ธปท.อีสานห่วงสภาพคล่องสหกรณ์ออมทรัพย์

                       นายประสาท สมจิตรนึก ผู้อำนวยการอาวุโส  ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สินทรัพย์ของสหกรณ์ออมทรัพย์ สัดส่วนร้อยละ 67 ของระบบการเงินไทย ซึ่ง เป็นอันดับ 3 ของสินทรัพย์ในระบบการเงินของไทย ขณะเดียวกันก็มีการเติบโตขยายตัวต่อเนื่อง และความเชื่อมโยงกันเองในระบบเพิ่มขึ้น ทั้งการกู้ยมและการรับฝากเงินระหว่างกัน ซึ่งอาจจะเป็นช่องทางสำคัญหรือข้อต่อในการส่งผ่านความเสี่ยงในระบบสหกรณ์ โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ขาดสภาพคล่อง ซึ่งมีจำนวนมาก จากข้อมูลการกู้ยืมและรับฝากเงินระหว่างกันในระบบสหกรณ์ออมทรัพย์ เดือนกันยายนปี 2562 มีมากกว่า 400 แห่ง   

                  เรียกได้ว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ เป็น 1 จุดเปราะบางที่อาจจะสะสมความเสี่ยงของระบบเศรษฐกิจ ถ้าหากมีการบริหารจัดการไม่ดี สหกรณ์ออมทรัพย์ทั้งระบบมีความสำคัญต่อระบบการเงินของไทย ถ้ามีการบริหารและกำกับที่ดี ก็จะไม่เกิดความสุ่มเสี่ยง เช่น การปล่อยกู้ ต้องมีระบบการพิจารณาความเสี่ยง ทั้งด้านเครดิต ดำรงสภาพคล่อง และมีธรรมาภิบาลผู้บริหารที่ดี  

                      ผอ.อาวุโส ฯ กล่าวอีกว่า ผลตอบแทนหรือเงินปันผลค่อนข้างสูง ทำให้คนที่มีเงินออมไปฝากหรือเป็นสมาชิกสมทบ ทำให้สหกรณ์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  ถ้าปล่อยไม่รอบคอบ มีเงินมาคืนไม่ว่า โดยเฉพาะ ถ้าปล่อยให้กับเครือญาติผู้บริหารสหกรณ์ ที่อาจจะทำให้ไม่มีผลตอบแทนกลับ สะดุดก็จะไม่มีเงินคืนผู้ฝาก

             สหกรณ์หลายแห่งปล่อยกู้แต่ไม่สามารถเรียกกลับมาได้ แสดงว่ามาตรฐานการปล่อยเงินกู้คัดกรองไม่ดี แต่ถ้าหายไปโดยไม่มีลูกหนี้ก็แสดงว่าเกิดการทุจริต รวมทั้งมีผู้บริหารสหกรณ์เข้าไปเกี่ยวข้อง ดังนั้นไม่ว่าจะ  เป็นการทุจริตหรือปล่อยกู้ ต้องตั้งมาตรฐานที่ดี ทั้งคนปฏิบัติ ต้องมีผู้บริหารต้องรอบคอบในการกำกับ  เพราะถ้าเกิดปัญหาถ้าหากว่ามีสมาชิกมาขอถอนเงิน อาจจะไม่มีเงินสดขาดสภาพคล่องเพราะปล่อยกู้ไปหมด ก็จะกระทบปัญหาเป็นลูกโซ่   อย่างบางสหกรณ์ที่เงินหายเพราะการทุจริต เช่นสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ที่เงินหายไปกว่า 431 ล้านบาท ก็ต้องมาดูว่าระเบียบข้อไหนหละหลวมก็ต้องแก้ แม้ว่าแบงก์ชาติจะไม่มีหน้าที่กำกับดูแลสหกรณ์แต่ก็เป็นห่วงไม่ต้องการให้เกิดปัญหา  ถ้าสหกรณ์ใดสหกรณ์หนึ่งเกิดขาดสภาพคล่องก็จะกระทบไปทั้งระบบ   

ข่าว จิติมา จันพรม ภาพ ธนรรพร อุ่มเกต นักข่าวภูมิภาค จ.ขอนแก่น