ข่าว

หลานโดนทำร้ายในห้องเรียนจนแขนหัก แต่ไร้การเหลียวแล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลานโดนทำร้ายในห้องเรียนจนแขนหัก แต่ไร้การเหลียวแลจากผอ.-ครู

 

 

    จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ 'ฟร์อดด' ดีไม่ห่างเหินน' (ขอร้อง น้องอย่าผววน)” ได้นำภาพคลิป จำนวน 2 คลิป ซึ่งเป็นคลิปนักเรียนผู้ชายภายในห้องเรียน โรงเรียนหนึ่งมีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อย ทำร้ายร่างกายกัน จนอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมข้อความว่าลงในเฟชบุ๊กส่วนตัวว่า"ขอพื้นที่หน่อยนะครับ พอดีหลานผมโดนทำร้าย คุณครูไปอยู่ไหนกันหมดครับ ทำไมให้นักเรียนทะเลาะกับแบบนี้. แล้วแบบนี้ไม่ตายโหงกันหมดเห้อ คือแบบนี้มันรุนแรงเกินไปนะครับ แล้วแบบนี้ใครจะรับผิดชอบ กระดูกแตกหัวบวม แล้วชายโครงมีรอยมี จี้ 3จุด ตอนนี้น้องรอผ่าตัดอยู่ แบบนี้มันแรงไป ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้กับลูกหลานพวกคุณคุณจะรับได้มั้ยครับ#ช่วยกันแชร์หน่อยนะครับ” ซึ่งมีคนเข้ามากดแชร์และร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ภายในคลิปจำนวนมาก เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 63 นายภิญญา ทองเผือก อายุ 40ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/1 หมู่ที่ 4 ต.ลีเล็ต อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พ่อของเด็กชายที่ถูกคู่กรณี ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า เด็กชายที่ถูกทำร้ายร่างกายภายในคลิปคือลูกชายของตนเองชื่อ ด.ช.เอกวิทย์ หรือน้องวาย ทองเผือก อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 2/2 โรงเรียนวัดเขาศรีวิชัย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สุราษฎร์ธานี เพราะได้รับบาดเจ็บแขนซ้ายหัก ใบหน้า ลำตัว ชกช้ำ ศีรษะ บูดบวม ชายโครงขวามีรอยแดงจ้ำ ๆ 3 จุดโดยแพทย์ได้ให้นอนพักฟื้นรอดูอาการและรักษาตัวที่ รพ.สุราษฎร์ธานี จนกว่าอาการจะดีขึ้น

นายภิญญา กล่าวต่อว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.วันที่ 20 ที่ผ่านมาได้มีเพื่อนบ้านโทรมาแจ้ง ว่าลูกชายถูกทำร้าย และเมื่อไปไปถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน พบลูกชาย สภาพใส่เฝือกที่แขน นั่งร้องไห้อยู่เพียงลำพัง รู้สึกตกใจมากก่อนนำส่งรักษาต่อ รพ.สุราษฎร์ธานี. และจากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่ามีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่พอภรรยาและญาติๆ ได้ดูคลิป แล้วนำมาเล่าให้ตนฟัง ก็รู้สึกโมโห และเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก ที่ทางโรงเรียนปล่อยให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนั้นขึ้นได้อย่างไร  ถ้าลูกเกิดทำผิดจะถูกครูตีลงโทษยังไง แบบไหนก็ไม่โกรธ. ยิ่งหลังเกิดเหตุแล้วยังไม่มีครูตามไปดูแลลูกชายที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน ซึ่งอยู่คนละฝั่งถนนกับโรงเรียนแม้สักคนเดียวตนรู้สึกผิดหวังในการทำหน้าที่ของครูที่ปล่อยปะละเลย  ขณะนี้ตนให้ภรรยานำคลิปหลักฐานไปแจ้งความไว้ที่ สภ.พุนพิน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่รับแจ้งความ เพียงแต่ลงบันทึกประจำวันไว้ให้เฉยๆ อ้างว่าต้องรออีก15 วันให้ลูกชายหายดีค่อยนำตัวไปสอบปากคำ สร้างความมึนงงให้ตัวเองเป็นอย่างมากเนื่องจากลูกชายตนเอง ถึงจะบาดเจ็บแต่สามารถให้การได้แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอมไปสอบปากคำ

หลานโดนทำร้ายในห้องเรียนจนแขนหัก แต่ไร้การเหลียวแล

 

จาการสอบถาม ด.ช.เอ. เพื่อน ที่อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่าเหตการณ์ดังกล่าวเกิดภายในห้องเรียน เมื่อช่วงเที่ยง ของวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา สาเหตุเริ่มจากเด็กชาย "แชมป์" เพื่อนร่วมชั้นเรียน หัวโจ้กของห้องมีรูปร่างสูงใหญ่กว่า ผู้บาดเจ็บ เล่นหยอกล้อกัน ก่อนที่ ด.ช.แชมป์ จะใช้มือตบศีรษะผู้บาดเจ็บถึง  2 ครั้ง ทำให้ผู้บาดเจ็บ พูดเล่นๆใส่ ด.ช.แชมป์ ว่าจะพาเพื่อนมารุมทำร้ายเอาคืน ด.ช.แชมป์ เป็นเหตุให้ ด.ช.แชมป์ บันดาลโทสะ เข้าชกต่อยทำร้ายร่างกาย และใช้เก้าอี้ตี ด.ช.วาย จนล้มกับพื้นได้รับบาดเจ็บ พร้อมพยามบอกให้ ผู้บาดเจ็บกราบขอโทษ นอกจากนั้นทราบว่ายังพยามใช้กรรไกร ดัดแปลง ที่พกติดตัวมาด้วย พยามแทงใส่อีกด้วย แต่โชคดีที่ติดเสื้อทำให้เป็นแค่รอยจ้ำๆ แดงๆ และเพื่อนๆในชั้นเรียนได้พา ผู้บาดเจ็บส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนวัดเขาศรีวิชัย

หลานโดนทำร้ายในห้องเรียนจนแขนหัก แต่ไร้การเหลียวแล

หลานโดนทำร้ายในห้องเรียนจนแขนหัก แต่ไร้การเหลียวแล

ล่าสุดวันนี้ ตนได้เดินทางไปพบ ผอ.โรงเรียนซึ่งมีการเจรจาเบื้องต้นไว้ว่าโรงเรียนจะขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เอง พร้อมขอให้ญาติๆ ลบคลิปทั่งหมดออก อ้างว่าทำให้ทางโรงเรียนเสียชื่อเสียง ขณะที่ทางญาติคู่กรณีได้ติดต่อผ่านทางญาติๆ มาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 3หมื่นบาทให้ เพื่อให้ยอมความจบคดี  แต่ตนยังไม่มีการเจรจาตกลงแต่อย่างใด เนื่องจากล่าสุดทราบว่าทางคู่กรณีได้อัดคลิปโพสต์ลง เฟชบุ๊ก พูดประมาณว่าความผิด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมากก็แค่ติดสถานพินิจไม่กี่วันเท่านั้นเอง ทำให้ตนเกิดเกรงกลัวเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูก ที่จะต้องกลับไปเรียนต่อหลังจากหายบาดเจ็บ ที่สำคัญกลัวลูกชายจะถูกกดดันหลายอย่าง แต่ไม่คิดจะย้ายโรงเรียนอย่างแน่นอน

หลานโดนทำร้ายในห้องเรียนจนแขนหัก แต่ไร้การเหลียวแล

ภาพ/เที่ยงทำ ข่าว สันทัด เจ็ดเสมียนใหม่ ผู้สื่อข่าวจังหวัดสุราษฎร์ธานี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ