เปิดใจเด็ก.2ถูกทำร้ายจนแขนหัก พร้อมให้อภัยเพื่อนหากสำนึกผิด

              จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กได้นำภาพคลิปนักเรียนชาย มีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อย ทำร้ายร่างกายกันในห้องเรียนโรงเรียนขยายโอกาสแห่งหนึ่งในอำเภอพุนพิน จนอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมข้อความว่า"ขอพื้นที่หน่อยนะครับ พอดีหลานผมโดนทำร้าย คุณครูไปอยู่ไหนกันหมดครับ ทำไมให้นักเรียนทะเลาะกับแบบนี้ แล้วแบบนี้ไม่ตายโหงกันหมดเห้อ คือแบบนี้มันรุนแรงเกินไปนะครับ แล้วแบบนี้ใครจะรับผิดชอบ กระดูกแตกหัวบวม แล้วชายโครงมีรอยมี จี้ 3 จุด ตอนนี้น้องรอผ่าตัดอยู่ แบบนี้มันแรงไป ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้กับลูกหลานพวกคุณคุณจะรับได้มั้ยครับ #ช่วยกันแชร์หน่อยนะครับ"ซึ่งมีคนเข้ามากดแชร์และร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ภายในคลิปจำนวนมากและต่อมาได้มีการลบคลิปนี้ออกไปแล้ว

       ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น.(22 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ตึกฉุกเฉินชั้น 5 เตียง 23 พบกับ น.ส.ลูกปลา จำนงค์พันธุ์ อายุ 38 ปีผู้เป็นแม่ที่เฝ้าดูอาการของน้องวาย อายุ 14 ปี เด็กชายที่ถูกทำร้ายร่างกาย เรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 2/2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับบาดเจ็บแขนซ้ายหัก ใบหน้า ลำตัว ฟกช้ำ ศีรษะ ปูดบวม ชายโครงขวามีรอยแดงจ้ำๆ 3 จุดโดยแพทย์ได้เข้าฝึกและอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันนี้ หลังจากที่นอนรักษาตัวที่ รพ.สุราษฎร์ธานี เป็นเวลา 2 วันและแพทย์นัดดูอาการอีกครั้งในวันที่ 31 ม.ค.นี้ โดยวันนี้อาการของน้องดีขึ้นมากร่องอาการรอยฟกช้ำเริ่มหาย มีเพียงแขนด้านซ้ายที่ต้องเข้าเฝือกและมือยังบวม

                  วันนี้นายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำเภอพุนพิน นายชัยยศ กล่อมทอง นายก อบต.เขาศรีวิชัยพื้นที่เกิดเหตุพร้อมคณะครูประจำชั้นได้มาเยี่ยมดูอาการของน้องวาย พร้อมกับมอบกระเช้าของเยี่ยมพูดให้กับกำลังใจพร้อมพูดไกล่เกลี่ยประณีประนอม อย่าไปโกรธแค้นอาฆาตเพื่อน ให้อภัยน้องแชมป์ ผู้กระทำที่อาจจะทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และรุนแรงไปที่เป็นญาติและเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล  ซึ่งทางครอบครัวของน้องแชมป์ผู้กระทำผิดพร้อมที่จะรับผิดชอบเยียวยาทุกอย่าง ขณะที่น้องวายผู้บาดเจ็บพยักหน้า เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าแขนที่หักถูกแรงเหวี่ยงไปกระแทกกับขอบประตูห้องเรียนจนแตกหักและพร้อมที่จะให้อภัยและยอมเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเพียงแต่ขอว่าอย่ามาทำร้ายกันอีก

ด้าน น.ส.ลูกปลา จำนงพันธ์ อายุ38ปีแม่ของน้องวาย  กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเด็กรบกันทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่ซีเรียส แต่พอได้ดูคลิปแล้วทำใจไม่ได้  ถึงแม้ว่าน้องที่ก่อเหตุก็เป็นญาติกันด้วย ส่วนจะยอมความหรือไม่นั้นต้องต้องปรึกษากับสามีก่อน พ่อแม่ฝ่ายผู้ก่อเหตุจะต้องมาพูดคุยกันก่อนถึงจะเป็นญาติกันก็ตาม ในเบื้องต้นก็อยากจะดัดนิสัยเด็กๆนิดหน่อยที่ชอบทะเลาะและใช้ทำรุนแรงเกินไป ส่วนอาการบาดเจ็บของลูกชายแพทย์ได้ดึงกระดูกเข้าที่แล้วและเข้าเฝือกดูการเชื่อมต่อของกระดูกที่แตกหากกระดูกไม่เชื่อมต่อก็จะต้องฝ่าตัด โดยแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านในวันนี้และนัดอีกครั้งในวันที่ 31 มกราคมนี้ส่วนอาการบาดเจ็บอย่างอื่นๆทุเลาลงแล้ว

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่าตำรวจไม่รับแจ้งความนั้น ด้าน พ.ต.ท.เสวี เวชพิทักษ์ รอง ผกก.สภ.พุนพิน ในฐานะหัวหน้างานสอบสวน กล่าวว่าเป็นการเข้าใจผิดและที่คลาดเคลื่อน ซึ่งในเบื้องพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ส่วนจะรับเป็นคดีอาญาหลังจากผลการตรวจของแพทย์ลงความเห็นว่าบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกายอาการสาหัส จากนั้นเข้าสู่กระบวนการสอบปากคำเด็กและต้องมีสหวิชาชีพเข้าร่วมด้วย เนื่องจากเป็นเด็กทั้งคู่ทั้งผู้กระทำและถูกกระทำ ส่วนจะไกล่เกลี่ยได้หรือไม่นั้นตอนนี้ผู้บาดเจ็บเข้าข่ายถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส เป็นความผิดอาญาแผ่นดินไม่สามารถยอมความได้ ไม่ใช่ความผิดอันยอมความได้อัตราโทษเกิน 3 ปี ในชั้นพนักงานสอบสวนไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ แต่ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายจะเยียวยากันโดยผู้ทำร้ายเยียวยาหรือจ่ายค่าทำขวัญให้กับฝ่ายผู้บาดเจ็บ ก็สามารถกระทำได้โดยทางฝ่ายพนักงานสอบสวนจะทำบันทึกให้ แต่ในส่วนของคดีอาญาทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายได้รับบาดเจ็บสาหัส ทางพนักงานสอบสวนจำเป็นต้องแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายบาดเจ็บสาหัส และสรุปส่งสำนวนให้อัยการเพื่อฟ้อง และส่งศาลเยาวชนและครอบครัวแต่เมื่อถึงชั้นศาลหากคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายไม่ติดใจหรือยอมความกันและผู้ต้องหาเป็นเยาวชนอายุเพียง 14 ปีและอยู่ในวัยศึกษาศาลก็อาจจะใช้ดุลยพินิจให้โอกาสก็เป็นได้ .

ภาพ/ข่าว  ณัฐธิดา เริ่มฤกษ์  ผสข.สุราษฎร์ธานี