ข่าว

พ่อเฒ่าสุดช้ำ ออกตัดหญ้าบนเขา บ้านเกิดไฟไหม้ วอดทั้งหลัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พ่อเฒ่าสุดช้ำ ออกตัดหญ้าบนเขา บ้านเกิดไฟไหม้ วอดทั้งหลัง

 

 

               พ่อเฒ่าเจ้าของบ้านขึ้นภูเขา ไปตัดหญ้าคา มาสานไพหญ้าขาย ลูกชายไปตลาด ไฟไหม้บ้าน ฐานะยากจน วอดไปทั้งหลังพร้อมทรัพย์สิน จักรยาน 1 คัน เพื่อนบ้านแจ้ง อบต. รถดับเพลิงมูลนิธิหลวงปู่สรวง เข้าฉีดน้ำดับไฟ เนื่องจากสภาพบ้านเป็นกระท่อมเก่า สภาพทรุดโทรม จึงวอดไปทั้งหลัง

พ่อเฒ่าสุดช้ำ ออกตัดหญ้าบนเขา บ้านเกิดไฟไหม้ วอดทั้งหลัง

พ่อเฒ่าสุดช้ำ ออกตัดหญ้าบนเขา บ้านเกิดไฟไหม้ วอดทั้งหลัง

พ่อเฒ่าสุดช้ำ ออกตัดหญ้าบนเขา บ้านเกิดไฟไหม้ วอดทั้งหลัง

วันที่ 17 มกราคม 2563 นายบุญมี เสนคราม กำนันตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ  ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเพลิงไหม้บ้าน ของนาย หนม นวมพงษ์วัน อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 116 บ้านโคกชาติ หมู่ที่ 7 ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งขณะเกิดเพลิงไหม้ไม่มีใครอยู่บ้าน ในฐานะที่กำนันเป็นเลขานุการมูลนิธิหลวงปู่สรวง และมีรถดับเพลิงอยู่เพื่อคอยช่วยเหลือสาธารณะภัย จึงได้กราบนมัสการขออนุญาตจาก พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ ประธานมูลนิธิฯ ขอนำรถดับเพลิงออกปฎิบัติหน้าที่ดับเพลิงช่วยเหลือ เมื่อเดินทางไปถึงพบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านที่สภาพเก่า เหมือนกระท่อมปลายนา เนื่องจากเจ้าของบ้านมีฐานะยากจน ขณะเกิดเหตุเจ้าของบ้านได้เดินทางขึ้นภูเขา เทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อไปตัดหญ้าคามาสานไพหญ้าหาเงินเลี้ยงชีพ เพลิงจึงลุกไหม้อย่างแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามเร่งฉีดน้ำเพื่อดับเพลิง แต่เนื่องจากสภาพบ้านเก่ามาก เพลิงจึงไหม้วอดไปทั้งหลัง พร้อมทรัพย์สินในบ้านทั้งหมด ที่มีมูลค่ามากที่สุดก็คือรถจักรยานของลูกชาย

พ่อเฒ่าสุดช้ำ ออกตัดหญ้าบนเขา บ้านเกิดไฟไหม้ วอดทั้งหลัง

พ่อเฒ่าสุดช้ำ ออกตัดหญ้าบนเขา บ้านเกิดไฟไหม้ วอดทั้งหลัง

พ่อเฒ่าสุดช้ำ ออกตัดหญ้าบนเขา บ้านเกิดไฟไหม้ วอดทั้งหลัง

พ่อเฒ่าสุดช้ำ ออกตัดหญ้าบนเขา บ้านเกิดไฟไหม้ วอดทั้งหลัง

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของมูลนิธิฯ ได้เร่งฉีดน้ำดับเพลิง ใช้เวลาราว 30 นาที เพลิงจึงสงบลง โดยผู้สื่อข่าวสอบถามเพื่อนบ้านที่แจ้งเหตุเพลิงไหม้ ทราบว่า ก่อนพบเห็นเพลิงลุกไหม้บ้าน ได้ยินเสียงดังเปรี้ยงขึ้นมาจากภายในบ้านดังราว 2-3 ครั้ง จึงเดินออกมาดู ก็จึงพบเห็นกลุ่มควันดำลอยออกมาจากภายในบ้าน ครู่เดียวก็มีเปลวไฟลุกท่วมบ้านออกมา จึงแน่ใจว่าเพลิงไหม้บ้านแน่นอน และทราบว่านาย หนม เจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน ขึ้นเขาไปตัดหญ้าคามาสานไพหญ้าขาย และบุตรชายก็ไปตลาด จึงโทรแจ้งกำนัน ขอความช่วยเหลือนำรถดับเพลิงมาช่วยดับเพลิงด้วย รอครู่ใหญ่รถดับเพลิงก็เดินทางมาถึง เร่งฉีดน้ำดับเพลิง จนเพลิงสงบลง ซึ่งคุณตา หนม เจ้าของบ้านที่อยู่ในป่าบนเขาก็ยังไม่ทราบว่าบ้านถูกเพลิงไหม้วอดหมดแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นพื้นที่ และประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจมาตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้ง และรอคุณตาหนม ลงจากภูเขามาช่วงเย็นก่อน ซึ่งมูลนิธิหลวงปู่สรวงได้ประสานหาที่พักให้ครอบครัวคุณตาหนม ได้พักอาศัยไปก่อนในช่วงนี้ และคงจะต้องช่วยกันหาอุปกรณ์ ไม้ สังกะสี จากการรับบริจาค มาช่วยซ่อมแซมบ้านใหม่ทั้งหมดของนายหนม เพราะจากเพลิงไหม้ดังกล่าว สภาพบ้านที่เก่า ทรุดโทรม ไม่สามารถใช้อยู่อาศัยต่อไปได้แล้ว และจากสภาพครอบครัวที่ยากจน ประกอบกับ นายหนม เอง ตอนนี้ยังไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎรของไทย เพราะเป็นคนชายแดน เมื่ออดีตบิดา-มารดา ไม่สนใจในการไปแจ้งเกิดกับปกครองอำเภอ จึงจะต้องให้ลูกชาย นายบุญเลิศ นวมพงษ์วัน อายุ 37 ปี แจ้งเหตุเป็นเจ้าบ้าน เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ต่อไปก่อน  เพลิงไหม้คราวนี้ จากที่ยากจนอยู่แล้ว ถึงกลับหมดตัว

พ่อเฒ่าสุดช้ำ ออกตัดหญ้าบนเขา บ้านเกิดไฟไหม้ วอดทั้งหลัง

พ่อเฒ่าสุดช้ำ ออกตัดหญ้าบนเขา บ้านเกิดไฟไหม้ วอดทั้งหลัง

พ่อเฒ่าสุดช้ำ ออกตัดหญ้าบนเขา บ้านเกิดไฟไหม้ วอดทั้งหลัง

ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ