พ่อเมืองสั่งเข้ม รื้อตอใต้น้ำเหตุทำเรือล่ม

 

 

               เมื่อวันที่ 21 มกราคม 63 ที่ศาลาการเปรียญวัดท่าปลา ต.ท่าปลา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ นายธนากร  อึ้งจิตรไพศาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เดินทางเข้ากราบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายประเรียน อภิยะ คนขับเรือ,นางปรีดา อภิยะ ,น.ส.สุนิตตรา น้อยขัน,  นายจันทร์ น้อยขัน, และ นายสนิท น้อยขัน จากเหตุเรือพุ่งชนตอไม้กลางอ่างน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ร่วมกับหน่วยงานราชการภาครัฐและเอกชน อาทิ เงินส่วนตัวผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เหล่ากาชาดจังหวัดอุตรดิตถ์ แม่บ้านมหาดไทย หน่วยงานทหารจากมณฑลทหารบกที่35 ตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์จังหวัดอุตรดิตถ์ ชมรมแม่บ้านดีเด่นแห่งชาติ จังหวัดอุตรดิตถ์ หอการค้าจังหวัดอุตรดิตถ์ และเขื่อนสิริกิติ์ มอบเงินให้การช่วยเหลือแก่ญาติผู้เสียชีวิต โดยมีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านจากพื้นที่ตำบลนางพญาร่วมงานอย่างคับคั่ง บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก

นอกจากนี้ ทางญาติผู้เสียชีวิตยังจะได้รับเงินช่วยเหลือจากเงินตอบแทน พรบ.ค่าตอบแทนจากผู้เสียหายในคดีอาญา พ.ศ.2544 กรณีถึงแก่ความตาย เป็นค่าตอบแทนจำนวนเงิน 30,000 แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ค่าจัดการศพ 20,000 บาท ค่าอุปการะเลี้ยงดูอีก 40,000 บาท และค่าเสียหายอื่นอีกไม่เกิน 40,000 บาท

 

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้พูดคุยสนทนากับผู้รอดชีวิตจากเหตุเรือล่มครั้งนี้ด้วย และได้สนทนากับด.ญ.สุภาวดี ธรรมวงศ์ อายุ 9 ขวบ ซึ่งรอดชีวิตมาพร้อมกับนายมานะ ธรรมวงศ์ ผู้เป็นพ่อ ด้วยการเกาะลำไม้ไผ่ลอยคอขึ้นฝั่งที่เกาะสิงโต ระหว่างลอยคออยู่ในอ่างเก็บน้ำ เกิดสำลักน้ำทำให้น้ำไหลเข้าคอลงไปที่ปอด ทำให้ปอดติดเชื้อ อยู่ระหว่างการดูแลพิเศษจากแพทย์โรงพยาบาลท่าปลา ได้อนุญาตให้มากราบศพแม่ที่วัด 

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ สอบถามถึงอาการของ ด.ญ.สุภาวดี ให้การยิ้มตอบพูดคุยทั้งที่ข้อมือมีเข็ดให้น้ำเกลือติดอยู่ หลังกราบศพแม่ต้องกลับไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลท่าปลา 

ผู้ว่าฯกล่าวให้กำลังใจ ขอให้หายป่วยเร็ววัน พร้อมกล่าวให้กำลังใจผู้รอดชีวิตทุกคนรวมถึงญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตด้วย 

 

นายธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยทางน้ำหลังเกิดเหตุสลดในครั้งนี้ว่า จะต้องเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยว โดยเฉพาะเรือโดยสารและเรือทุกชนิด จะต้องมีเสื้อชูชีพประจำตัวเพื่อความปลอดภัย ทุกคนจะต้องใส่ระหว่างออกจากบ้านก่อนขึ้นเรือทุกครั้ง เหตุเสียชีวิตเพราะไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพ ซึ่งทางจังหวัดจะหาจัดให้ทุกคน 

รวมถึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า อุทยานลำน้ำน่าน เขื่อนสิริกิติ์ หาแนวทางวางทุนบอกแนวเขตจุดที่อันตราย รวมไปถึงการประกันชีวิตให้กับผู้โดยสารทางน้ำ เรือทุกลำจะต้องถูกขึ้นทะเบียนพร้อมมีประกันอุบัติภัยทางน้ำ

ให้อุทยานลำน้ำน่าน นำตอไม้ที่ตายแล้วและอยู่ในเส้นทางร่องเรือ โผล่หลังน้ำลดออกทุกตอ สร้างความปลอดภัยทางน้ำให้กับผู้เดินเรือ 

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ชาวบ้านเคยเรียกร้องกันมาตลอดคือ เส้นทางการคมนาคมทางบกที่ช่วยย่นระยะทางบ้านห้วยต้า หมู่4 ต.นางพญา กับอำเภอท่าปลา โดยไม่ต้องเสี่ยงภัยทางน้ำที่มีระยะทางไกลกว่า 30 กิโลทางน้ำ 

ขณะที่เส้นทางบกระยะทางไม่ถึง 20 กิโลเมตร ออกเส้นทางบ้านน้ำพร้า ต.นางพญา ทราบว่ามีปัญหาที่ติดขัดคือ ต้องผ่านพื้นที่ป่าไม้สงวนแห่งชาติและอุทยาน คงต้องหยิบปัญหาเรื่องนี้มาพูดคุยกันเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือชาวบ้านห้วยต้า ยอมสละที่ดินของตนเองเพื่อการก่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับคนทั้งประเทศได้ใช้ และต้องอยู่ห่างไกลความเจริญ การขนส่งผลผลิตทางการเกษตรมาขายก็ลำบาก คงต้องหาแนวทางช่วยเหลือชาวบ้านห้วยต้ากันต่อไป

ภาพ/ข่าว  สมภพ  สินพิพัฒนฤดี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดอุตรดิตถ์