เผาแล้ว 5 ร่างเหยื่อเรือล่ม รัฐมนตรี วราวุธ จ่อให้ทำถนน

            เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ที่บริเวณวัดท่าปลา ต.ท่าปลา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ นายศรัณย์วุฒิ  ศรัณย์เกตุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)จังหวัดอุตรดิตถ์ เขต2 พรรคเพื่อไทย เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 5 ราย จากกรณีเรือบรรทุกสินค้า มีลักษณะคล้ายเรือโดยสารวิ่งออกจากบ้านห้วยต้า หมู่ 4 ต.นางพญา เพื่อนำสินค้ามาส่งให้กับลูกค้าที่บริเวณบ้านท่าเรือ ต.ท่าปลา ระหว่างที่เรือแล่นห่างจากเกาะสิงโต กลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกวิ่งเข้าชนกับตอไม้ขวางอยู่ในน้ำ เป็นเหตุทำให้เรือจมลงน้ำทันที ผู้โดยสารพร้อมทั้งคนขับเรือ รวม 11 ชีวิต อาศัยมากับเรือลำนี้ตกลงไปในน้ำขณะที่เรือกำลังจมน้ำ ทุกคนต่างแหวกว่ายน้ำที่มีความลึก 20-25 เมตร เพื่อเอาตัวรอด บางคนอาศัยจับเศษไม้ที่มากับเรือลอยคอเข้าหาฝั่งได้ถึง 6 คน 

ส่วนอีก 5 คนจมน้ำเสียชีวิตประกอบด้วย นายจันทร์  น้อยขัน อายุ 75 ปี นายสนิท  น้อยขัน อายุ 52 ปี นายประเรียน  อภิยะ อายุ 51 ปี (คนขับเรือ) นางปรีดา  อภิยะ อายุ 43 ปี และ น.ส.สุนิตา น้อยขัน อายุ 34 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นญาติพี่น้องกัน เหตุเกิดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 มกราคม 63 ที่ผ่านมา

การฌาปนกิจศพครั้งนี้ ทางญาติพี่น้องทุกคนมีความเห็นให้ทำตามประเพณีโบราณ ด้วยการตั้งศพ นายสนิท  น้อยขัน, นายประเรียน  อภิยะ, นางปรีดา  อภิยะ, ปี และ น.ส.สุนิตา น้อยขัน ไว้บนกองฟอนไม้โบราณหรือเมรุชั่วคราว จำนวน 4 กอง นำศพนายจันทร์  น้อยขัน ซึ่งมีอายุมากสุดตั้งไว้บนเมรุ และให้ทำพิธีฌาปนกิจศพพร้อมกันทีเดียว บรรยากาศภายในงาน เป็นไปอย่างโศกเศร้าเสียใจ อาลัยต่อผู้จากไปโดยที่ไม่มีการสั่งเสียก่อนลา

โดยมีนายสมศักดิ์  ชุ่มแจ่ม นายอำเภอท่าปลา ผู้นำท้องถิ่นพื้นที่อำเภอท่าปลา ชาวบ้านท่าปลาพร้อมญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านจากหมู่บ้านห้วยต้าและหมู่บ้านนางพญา จำนวนเรือนหมื่น ร่วมงานพิธีฌาปนกิจศพ เพื่อเป็นการแสดงความเสียใจและอาลัยต่อการจากไปผู้ของผู้วายชนทั้ง 5 ชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย

ทั้งนี้ ก่อนพิธีฌาปนกิจศพ นายศรัณย์วุฒิ สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ประธานในพิธีได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย พร้อมรับเอกสารหนังสือจาก น.ส.วิภา  เตชะภู สมาชิกสภาจังหวัด(สจ.)อุตรดิตถ์ เขตอำเภอท่าปลา และนายยงยุทธ  สิงห์เต ผู้ใหญ่บ้านหมู่4 บ้านห้วยต้า ต.นางพญา  เรียกร้องขอให้มีการสร้างถนนตัดผ่านจากบ้านห้วยต้าผ่านเข้ายังพื้นที่ทางบกเพื่อเข้าหมู่บ้านน้ำพร้า บ้านกิ่วเคียน บ้านต้นแดง บ้านเพลิงป่าคา บ้านห้วยพญา โดยตัดพื้นที่เส้นทางป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่อุทยานลำน้ำน่านบางส่วนทำเป็นถนนให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรทะลุผ่านไปมาได้  เป็นการย่นระยะการเดินทางและการขนส่งสินค้าพืชผลทางการเกษตรเข้าสู่ตัวอำเภอท่าปลาและตัวเมืองอุตรดิตถ์ จากทางน้ำที่ต้องใช้ระยะทางกว่า 30 กิโลเมตรทางน้ำ หากตัดถนนผ่านพื้นที่ป่านสงวนและอุทยานบางส่วน ด้วยระยะทาง 9-13 กิโลเมตร จะทำให้ชาวบ้านสะดวกต่อการเดินทางโดยไม่ต้องเสี่ยงอุบัติภัยทางน้ำ ที่เจอเป็นประจำและยังเป็นอุบัติที่ภัยหมู่เป็นการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ที่ผ่านมาการเดินทางจากบ้านห้วยต้าเข้าสู่ตัวเมืองมี 2 วิธีคือ ทางน้ำโดยเรือ ในเวลาในการเดินทางเกือบ 3 ชั่วโมง กับทางอากาศโดยเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายศรัณย์วุฒิ สส.อุตรดิตถ์ รับเรื่องปัญหาความร้อนจากชาวบ้านห้วยต้า จึงประสานกับนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทางโทรศัพท์ทันที ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับปากจะหาทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนที่ชาวบ้านห้วยต้าได้รับ ด้วยการพิจารณาให้มีการตัดถนนผ่านพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานลำน้ำน่าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านการเดินทางและเป็นการลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินให้กับชาวบ้านในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรบ้านห้วยต้า และทรงติดตามงานในโครงการตามพระราชดำริ ถึง 11 ครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537-2549 เป็นระยะเวลายาวนานถึง 13 ปี พระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ในความทุกข์สุขของราษฎร ด้วยความวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่งยากที่ใครจะได้รับความเมตตาเช่นนี้ในแผ่นดิน

ภาพ/ข่าว สมภพ  สินพิพัฒนฤดี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดอุตรดิตถ์