ข่าว

รวบมือฆ่า "พ.ต.ท." ตัด "เจ้าโลก" เผาไฟ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รวบแล้ว ผัวหึงโหดฆ่า "พ.ต.ท." ตัด "เจ้าโลก" เผาไฟ แค้นถูกตีท้ายครัว หนีจากกาฬสินธุ์

 

               รวบทันควันผัวหึงโหดก่อคดีอุกฉกรรจ์เมืองกาฬสินธุ์ แค้นเมียหมอดูปันใจนายตำรวจ บุกฆ่าอำมหิต “พ.ต.ท.” เผารถลวงออกจากบ้าน ครกทุบหัว มีดแทงพรุน 23 แผล ตัดเจ้าโลกโยนทิ้งกองไฟ ขี่จยย.หนี จนมุมโคราช 

 

อ่านข่าว ทำแผน มือดีฆาตกรโหดพร้อมตัดเจ้าโลก ตำรวจ

 

               เกิดเหตุฆาตกรโหดลงมือฆ่า พ.ต.ท.จำรัส ดลเจือ อายุ 57 ปี สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ อย่างโหดเหี้ยม ด้วยการใช้มีดแทงคอและลำตัวจนเสียชีวิตจากนั้นลงมือตัดเจ้าโลกหายไป พร้อมเผารถยนต์และบ้านผู้ตายแล้วหลบหนีไป

 

               เหตุเกิดช่วงกลางดึกคืนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จากนั้น พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.กมลาไสย นำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบซึ่งเป็นบ้านน็อกดาวน์ ไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่บ้านน้อยพัฒนา ต.กมลาไสย 

 

               ล่าสุดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กมลาไสย และชุดสืบจังหวัด แกะรอยคนร้าย เบื้องต้นมั่นใจว่าเป็นเรื่องชู้สาว

 

               จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและสภาพศพคาดว่าคนร้ายมีความแค้นกับผู้ตายอย่างมาก มีบาดแผลถูกแทงตามร่างกาย 23 แผล บริเวณท่อนขาทั้ง 2 ข้างยังมีร่องรอยการหั่นเนื้อเป็นชิ้นก่อนจะตัดอวัยวะเพศออกไป

 

               จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบถามพยานคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นสามีหญิงอายุประมาณ 40 ปีเศษ ที่เข้ามาพัวพันฉันชู้สาวกับผู้ตาย เพราะก่อนเกิดเหตุมีการบอกญาติว่าจะไปฆ่าผู้ตายพร้อมกับภรรยาตนเอง

 

               ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายซึ่งคาดว่าน่าจะหลบหนีออกนอกพื้นที่แล้ว สำหรับ พ.ต.ท.จำรัส ผู้เสียชีวิต นอกจากการเป็นตำรวจยังมีอาชีพรับซื้อไม้เก่านำมาสร้างบ้านน็อกดาวน์แบบทรงไทย

 

               ต่อมาเวลา 11.00 น. มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายอมรลัก จิตรเกาะ อายุ 45 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ คนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว ภายหลังตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดและติดตามอย่างกระชั้นชิด

 

               จนพบว่าหลบหนีเข้าไปในป่าเขต อ.สีดา จ.นครราชสีมา จึงกดดันจนยอมออกมามอบตัว ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวกลับมาสอบปากคำและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

 

               ขณะที่นางพูลศรี ดลเจือ อายุ 57 ปี ภรรยา พ.ต.ท.จำรัส หลังทราบข่าวรู้สึกตกใจมากเนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายโหดร้ายเกินไป อยากให้ดำเนินคดีถึงที่สุดและให้ได้รับโทษประหารชีวิต ที่ผ่านมาสามีไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือทะเลาะกับใครมาก่อน เป็นคนอัธยาศัยดี 

 

               ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ที่ สภ.กมลาไสย ก่อนจะย้ายไปที่ จ.มหาสารคาม และล่าสุดย้ายมาดำรงตำแหน่ง สวป.สภ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ได้ประมาณ 2 เดือน ก่อนเกิดเหตุยังรับประทานอาหารอยู่ด้วยกัน

 

               จากนั้นก็มาที่บ้านเรือนไทยซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ โดยเช่าที่ดินแห่งนี้ไว้รับซื้อขายไม้บ้านเก่า แต่อยู่ดีๆ ลูกชายโทรมาบอกว่าพ่อถูกฆ่าตายแล้ว 

 

               ด้านนายประดิษฐ์ ศรีชาติ อายุ 70 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุ ซึ่งห่างกันประมาณ 30 เมตร กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เวลา 21.00 น. ขณะที่กำลังนอนดูทีวีที่บ้านพัก ก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้จึงลงมาดู เห็นเปลวไฟกำลังลุกไหม้อยู่บริเวณโรงจอดรถข้างบ้านน็อกดาวน์จึงวิ่งไปดู 

 

               เห็นไฟกำลังลุกไหม้รถยนต์ที่ล้อหลังด้านขวาจึงตะโกนให้เพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกเดียวกันมาช่วยกันดับไฟ และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลาไสย หลังควบคุมเพลิงได้ก็พบศพนอนจมกองเลือดอยู่บนบ้าน ตามลำคอ ร่างกาย เต็มไปด้วยบาดแผล เลือดไหลนองพื้นและอวัยวะเพศถูกตัดหายไป 

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าชุดสืบสวนภูธรกาฬสินธุ์ติดตามคนร้ายรายนี้จนได้เบาะแสว่าคนร้ายได้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะหลบหนีไปตามถนนมิตรภาพเข้ามาในพื้นที่ อ.สีดา จ.นครราชสีมา จึงได้ประสาน พ.ต.ท.ไพบูลย์ คูณค้ำ สว.สส.สภ.สีดา จ.นครราชสีมา เพื่อสนธิกำลังตามจับตัวคนร้าย 

 

               จนกระทั่งมาพบคนร้ายรับประทานอาหารอยู่ในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์จึงได้แสดงตัวจับกุมนายอมรลั จิตรเกาะ  เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่า พ.ต.ท.จำรัส สาเหตุมาจากปมชู้สาว เนื่องจากผู้ตายมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับภรรยาของตนเอง

 

               ต่อมาเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายอมรสัก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มาสอบสวนและทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าวมามุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก

 

               จุดแรกเริ่มต้นจากผู้ต้องหานำขวดน้ำมันมาราดรถฟอร์จูนเนอร์ที่โรงจอดรถแล้วจุดไฟเผา เพื่อล่อให้ พ.ต.ท.จำรัส ออกมาจากบ้าน โดยผู้ต้องหาหลบซ่อนตัวอยู่ใต้บันได 

 

               เมื่อ พ.ต.ท.จำรัส เห็นรถไฟไหม้จึงวิ่งออกมาดู ผู้ต้องหาจึงสบโอกาสนำมีดปลายแหลมยาว 1 ฟุตที่พกติดตัวมาแทงที่ท้องไป 1 ครั้งและคว้าเอาครกตีเข้าที่ศีรษะก่อนกระหน่ำแทงตามร่างกายแบบไม่ยั้งมือจนแน่นิ่งไป จากนั้นใช้มีดตัดอวัยวะเพศของผู้ตายนำไปโยนเข้ากองไฟบริเวณท้ายรถที่กำลังลุกไหม้ 

 

               จากนั้นวิ่งไปขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในตัวเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมโยนมีดทิ้งที่สะพานลำน้ำปาวถนนสายกาฬสินธุ์-ยางตลาด ช่วงบริเวณก่อนถึงร้านอาหารชวนฉวี และขี่จักรยานยนต์หนีเพื่อไปกบดานที่บ้านญาติใน จ.นครราชสีมา แต่ถูกตำรวจชุดสืบสวนตามมาจับกุมได้ที่ อ.สีดา จ.นครราชสีมา เสียก่อน

 

               สอบสวนนายอมรลัก รับสารภาพว่ารู้ระแคะระคายว่า พ.ต.ท.จำรัสมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับภรรยาตนมานานแล้ว โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ภรรยาซึ่งมีอาชีพเป็นหมอดูบอกว่า อยากแก้เคล็ด ซึ่งหากหย่ากับสามีแล้วจะได้เงินล้าน ตนก็ยอมทำตาม แต่ก็ยังอยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยามาตลอด

 

               กระทั่งเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 จึงรู้ความจริง เพราะพ.ต.ท.จำรัส ได้โทรศัพท์เข้าเครื่องลูกชาย เนื่องจากโทรศัพท์ภรรยาเสีย จากนั้นจึงสอบถามลูกชายก็ได้ทราบความจริง 

 

               ต่อมาได้ไปขอร้อง พ.ต.ท.จำรัส เพื่อไม่ให้ยุ่งกับภรรยาหลายครั้ง ทั้งไปเจอด้วยตนเองและพยายามส่งข้อความไปบอกว่า พ.ต.ท.จำรัส มีภรรยา มีครอบครัวแล้วอย่ามายุ่งกับภรรยาตนเลย แต่ พ.ต.ท.จำรัสก็ไม่ฟัง

 

               อีกทั้งระหว่างคบหากัน พ.ต.ท.จำรัส ก็ไม่ได้ให้อะไรภรรยาตนเลย มีแต่ตนที่หาเงินรับจ้างได้วันละ 300 บาท เก็บเงินได้ให้ภรรยาครั้งละ 500-600 บาท แต่ภรรยาก็เอาไปซื้อข้าวเลี้ยงตำรวจหมด

 

               กระทั่งวันเกิดเหตุตนกับภรรยาทะเลาะกันเกี่ยวกับเรื่องห้ามภรรยาไม่ให้ไปยุ่งกับตำรวจ แต่ภรรยาไม่ฟัง อีกทั้งฝ่ายชายก็ยังไม่ยอมหยุด ด้วยความโมโหจึงตัดสินใจไปก่อเหตุดังกล่าว

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ