คณะกรรมาธิการวิสามัญลงพื้นที่อำเภอสบเมยพิจารณาศึกษา

                เมื่อวันที่  19 มกราคม 2563 เวลา 11.00 น. คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ ร่วมกับคณะอนุกรรมการกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการกลุ่มลุ่มน้ำเจ้าพระยา สภาผู้แทนราษฎร ในการเดินทางศึกษาดูงานการบริหารจัดการลุ่มน้ำสาละวิน แม่ฮ่องสอน ลุ่มน้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่  และลุ่มน้ำวัง จังหวัดลำปาง เดินทางไปประชุมพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบเพื่อผันน้ำยวมและเงาไปยังเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ณ.ห้องประชุมสำนักงานอุทยานแห่งชาติแม่เงา อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ใช้เวลาการประชุมนายประมาณ 1 ชั่วโมง

นำโดยนายวีระกร  คำประกอบ รอง.ประธำนคณะกรรมาธิการ คนที่ 1 นายอุบลศักดิ์  บัวหลวงงามรอง,ประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนที่ 2  นายประทวน สุทธิอำนวยเดช โฆษกคณะกรรมาธิการ นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง กรรมาธิการ นายบุญเลิศ  เหลืองกอบกิจ  กรรมาธิการ นายสัญญา นิลสุพรรณ กรรมาธิการ นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ ฯ โดยมี นายปัญญา จีนาคำ สส.แม่ฮ่องสอน นำตัวแทนราษฎรเข้าร่วมรับฟังในที่ประชุม จำนวน 6 คน นายพนา  ทุ่งท้องไร่ สมาชิกสภาจังหวัด (สจ.)เขตอำเภอสบเมย   นายล้อมเดช  ยาใจ ปลัดอาวุโส ตัวแทนนายอำเภอ นายชิดชนก สุขมงคล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง นายวิชัย  ปินะสุ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ  นายชวลิต  อภิหิรัญตระกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่เงา  (เตรียมการ) ระหว่างการประชุม มีการถกเถียงเกี่ยวกับพื้นที่จะได้รับผลกระทบซึ่งเป็นที่ทำกินของชาวบ้านประมาณ 7 ราย หลังจากการประชุม ได้มอบของขวัญปีใหม่ให้กับ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่เงา

หลังจากนั้น คณะพร้อมสื่อได้เดินทางไปยังท่าเรือเพื่อลงเรือล่องไปตามลำน้ำแม่เงาไปสำรวจพื้นที่ที่จะสร้างเขื่อนน้ำยวม ประเภทหินถมคอนกรีต ที่บริเวณแม่น้ำสองสี  ซึ่งเป็นแม่น้ำทั้งสองสายมาบรรจบกัน ระหว่างแม่น้ำยวมกับแม่น้ำเงา จุดที่จะสร้างเขื่อนน้ำยวม อยู่ห่างจากแม่น้ำสองสีลึกเข้าไปทางแม่น้ำยวมประมาณ 100 เมตร หลังจากนั้น คณะได้นั่งเรือล่องไปตามลำน้ำยวมประมาณ 5 กม.เพื่อสำรวจผลกระพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน บ้านท่าเรือ ประมาณ 7 ราย ตามที่มีการเรียกร้อง ผลจากการสำรวจทราบว่าพื้นที่ทำกินของชาวบ้านคงไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่ เนื่องจากว่าไม่ใช่เขื่อนขนาดใหญ่มันเป็นคนละโครงการถ้าโครงการแรกนี่แหละน้ำจะท่วมถึงแม่สะเรียง  แต่โครงการนี้เป็นโครงการเขื่อนทดน้ำเพื่อที่จะให้ส่งน้ำไปยังสถานีสูบน้ำ คือไม่มีใครอธิบายให้ชาวบ้านฟัง สำหรับงบประมาณที่จะสร้างประมาณ หกหมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของทางกฎหมายสิ่งแวดล้อมอย่างเร็วก็ประมาณปี 56

                เกียรติศักดิ์  รักสัตย์  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค แม่ฮ่องสอนรายงาน