พระซิ่งเบนซ์ แหกโค้ง 100 ศพไฟลุกท่วม

              เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 20 ม.ค. ร.ต.อ.พิทูล  เนื่องชมพู รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักไฟลุกท่วม  ที่บริเวณริมถนนทางหลวง 212 สายนครพนม-ธาตุพนม ช่วงบ้านขามเฒ่า หมู่ 1 ต.ขามเฒ่า อ.เมือง  จึงประสานรถดับเพลิง อบต.ขามเฒ่า และ อบต.ท่าค้อ 2 คัน  พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยศรัสัตตนครพนม กู้ภัยวีอาร์ลำโขงเฟรนด์ชิฟ และกู้ภัยนครพนม  รุดไปตรวจสอบ

     ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน ฝั่งขาเข้าตัวเมือง จุดกลับรถก่อนถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม 100 เมตร  ป้ายบอกหลัก ก.ม.ที่ 330 ริมไหล่ทาง  พบรถเก๋งยี่ห้อเบนซ์ รุ่น L 200 E ไม่ทราบสีและทะเบียน อยู่ในสภาพเสียหลักพุ่งลงคลอง  เกยสันคลอง สภาพหน้ารถชนกับต้นไม้  พังยับ  พบไฟลุกท่วมทั้งคัน  เจ้าหน้าที่จึงใช้เวลาฉีดน้ำสกัดนาน 20 นาที  เพลิงจึงสงบ 

            ทราบชื่อคนขับในภายหลังคือพระพูนผล อาทโร วัย 47 ปี ชาว ต.นาโสก อ.เมือง จ.มุกดาหาร  เจ้าอาวาสวัดท่าน้อย  ต.นาโสก อ.เมือง จ.มุกดาหาร  ในสภาพคลานออกจากตัวรถ  มาพักเหนื่อยบนเกาะกลางถนน  ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด มองดูไฟที่ลุกท่วมรถได้สักพัก  พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ  จึงได้ไว้วานให้ไปส่งที่ รพ.นครพนม ในทันที 

     จากการตรวจสอบรถเบื้องต้น พบว่ารถเบนซ์คันนี้ติดแก๊ส  LPG  ท้ายรถ กระโปรงท้ายรถพบบาตร 1 ใบ คาดว่าเตรียมมาไว้เดินรับบิณฑบาตรในช่วงเช้า  ข้าวของถูกเพลิงลุกไหม้เผาจนวอดเสียหายทั้งคัน   แต่ยังมีไฟลุกในห้องห้องหน้ากระโปรงรถ  เจ้าหน้าจึงใช้สารเคมี  ฉีดท้ายรถเพื่อป้องกันแก๊สที่ยังอาจจะลงเหลืออยู่ 

     สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า  รถเบนซ์คันดังกล่าว  ที่มีพระพูนผล เป็นผู้ขับมาตามลำพัง  เพื่อจะมาเยี่ยมมารดาและดูใจครั้งสุดท้ายที่ป่วยหนักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นครพนม  สันนิษฐานว่าอาจขับมาด้วยความเร็วสูง  และไม่ชินเส้นทาง ขณะเข้าโค้งหักศอก  รถได้เสียหลักแฉลบลงริมไหล่ทาง  แหวกพงหญ้า   หลังพบรอยล้อครูดกับหญ้ายาว 50 เมตร  ก่อนพุ่งลงคลองไปไกล 30 เมตร  อาจเกิดประกายไฟและลามติดแก๊ส  จนเกิดเพลิงลุกไหม้ท่วมรถคันดังกล่าว  โชคดีที่เจ้าอาวาสรูปนี้  ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

     เจ้าหน้าที่จึงขอหลักฐานหนังสือสุทธิสำหรับพระภิกษุและสามเณร (สุจิบัตร) และบัตรประจำตัวประชาชนไว้เป็นหลักฐาน   หลังพระพูนพล  เข้าเยี่ยมอาการป่วยของมารดาเสร็จแล้ว  ในวันพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำ  เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป 

     สำหรับโค้งขามเฒ่า ต.ขามเฒ่า แห่งนี้  เป็นโค้งหักศอก  หากรถแล่นมาด้วยความเร็วสูงจะหลุดโค้งแทบทุกราย   ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนับไม่ถ้วน  จนชาวบ้านขนานนามว่าเป็นโค้ง 100 ศพ

ข่าว/ภาพ ทวี อภิสกุลชาติ ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม