ข่าว

รมว.ยุติธรรม ลั่น จะผลักดันพืชกระท่อมออกยาเสพติดให้โทษ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รมว.ยุติธรรม ลั่น! จะผลักดันพืชกระท่อมออกจากกฎหมายยาเสพติดให้โทษ ภายใน 3 เดือนเรื่องไม่คืบหน้าจะต้องมีค่าใช้จ่าย คนดูแลต้นกระท่อม

 

 

               วันที่ 20 ม.ค. 2563 ที่หอประชุมเสมาฤทธิ์ โรงเรียนท่าชีวิทยา ต.น้ำพุ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตำบลน้ำพุ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี  โดยมี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีอ นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ให้การต้อนรับ

 

รมว.ยุติธรรม ลั่น จะผลักดันพืชกระท่อมออกยาเสพติดให้โทษ

การลงพื้นที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในครั้งนี้เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการวิจัยการพัฒนารูปแบบการควบคุมพืชกระท่อมโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในประเทศไทยกรณีศึกษา ตำบลน้ำพุ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพบปะแกนนำหมู่บ้านชุมชน ประชาชน สอบถามความคิดเห็น วิถีชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงทัศนคติของประชาชนต่อพืชกระท่อม เพื่อนำข้อมูลเชิงประจักษ์ในระดับพื้นที่เพื่อประกอบพิจารณาเสนอถอดพืชกระท่อมออกจากกฎหมายยาเสพติดให้โทษต่อไป

รมว.ยุติธรรม ลั่น จะผลักดันพืชกระท่อมออกยาเสพติดให้โทษ

สำหรับโครงการวิจัยการพัฒนารูปแบบการควบคุมพืชกระท่อมโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนฯสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ได้คัดเลือก ตำบลน้ำพุ อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี  โดยดำเนินการภายใต้หนังสือสำคัญมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ออกโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน มีหมู่บ้านเป้าหมายในพื้นที่ตำบลน้ำพุ จำนวน 6 หมู่บ้าน  จำนวน 1,920 ครัวเรือน พบครัวเรือนที่มีพืชกระท่อม จำนวน 655 ครัวเรือน พืชกระท่อม จำนวน 1,912 ต้น ได้ดำเนินการควบคุมและติด QR Code จำนวน 1,578 ต้น ตัดฟันทำลาย จำนวน 334 ต้น ซึ่งการควบคุมพืชกระท่อมเป็นไปตามธรรมนูญตำบลที่ได้กำหนดไว้ใน 3แผนงาน  คือ1) แผนการควบคุมพืชกระท่อม โดยกำหนดให้ครัวเรือนสามารถครอบครองพืชกระท่อมครัวเรือนละไม่เกิน 3 ต้น ครัวเรือนใดมีพืชกระท่อมมากกว่า 3 ต้น ให้ตัดฟันทำลายและคงไว้เพียง 3 ต้น ส่วนครัวเรือนใดที่มีไม่ถึง 3 ต้น ให้คงไว้ห้ามปลูกเพิ่ม  2) แผนการเฝ้าระวังทางสังคม  และ 3) แผนการเฝ้าระวังสุขภาพชุมชน  จากการดำเนินงานโครงการวิจัยฯ มีหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน ประกอบด้วยฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ตำรวจ ทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอ สถาบันวิชาการ ภาคประชาชน ผู้นำหมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ตำบลน้ำพุ มาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ซึ่งต้นกระท่อมในพื้นที่จะมีการติดคิวอาร์โค้ตทุกต้นว่าเป้นของใครบ้าง

รมว.ยุติธรรม ลั่น จะผลักดันพืชกระท่อมออกยาเสพติดให้โทษ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่า จากอดีตที่ผ่านมา มีรัฐมนตรี หลายคนได้พยายามผลักดันเรื่องดังกล่าว แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ในสมัยนั้น ตนได้ร่วมติดตามการแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด จนกระทั่งปัจจุบันตนจะพยายามผลักดันอย่างจริงจัง และให้สัญญาว่าจะพยายามทำให้เกิดผลภายใน 3 เดือน หากเรื่องดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า หรือไม่ประสบความสำเร็จ จะต้องมีค่าใช้จ่ายให้กับคนดูแลต้นกระท่อม ถ้าหากไม่มีรายได้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเลยก็อาจจะฟันทิ้ง จึงถามพี่น้องประชาชนว่า อยากให้ฟันต้นกระท่อมทิ้งหรือไม่ ซึ่งทุกคนต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ยอม และจะขอให้รัฐมนตรี ช่วยผลักดันเรื่องเก่าให้สำเร็จต่อไป

รมว.ยุติธรรม ลั่น จะผลักดันพืชกระท่อมออกยาเสพติดให้โทษ  

รมว.ยุติธรรม ลั่น จะผลักดันพืชกระท่อมออกยาเสพติดให้โทษ

ที่ผ่านมารัฐบาลได้ผลักดันเรื่องของกัญชาอย่างเป็นรูปธรรมได้ด้วยความรวดเร็ว ดังนั้นการดำเนินการผลักดันต้นกระท่อมพืชกระท่อม ก็ต้องทำอย่างรวดเร็ว ถึงจะประสบความสำเร็จ ซึ่งขณะนี้ เรามี 10 ขั้นตอน แต่ตอนนี้ทำผ่านขั้นตอนดังกล่าวไปครึ่งทางแล้ว คงเหลือแต่เพียงคำ แก้กฎหมายที่สำคัญ แล้วจะต้องนำเข้าสู่ในขั้นตอนของกฤษฎีกาตีความเพื่อออกเป็นกฎหมายปลดล็อคดังกล่าวต่อไป

รมว.ยุติธรรม ลั่น จะผลักดันพืชกระท่อมออกยาเสพติดให้โทษ

 

ภาพ/ข่าว สันทัด เจ็ดเสมียนใหม่ ผุ้สื่อข่าว จ.สุราษฎร์ธานี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ