บุกจับน้องชายปลิดชีพพี่สาว แค้นขัดแย้งธุรกิจนากุ้ง

              จากกรณีคนร้ายบุกเข้าไปในบ้านไม่มีเลขที่ ของนางสะอื้น ช่วยทอง อายุ 53 ปี เจ้าของสวนปาล์มและนากุ้ง ในซอยบางสะพาน 36 หมู่ 7 ต.บางจาก อ.เมืองนครศรีธรรมราช ขณะนางสะอื้นอยู่บ้านเพียงลำพัง โดยคนร้ายใช้ของมีคม ฟันที่ศีรษะกว่า 10 แผล จนศีรษะเละตายสยองคาบ้าน โดยขณะเกิดเหตุ นายจรัส ช่วยทอง อายุ 52 ปี สามีของนายสะอื้น ออกไปทำธุระนอกบ้าน เมื่อกลับมาพบว่า ภรรยาถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมอยู่ในบ้าน หลังเกิดเหตุตำรวจได้สืบสวนสอบสวน ส่วนสาเหตุในตอนแรกตำรวจพุ่งเป้าไปที่คนร้ายพยายามชิงทรัพย์ทองคำรูปพรรณนา 6 บาทของผู้ตาย เมื่อถูกผู้ตายขัดขืนจึงใช้มีดพร้าฟันจนเสียชีวิตก่อนหลบหนีไปโดยไม่ได้ทองคำและทรัพย์สินใด ๆ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา

(2 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงาน พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน รองผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช  เปิดเผยว่า คดีนี้ทางผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญเป็นอย่างมาก จึงกำชับให้เร่งสืบสวนิตดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำพเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานจนมีพยานหลักฐานว่าไม่ใช่คดีฆ่ากันตายเพราะคนร้ายพยายามชิงทรัพย์ แต่สาเหตุมาจากปัญหาทะเลาะวิวิวาทกันในหมู่พี่น้องด้วยกัน จนตำรวจสามารถรวบรมพยานหลักฐานและเสนอาลออกหมายจับกุมนายอนุศาสตร์ สมปรีดา อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นน้องชายร่วมสายเลือดแท้ ๆ ของนางสะอื้น เป็นฆาตกรที่ก่อเหตุ

            “ตนพร้อมด้วย พ.ต.ต.ณัฐภัทร พุทธังกุโร สว.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำกำลังพร้อมหมายจับคดีฆ่าผู้อื่นของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าจับกุมนายอนุศาสตร์ สมปรีดา อายุ 45 ปี ที่บ้านพักเลขที่ 96/1 หมู่ 7 ต.บางจาก อ.เมืองนครศรีธรรมราช  พร้อมยึดยึดเสื้อผ้า ที่นายอนุศาสตร์ ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันก่อเหตุ มาเป็นหลักฐานทางคดี”

               ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับนักประดาน้ำ ได้งมหามีดพร้าของกลาง ที่พยานให้เบาะแสกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านายอนุศาสตร์ ผู้ต้องหา ได้โยนมีดพร้าที่ในการก่อเหตุทิ้งลงในนากุ้งในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งมีพยานยืนยันว่า หลังก่อเหตุนายอนุศาสตร์ได้โยนมีดพร้าทิ้ง แต่ยังค้นหาไม่พบ จึงควบคุมตัวนำส่ง พ.ต.ท.จรินทร์ ขาวเอี่ยม รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามนายอนุศาสตร์ ผู้ต้องหายังปากแข็งให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าจะขอให้การในชั้นศาลอย่างเดียวเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐาน

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเช้าวันที่ 1 ก.พ.) พนักงานสอบสวนควบคุมตัวนายอนุศาสตร์ ผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝาขังผลัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว และศาลพิจารณาไม่อนุญาตให้ประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงควบคุมตัวนายอนุศาสตร์ ผู้ต้องหาเขาเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชต่อไปแล้ว

ทั้งนี้ในส่วนของสาเหตุของการก่อคดีในการสอบสวนสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า นางสะอื้น ผู้ตาย และนายอนุศาสตร์ น้องชายผู้ต้องหา มีปัญหาขัดแย้งสะสมกันมานานหลายปี จนล่าสุดมาจุดระเบิดจนนำมาสู่การฆ่าโหดพี่สาวตัวเอง จากเป็นความขัดแย้งเรื่องที่ดินที่ใช้ทำนากุ้ง โดยก่อนหน้านี้นางสะอื้น ผู้ตายและน้องชายเคยทำนากุ้งร่วมกัน แต่มีปัญหากันทำให้นางสะอื้นเลิกทำนากุ้ง และให้นายทุนรายหนึ่งมาเช่าที่ดินนากุ้ง ทำแต่นายอนุศาสตร์ น้องชายไม่ยินยอมและไม่พอใจนางสะอื้น พี่สาวอย่างหนัก เพราะนายอนุศาสตร์ น้องชาย ต้องการเลี้ยงกุ้งหรือทำนากุ้งเอง และไม่ยินยอมให้บุคคลภายนอกมาเช่า จนกลายเป็นปัญหาการทะเลาะกันระหว่างพี่น้องมาด้วยตลอด

            ก่อนเกิดเหตุนายอนุศาสตร์ ผู้ต้องหาได้ไปหานางสะอื้น ผู้ตายซึ่งเป็นพี่สาวที่บ้าน เพื่อเคลียร์ปัญหาคาใจกัน แต่ตกลงกันไม่ได้ นายอนุศาสตร์ บันดาลโทสะ ใช้มีดพร้าฟันเข้าที่ศีรษะของนางสะอื้น พี่สาวอย่างโหดเหี้ยมไม่ยั้ง จนนางสะอื้น ล้มจมเลือดเสียชีวิตคาที่ หลงเกิดเหตุนายอนุศาสตร์ น้องชายจอมโหด ได้วิ่งออกไปจากบ้านพี่สาว และใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราชนำกำลังพร้อมหมายจับเข้าจับกุมตัวได้โดยละม่อมดังกล่าว.

ภาพ/คลิป  ยุทธนะ  เตมะศิริ นครศรีธรรมราช