มีอารมณ์ในการร่วมเพศ ถ้าไม่เสพสามีก็จะทุบตี เป็นคำพูดออกจากปากลูกเองเลย แม่เพิ่งได้ยินครั้งแรก แต่ละครั้งจะโดนบังคับ ถ้าไม่ทำก็ตี แม่จึงถามลูกว่าหลังคลอดสามีได้มีเพศสัมพันธ์มั้ย ลูกตอบว่ามี หลังจากที่คลอดลูก 5 วัน ถ้าไม่ให้ก็ไม่ได้ สามีจะทำร้ายร่างกาย เพราะหลานเพิ่งจะอายุได้ 1 เดือนกับอีก14วันเอง
ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยรายหนึ่ง ของเทศบาลตำบลไฮ่หย่อง อ.พังโคน กล่าวถึงเหตุการณ์วันที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไปรับตัวผู้บาดเจ็บ ว่า หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เทศบาลไฮ่หย่องคนหนึ่ง ที่กำลังขับรถกลับบ้าน ซึ่งมีบ้านอยู่บ้านไฮ่หย่อง พบมีผู้หญิงวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ ตอนนั้นสภาพผู้มาขอความช่วยเหลือ จำอะไรไม่ได้ พูดไม่รู้เรื่อง โดยวิ่งออกมาจากบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ติดกับถนน เพื่อออกขอความช่วยเหลือ เมื่อรับแจ้งจึงนำรถกู้ชีพไปรับตัวนำส่งโรงพยาบาล และจากที่ทราบ รู้เพียงว่าสามีของผู้บาดเจ็บเป็นคนบ้านไฮหย่อง และได้พาครอบครัวย้ายไปอยู่บุรีรัมย์อยู่ปีกว่าๆ แล้วย้ายกลับมาอยู่ที่นี้ เป็นคนลักษณะไม่สุงสิงกับใคร และชอบเก็บตัว
ทวีป ศรีสุชาติ ผู้สื่อข่าว ประจำจังหวัดสกลนคร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง