แม่พลทหารยัน ลูกไม่ได้เสียชีวิตปริศนาตามที่เป็นข่าว พร้อมเผย ลูกมีโรคประจำตัวแต่เดิมอยู่แล้ว ซึ่งผู้บังคับบัญชาก็ให้การดูแลเป็นอย่างดี
เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ 15 ม.ค.2563 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ หลังจากที่มีข่าวว่า พลทหารชัยชนะ ทาศรี ซึ่งเป็นทหารผลัดใหม่ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 7 บ้านจินดา ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ กองพลทหารราบที่ 9 อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาเมื่อเวลา 16.35 น. และได้มีกระแสข่าวออกมาว่า “เสียชีวิตปริศนา ติดใจถูกซ้อมหรือไม่” ซึ่งในวันนี้ทางกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 29 จ.กาญจนบุรี ก็ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ โดยการเคลื่อนย้ายศพ พลฯ ชัยชนะ ทาศรี กลับมาส่งยังภูมิลำเนา ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้จัดกำลังพลส่วนหนึ่งมาคอยช่วยเหลืองานจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ
โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับ ร.ต.จารุเดช สระแก้ว ผู้ฝึกทหารใหม่ ซึ่งเป็นผู้ฝึกที่คอยดูแล พลฯ ชัยชนะ ทาศรี ที่เสียชีวิต ซึ่งก็ได้ร่วมเดินทางมาดูแลให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งก็ได้รับการเปิดเผยว่า ตนเป็นผู้ฝึกทหารใหม่ในค่าย ซึ่งพลทหารชัยชนะ ทาศรี เป็นทหารใหม่ผลัดที่ 2/62 หมายเลขประจำตัว 1626601677 มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 7 ต.กระโพธิ์ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งได้มารายงานตัวเข้ารับราชการทหาร เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2562 โดยได้เข้ารับการฝึกทหารใหม่ เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2562 เป็นต้นมา โดยเข้ารับการฝึกฯ ได้ประมาณ 4-5 วัน ก็ได้มีอาการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ทางหน่วยฝึกฯ จึงได้ส่งตัวไปยังรับการรักษายังโรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ ต่อมาได้กลับมาพักรักษาตัว ณ ห้องพยาบาลของหน่วยฝึก โดยได้ให้หยุดการฝึกฯ เป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อรักษาตัวให้หายตามปกติก่อน
ต่อมาเมื่ออาการป่วยได้หายเป็นปกติแล้ว จึงได้เข้าทำการฝึกฯตามปกติ จนถึงวันที่ 5 ธ.ค.62 พลฯ ชัยชนะฯ ได้ทำการฝึกทางยุทธวิธี และได้ถูกกิ่งไม้เกี่ยวเข้าที่ตาด้านขวา แต่ยังไม่มีอาการใดๆที่แสดงออกมาในขณะนั้น จนกระทั่งในเวลากลางคืน พลฯ ชัยชนะฯ ได้ใช้มือขยี้ตาด้านขวา จนมีอาการบวมแดง ทางเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ของหน่วยฝึกฯ ก็ได้นำตัว พลฯ ชัยชนะฯ ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน แต่ทางโรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ ได้ทำการส่งตัวเพื่อไปเข้ารับการรักษาต่อ ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เนื่องจากความเห็นของแพทย์ระบุว่ามีเลือดคลั่งในตา และได้พักรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จนถึงวันที่ 9 ธ.ค.62 แพทย์จึงอนุญาตให้กลับมาพักที่หน่วยฝึกฯได้ ในระหว่างการพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น ทางญาติซึ่งมี นายศุภชัย แผ่นทอง พี่เขย ของ พลฯชัยชนะ ทาศรี และนายณัฐวุฒิ ทาศรี น้องชาย รวมทั้งเพื่อน ก็ได้เดินทางมาเยี่ยม พลฯ ชัยชนะฯ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.62 โดยหน่วยฝึกทหารใหม่ ได้สั่งการให้ระงับการฝึกฯ ของ พลฯ ชัยชนะ ทาศรี เพื่อให้พักรักษาตัวก่อน ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.62 เนื่องจากมีอาการเจ็บป่วยอยู่เรื่อยมา และมีอาการเหนื่อยหอบอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งวันที่ 30 ธ.ค.62 พลฯ ชัยชนะฯ ได้มีอาการเหนื่อยหอบ และมีอาการเท้าบวมทั้ง 2 ข้าง จึงได้นำตัว พลฯ ชัยชนะฯ ส่งโรงพยาบาลค่ายสุรสีห์อีกครั้ง โดยมีญาติพร้อมเพื่อนได้เข้าเยี่ยมอาการป่วยของ พลฯ ชัยชนะฯ และต่อมาเมื่อวันที่ 5 ม.ค.63 พลฯ ชัยชนะ ทาศรี ก็ได้มีอาการทรุดหนักเรื่อยมา ทาง พ.ท.ประจักษ์ ระลึก ผบ.ร.29 พัน 3 พร้อมด้วย ผู้ฝึกฯ ก็ได้เดินทางไปเยี่ยมอาการของ พลฯ ชัยชนะฯ ที่โรงพยาบาลค่ายสุรุสีห์ เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 63 แต่อาการไม่ดีขึ้น จนกระทั่งในเวลา 16.35 น. พลฯ ชัยชนะฯ ก็ได้เสียชีวิต เนื่องจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จากภาวะหัวใจติดเชื้อ
ซึ่งทาง พ.ท.ประจักษ์ ระลึก ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 29 จังหวัดกาญจนบุรี ก็ได้ดำเนินการให้การช่วยเหลือโดยทันที พร้อมทั้งได้จัดการเคลื่อนย้ายศพ พลฯ ชัยชนะ ทาศรี ส่งกลับภูมิลำเนา ที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยได้เดินทางมาถึงเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 23.00 น. และในเบื้องต้นก็ได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับญาติ เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท และจัดกำลังพลไปร่วมฟังสวดพระอภิธรรม และช่วยงานฌาปนกิจอย่างสมเกียรติ โดยจะมีผู้บังคับบัญชาเดินทางมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรมในคืนนี้ด้วย ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้
ด้าน นางรัตนา กะการดี อายุ 54 ปี มารดาของพลฯชัยชนะ ทาศรี ที่เสียชีวิต ก็ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสั้นๆว่า พลฯชัยชนะ เป็นบุตรคนที่ 3 จากพี่น้องทั้งหมด 4 คน ซึ่งการเสียชีวิตในครั้งนี้ ตนไม่ได้ติดใจอะไรตามที่มีข่าว เพราะทราบดีว่าบุตรชายมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ซึ่งในขณะที่ป่วยอยู่ในค่าย ก็ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี และภายหลังจากที่เสียชีวิตแล้ว ทางผู้บังคับบัญชาก็ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งตนพอใจและขอขอบคุณเป็นอย่างมาก ที่ทางทหารได้ให้ความดูแลช่วยเหลือเป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวได้รายงานอีกว่า บรรยากาศภายในงานวันนี้เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งได้มีญาติและเพื่อนๆของพลฯชัยชนะที่ทราบข่าว ต่างพากันมาช่วยงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็มีกำลังพลจากกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 29 จังหวัดกาญจนบุรี ได้มาช่วยในการจัดเตรียมและปัดกวาดสถานที่เพื่อที่จะรอรับผู้ที่จะมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรมในคืนนี้ด้วย โดยศพได้ตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 7 บ้านจินดา ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของพลฯ ชัยชนะ โดยมีบิดาและมารดาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียงลำพัง เนื่องจากลูกๆต่างมีครอบครัวกันหมดแล้ว และต้องออกไปรับจ้างหาเลี้ยงครอบครัวกันยังต่างจังหวัด ซึ่งสภาพบ้านก็มีสภาพทรุดโทรมเป็นอย่างมาก จากการสอบถามความเป็นอยู่ ก็ได้ทราบว่าทั้งคู่อาศัยเงินจากเบี้ยคนชราและเบี้ยคนพิการในการดำรงชีวิต เนื่องจากนางรัตนา กะการดี มารดามีอาการสายตาที่ฝ้าฟางมองอะไรแทบจะไม่เห็นแล้ว ส่วนนายสิน กะการดี อายุ 65 ปี สามี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของพลฯชัยชนะ ก็มีอาการแขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถทำงานได้ จึงทำให้สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัว มีความเป็นอยู่ที่ลำบาก ซึ่งญาติๆต่างก็คอยช่วยกันดูแลตามอัตภาพ และได้ขอวอนผ่านสื่อฯไปถึงหน่วยงานต่างๆ อยากให้เข้ามาช่วยเหลือดูแลครอบครัวนี้ด้วย เพื่อที่บั้นปลายชีวิต จะได้ไม่ลำบากไปกว่านี้
ภาพ/ข่าว สุทิศ บุญยืน – ชูชัย ดำรงสันติสุข จ.สุรินทร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง