มิจฉาชีพแสบ อ้างแม่ฟ้าหลวง หลอกชาวบ้าน พบเหยื่อหลายราย

                      วันที่ 27 ม.ค.2563 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านสายโท 3 ใต้ หมู่ 1 ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ว่ามีมิจฉาชีพมาหลอกอ้างจะเอาปุ๋ยของโครงการแม่ฟ้าหลวงมาแจก แล้วเชิดเงินหนี

จากการตรวจสอบที่หมู่บ้านสายโท 3 ใต้ พบว่ามีชาวบ้านกว่า 10 ราย ถูกกลุ่มมิจฉาชีพมาหลอกได้เงินไปร่วม 10,000 บาท แล้วหลบหนีไปติดต่อไม่ได้ มีเพียงภาพจากบัตรประชาชนของคนร้ายที่ชาวบ้านถ่ายไว้ได้ระหว่างมาติดต่อ

นางณัฐกฤตา ปักษา อายุ 41ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 1 ต จันทบเพชร อ บ้านกรวด จ บุรีรัมย์ (ผู้หญิงผมยาว เสื้อแขนยาวสีเทา)เล่าว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2563 ที่ผ่านมาได้มีชาย 3 คน ขับรถกะบะ เชพโรเลต  สีบอร์น ทะเบียน บธ 4158 สุรินทร์ มาเสนอปุ๋ยสำหรับต้นข้าว ต้นยาง  โดยบอกว่ามาจากโครงการ”แม่ฟ้าหลวง”

ให้ทดลองใช้ปุ๋ยก่อนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่ต้องจ่ายขนส่งกระสอบละ 20 บาท  โดยมีการยืนยันระบุว่าเป็นปุ๋ยมีคุณภาพของบริษัทพสิษฐ์ปุ๋ยไทยอินเตอร์ จำกัด พร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ

ส่วนหนึ่งมีความระแวง จึงสอบถามละเอียดถึงที่มาของโครงการ ที่เก็บปุ๋ย กลุ่มคนร้ายอ้างว่า เป็นโครงการที่ส่งมาถึงชาวบ้านโดยตรง และเมื่อมาเห็นใบส่งปุ๋ยของบริษัท ระบุที่อยู่ชัดเจน ตนจึงเชื่อแต่ขอจ่ายค่าขนส่ง 600 บาทก่อน จากยอด 1,200 บาท เมื่อปุ๋ยมาถึงก็จะจ่ายให้ครบจำนวน

นอกจากนี้ยังขอดูบัตรประชาชนของผู้เขียนใบส่งของ และถ่ายภาพบัตรประชาชนไว้ คือนายประสิทธิ์ พระกระโทก อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 5 ต.คำน้ำแซ่บ  อ วารินชำราบ จ อุบลราชธานี และมาทราบต่อมาว่ามีชาวบ้านในหมู่บ้านอีกกว่า 10 คนที่จ่ายเงินค่าขนส่งไปแล้วเหมือนกัน

หลังจากนั้น ตนได้ถามผู้ใหญ่บ้าน ก็ได้คำตอบว่า ไม่เคยมีโครงการดังกล่าว จึงโทรศัพท์ติดต่อ กลุ่มคนทั้ง 3 ก็ยังตระเวนอยู่ใน อ.บ้านกรวด กระทั่งเลยวันนัดส่งปุ๋ย ก็ไม่สามารถติดต่อแก๊งนี้ได้ จึงเชื่อว่าโดนหลอก ก่อนจะเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.บ้านกรวด เพื่อติดตามคนร้ายมาลงโทษ

ด้านนางบัวเลา ท่วมไธสง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 1 ต จันทบเพชร อ บ้านกรวด จ บุรีรัมย์(เสื้อแขนยาวสีเทาเข้ม) บอกว่า ตนก็ระแวงเช่นกัน จึงสอบถามถึงที่เก็บปุ๋ย นายประสิทธิ์ หนึ่งในแก๊งบอกว่าอยู่ที่ว่าการอำเภอบ้านกรวด  

ตนก็บอกว่าไปอำเภอตลอดไม่เห็นมีปุ๋ย ก็บอกอีกว่าปุ๋ยอยู่โรงพัก สุดท้ายก็โดนหลอกเสียเงินไป 1,200 บาท ทั้งที่ระวังตัว จึงอยากจะให้ตำรวจติดตามกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะมีหลักฐานทั้งบัตรประชาชนและทะเบียนรถ และไม่อยากให้ไปหลอกชาวบ้านที่อื่นอีก

ภาพ/ข่าว ธีรยุทธ ชำนาญกอง ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์