ข่าว

กำนันเข้าแจ้งความหลังสื่อลงข่าวผิด ลั่นคนที่โดนจับไม่ใช่ผม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กำนันสามตำบลรุดแจ้งความ คนที่โดนจับคดีสังหารเสี่ยอู่ซ่อมรถไม่ใช่ตัวเอง ชี้สื่อลงข่าวผิดทำให้เสียหายเสื่อมเสียชื่อ

 

 

                    จากกรณีที่ตำรวจกองปราบพร้อมตำรวจสืบสวน ภาค 9 ระดมกำลังกว่า 100 นายบุกตรวจค้น 8 ชุด ใน 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ตรัง นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง จับกุม 7 ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่านายธวัชชัย กลับขันท์ อายุ 53 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ ชาว อ.รัษฎา จ.ตรัง จนเสียชีวิตอนาถคารถยนต์ ในขณะกำลังกลับมาจากไปงานศพ ส่วนนางอำภา กลับขันท์ อายุ 54 ปี ภรรยา และนายสมชาย สนมน้อย ลูกจ้างได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยมีสื่อมวลชนหลายสังกัดนำเสนอข่าวว่า 1 ใน 7 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเป็นกำนัน ต.สามตำบล อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ตามที่เสนอข่าวมาแล้วนั้น

            (16 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่าประชาชนที่ติดตามข่าวยังคงวิพากวิจารณ์และสงสัยในการจับกุมที่ระบุตอนแรกว่าจับ 7 คน แต่ตอนแถลงข่าวเหลือ 6 คน แต่หลังจากควบคุมตัวครบ 48 ชม.ตามอำนาจและนำผู้ต้องหาฝากขังต่อศาล จ.ตรัง ผู้ต้องหาเหลือเพียง 5 คน โดยทราบว่าจับผิดตัวและปล่อยไปแล้ว 1 คนส่วนอีกคนทางตำรวจอาจจะกนไว้เป็นพยานหรืออาจจะแยกสำนวนฝากขังอีกสำนวนก็ได้ ในขณะที่นายสุชาติ จิตติศักดิ์ อดีตกำนันคนดัง ต.นาหมอบุญ  อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช  แจ้งทนายความว่าถูกชุดจับกุมรุมซ้อมอย่างป่าเถื่อนและโหดร้ายทารุณจนได้รับบาดเจ็บ ฟกซ้ำไปทั้งร่าง  จนทนายได้ยื่นคำร้องขอให้ส่งตัวนายสุชาติ ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายก่อนถูกควบคุมตัวไปเรือนจำ ในขณะที่นายปิยวัฒน์ จิตติศักดิ์ มือปืนซึ่งเป็นหลานชายของนายสุชาติ ซึ่งก่อนเกิดเหตุยิงกันตายถูกวัวชนหวิดจนสำไส้และอวัยวะภายในไหลออกมากองด้านนอก เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดรใหญ่อดตายหวุดหวิด อยู่ระหว่างการฟักฟื้นไม่น่าจะแบกปืนอาร์ก้าไปก่อเหตุยิงถล่มผู้ตายได้ และหลังถูกจับกุมโดนชุดจับกุมชกท้องไป 2-3 ครั้งจนตัวงอเป็นกุ้ง และเมื่อทราบว่านายปิยวัฒน์ เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดมาชุดจับกุมถึงกับตกใจและยุติการซ้อม

กำนันเข้าแจ้งความหลังสื่อลงข่าวผิด ลั่นคนที่โดนจับไม่ใช่ผม

กำนันเข้าแจ้งความหลังสื่อลงข่าวผิด ลั่นคนที่โดนจับไม่ใช่ผม

กำนันเข้าแจ้งความหลังสื่อลงข่าวผิด ลั่นคนที่โดนจับไม่ใช่ผม

 

 

                 นอกจากนี้ในวันที่ 14 ม.ค. 2563 นายสนั่น ศรีวิหค กำนัน ต.สามตำบล อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งถูกสื่อมวลชนหลายสังกัดเสนอข่าวว่าเป็นกำนัน 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.(หญิง)ปรารถนา เมฆฉาย พนักนสอบสวน สภ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ว่าตามที่สื่อมวลชนหลาย ๆ สังกัด โดยเฉพาะสนมรัฐออนไลน์ ฉบับวันที่ 12 ม.ค. 2563 เวลา 17.55 น.ลงข่าวความว่า “จับเพื่อนรักจ้างวานและแก๊งกำนันดัง ต.สามตำบล อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช  เจ้าของซุ้มมือปืนร่วมทีมสังหารเสี่ยเจ้าของอู่ซ่อมรถ อ.รัษฎา จ.ตรัง รวม 7 คน” ทำให้ตนได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง  ทำให้ประชาชนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงเข้าใจผิด ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง เนื่องจากผ็แจ้งไม่ได้เป็นบุคคลตามข่าวที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

            ในขณะที่นางศรีเพ็ญ ชูเกิด ภรรยาของนายสุชาติ จิตติศักดิ์ 1 ในผู้ต้องหากล่าวว่าตำรวจแถลงข่าวและสื่อมวลชนนำเสนอข่าวฝ่ายเดียวอย่างเอิกเกริก ๆครึกโครมไม่เป็นธรรมกับนายสุชาติและครอบครัว โดยนำอาวุธปืนพกสั้น 3 กระบอกที่ยึดได้ที่บ้านใน ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์  2 กระบอกเป็นของนายสุชาติ 1 กระบอกและของบุตรชายที่เป็นกำนัน ต.นาหมอบุญ 1 กระบอก ส่วนอีก 1 กระบอกจับกุมได้ที่ตัวนายสุชาติ ซึ่งปืนทั้ง 3 กระบอกมีอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และนายสุชาติ ยังมีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนอย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย

            “ตนทราบว่าตำรวจนำคลิปวีดีโอที่นายสุชาติ และนายปิยะวัฒน์ หลานชายซึ่งถูกระบุว่าเป็นมือปืนที่ใช้ปืนอาร์ก้ายิงถล่มผู้ตาย ไปนั่งดื่มกาแฟที่ร้านอเมซอนในปั้มน้ำมันที่ สามแยกสวนผัก ริมถนนเอเซีย 41 ในวันที่ 16 ธ.ค. 2562 มาเป็นหลักฐานเชื่อมโยงว่าเป็นการไปนั่งวางแผนสังหารผู้ตายในคืนวนที่ 17 ธ.ค. 2562 ซึ่งตามปกตินายสุชาติ และนายปิยะวัฒน์ หลานชายจะชอบไปดื่มหากาแฟอเมซอน ตามปั้มน้ำมันต่าง ๆ ในละแวกใกล้เคียงเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว หากเช็คกล้องวงจรปิดย้อนหลังก็จะพบว่าทั้งสองไปนั่งร้านอเมซอนในปั้มน้ำมันหลายแห่งเกือบทุกวัน”

กำนันเข้าแจ้งความหลังสื่อลงข่าวผิด ลั่นคนที่โดนจับไม่ใช่ผม

 

กำนันเข้าแจ้งความหลังสื่อลงข่าวผิด ลั่นคนที่โดนจับไม่ใช่ผม

 

กำนันเข้าแจ้งความหลังสื่อลงข่าวผิด ลั่นคนที่โดนจับไม่ใช่ผม

 

 

             นางศรีเพ็ญ ชูเกิด กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดเหตุนายปิยวัฒน์ ถูกวัวชนขวิดจนสำไส้และอวัยวะภายในไหลทะลักออกมาอยู่ด้านนอก เข้ารับการรักษาพยาบาลและผ่าตัดใหญ่รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด โดยแพทย์เพิ่งอนุญาตให้กลับบ้านมาพักฟื้น ยังเดินหรือเคลื่อนไหวไม่สะกดวก และแพทย์นัดไปตัดไหมในวันที่ 15 ม.ค.2563 ที่ผ่านมาแต่ถูกจับกุมเสียก่อน ซึ่งตนอยากให้วิญญูชนทั้งหลายพิจารณาในข้อเท็จจริงดูว่านายปิยวัฒน์ บาดเจ็บหนักขนาดนั้นจะเป็นไม่ได้หรือไม่ในการแบกอาวุธปืนอาร์ก้าไปยิงถล่ม ก่อนวิ่งหลบหนีมาขึ้นรถยนต์หลบหนีอย่างคล่องแคล่วตามที่ปรากฏในภาพวงจรปิด ซึ่งมือปืนที่ยิงถล่มสวมหมวกไหมพรมปิดปังใบหน้ามิดชิด ตำรวจรู้ได้อย่างไรว่าคือนายปิยะวัฒน์   รวมทั้งพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่ยืนยันได้ชัดเจนว่าทั้งนายสุชาติ และนายปิยวัฒน์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารนายธวัชชัย กลับขันท์ เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ ชาว อ.รัษฎา จ.ตรัง แต่อย่างใด  โดยคดีนี้ตนและญาติ ๆ จะต่อสู้คดีให้นายสุชาติ นายปิยะวัฒน์ จนถึงที่สุดเพราะมั่นใจในพยานหลักฐานว่าเมื่อสำนวนคดีถึงชั้นอัยการและชั้นศาล ทั้งสองจะได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน .

กำนันเข้าแจ้งความหลังสื่อลงข่าวผิด ลั่นคนที่โดนจับไม่ใช่ผม

 

กำนันเข้าแจ้งความหลังสื่อลงข่าวผิด ลั่นคนที่โดนจับไม่ใช่ผม

 

กำนันเข้าแจ้งความหลังสื่อลงข่าวผิด ลั่นคนที่โดนจับไม่ใช่ผม

ภาพ/ข่าว  ยุทธนะ  เตมะศิริ นครศรีธรรมราช/รายงานข่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ