ผวาทั้งชุมชน มือดีจุดไฟเผาป่า หวิดลามมาบ้านพัก

 

 

                   วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 13.30 น. ศูนย์วิทยุ191 ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ได้เกิดเหตุไฟไหม้ป่าอย่างรุนแรง ที่ท้ายหมู่บ้านชุมชนดงวัด ตำบลหมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี  จึงได้ประสานยังไปเจ้าหน้าที่ดำเพลิง ของเทศบาลนครอุดรธานี จากนั้น ร.ต.อ.พิทักษ์  พรมวงษ์ซ้าย รองสวป.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วย ตำรวจเขตงานธรรมศักดิ์ และรถดับเพลิงของเทศบาลนครอุดรธานี จำนวน5 คัน รุดไปตรวจสอบ

โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ได้ระดมฉีดน้ำ ไฟได้ลุกไหม้ในป่าหญ้าแห้ง เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งมีรั้วและประตูเหล็กปิดเอาไว้ ทำให้เป็นอุปสรรค ในการเข้าไปควบคุมเพลิงไหม้ ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ชุมชน โดยไฟได้ลุกไหม้เริ่มมาจากพื้นที่ปลูกข้าวทำนา แล้วลามไหม้มายังทิศใต้และไปยังทิศเหนือของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นป่าหญ้ารกร้างกินพื้นไป 20 กว่าไร่  เนื่องจากมีลมกรรโชกพัดมาในนั้น โดยไฟได้ลามไปถึงรั้วกำแพง ค่ายทหาร มทบ.24  ซึ่งมีบ้านพักอยู่เพียง1 หลัง ที่อยู่บริเวณแถวนั้น เป็นบ้านปูนชั้นเดียว  โดยมีนายวรวิทย์  คงสิมา  อายุ55ปี เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งเอาสายยางทำการฉีดน้ำทำการดับไฟ ที่กำลังจะลามเข้ามาในบ้าน

 

 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ. 24  จำนวน 7-8 นาย ได้ออกมาช่วยเหลือดับไฟไหม้ ในบริเวณรอบบ้านหลังดังกล่าว และจุดที่มีไฟยังลุกไหม้ขึ้นอยู่ นอกรั้วบ้าน  ใช้เวลากว่า 2ชั่วโมง ถึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ทำให้ชาวบ้าน ในชุมชนดงวัดพากันโล่งใจ ที่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ เนื่องจากทุกปี จะเกิดไฟไหม้ป่าขึ้นมาในช่วงฤดูแล้ง อยู่ตลอด ในบริเวณพื้นที่100 กว่าไร่ ที่เป็นป่าหญ้ารกร้าง ซึ่งจะอยู่ใกล้กับชุมชนดงวัด 

นางพร  จันทร์แซม อายุ52ปี ประธานชุมชนดงวัด เปิดเผยว่า หลังจากชาวบ้านในชุมชนแจ้งมาว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ เริ่มจากทุ่งนาที่อยู่ติดกับถนนเลี่ยงเมือง อุดร-หนองบัวลำภู แล้วลามเข้ามายังทางทิศใต้ของหมู่บ้าน จึงได้ออกมาดู คาดว่าอาจจะมีคนจุดเผาป่าหญ้าตรงที่เป็นทุ่งนาปลุกข้าว แล้วลามเข้ามา เพราะบริเวณ พื้นที่ป่าหญ้าและทุ่งนา ซึ่งอยู่ติดกัน มีพื้นทั้งหมดอยู่ประมาณ 100 กว่าไร่   

นายวรวิทย์  คงสิมา ได้บอกว่า ตนเป็นอาจารย์สอน ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองอุดรธานี  โดยบ้านหลังนี้ ตนได้ปลูกสร้างมาได้ประมาณ 3ปี ซึ่งจะเลี้ยงเป็ดไก่และวัว เอาไว้ โดยจะมานอนพักเป็นบางวัน ปกติตนจะพักอยู่ที่บ้าน ในชุมชนดงวัด แต่ก็แวะเวียนมาดูบ้านหลังนี้อยู่ตลอดทุกวัน ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการขอเลขที่บ้าน ในขณะที่ตนกำลังจะกินข้าวอยู่นั้น ชาวบ้านได้บอกว่าไฟไหม้ป่า แล้วกำลังลามมาถึงบ้านของตน

 

 

 

จากนั้นตนก็ได้ออกมาดู ในตอนแรกก็ตกใจกลัว เห็นไฟไหม้กำลังจะลามเข้ามาจะถึงตัวบ้าน จึงได้ทำการต่อสายยางทำการฉีดน้ำดับไฟ ที่ไหม้อยู่ข้างรั้วบ้าน โดยที่คอกเลี้ยงวัว ตนพึ่งซื้อฟางข้าวอัดก้อนมาไว้ เพื่อเอาไว้ให้วัวกิน แต่ก็ถูกไฟไหม้เสียหายเกือบหมด โดยทุกปี จะเกิดเหตุไฟไหม้ป่าขึ้นมา ตนก็ได้ติดตั้งปั๊มน้ำเอาที่สระน้ำเลี้ยงปลา เพื่อเอาใช้ดับไฟ เวลาเกิดเหตุไฟไหม้ป่าขึ้นมา ต่อไปตนคงต้องทำที่กักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นมาอีก ในบริเวณรอบพื้นที่บ้าน  โดยไฟไหม้ป่าครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมากกินพื้น เป็นวงกว้างเกือบมาถึงบ้านพักของตน อย่างไรก็ตามคงต้องให้ประธานชุมชน ทำการ เรียกชาวบ้าน มาทำการประชุม  ในการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ไม่ให้มีการจุดไฟเผาป่าขึ้นมา หรือทิ้งก้นบุหรี่ และอะไรที่เป็นเชื้อไฟ โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ใกล้กับป่ากับจุดที่เกิดไฟไหม้ป่าขึ้นมาบ่อยครั้ง   

นายกฤษดา  จันทร์ดวง  ผู้สื่อข่าว  ภูมิภาค จ.อุดรธานี