ชาวบ้านทุ่งกระบือ คัดค้านโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ

                  เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 มกราคม 2563 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลทุ่งกระบือและใกล้เคียงกว่า 50 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังพร้อมชูป้ายคัดค้านโครงการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ ของเทศบาลตำบลย่านตาขาว และเรียกร้องให้ทางจังหวัดลงทำประชาพิจารณ์ใหม่ทั้งหมด โดยในการมาชุมนุมของชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับการที่จะมีโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะครั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรมเข้ารับหนังสือแทน โดยอ้างกับชาวบ้านว่าผู้ว่าราชการจังหวัดตรังไม่ว่าง ติดประชุมสามารถลงมารับหนังสือจากชาวบ้านได้ โดยที่ชาวบ้านได้เรียกร้องให้ทางจังหวัดลงทำประชาพิจารณ์ใหม่เพราะวันที่ลงไปทำประชาพิจารณ์มีราชชื่อของคนรอบนอกไม่ใช่ชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะที่แท้จริง เป็นสร้างฉากขึ้นมาเท่านั้น

ทั้งนี้ จากกรณีที่เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 ชาวบ้านในพื้นที่เทศบาลตำบลทุ่งกระบือ และพื้นที่ใกล้เคียงสถานที่ก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะมูลฝอย ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือกับนายสาธิต ไกรนรา นายอำเภอย่านตาขาว พร้อมกับชูป้ายคัดค้านการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ พร้อมร้องขอความเป็นธรรมให้กับประชาชน ในการคัดค้านโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะมูลฝอย ที่ร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่น จะมีการสร้างขึ้นในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลทุ่งกระบือ สืบเนื่องจะมีบริษัทใหญ่ ร่วมกับนายทุนใหญ่และเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนจำนำเตาเผาขยะ โครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะมูลฝอย มาลงในพื้นที่ของหมู่ที่ 8 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง  ซึ่งเตาเผาขยะขนาดใหญ่เป็นของเอกชน ซึ่งหวั่นว่าไม่เกิดผลดีกับประชาชนมีแต่ผลเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในขณะเดียวกันสถานที่จะทำเตาเผาขยะอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ป่าชายเลน ติดกับลุ่มน้ำปะเหลียน ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเป็นน้ำตกน้ำเค็มนั้นรัฐบาลและการท่องเที่ยวได้สนับสนุนโครงการมาทำให้หลายล้านบาท  ทั้งนี้สถานที่จะทำเตาเผาขยะอยู่ใกล้ชุมชน มากทำให้ชาวบ้านหวั่นวิตก ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านได้รับผลกระทบจากมลพิษของโรงงานที่อยู่ใกล้เคียงหลายแห่งอยู่แล้ว  ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็จะไม่เอาเตาเผาโดยเด็ดขาด ในขณะที่ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว  อ.ย่านตาขาว มีการเปิดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อการดำเนินการและแผนปฏิบัติการด้านสิ่งแวดล้อม โครงการแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นพลังงานไฟฟ้าเทศบาลตำบลย่านตาขาว ซึ่งในการเปิดเวทีประชุมตัวแทนของชาวบ้านได้แสดงความคิดเห็นและตั้งคำถามเพราะไม่เชื่อมั่นว่าโครงการทำเตาเผาจะสำเร็จ กลัวผลกระทบที่จะตามมาและต่อไปในอนาคต และหากเกิดปัญหาในอนาคตใครจะเป็นคนรับผิดชอบ และไม่พร้อมและไม่ยอมให้มีการสร้างเตาเผาขยะอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรมเข้ารับหนังสือแทนพร้อมรับปากว่า นำเรื่องที่ชาวบ้านเดินมาชุมนุมประท้วงและยื่นหนังสือ แสดงถึงความวิตกกังวล หลังจากมีโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะเกิดขึ้นในท้องถิ่น เชื่อว่าผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จะไม่เห็นด้วย หากโครงการอะไรที่เป็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน

ส่วนทางด้านนายพงศ์พัฒน์ พันธุศักดิ์ อายุ 47 ปี ตัวแทนประธานเครือข่ายอำเภอ ทสม.(เครือข่ายพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน) และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว กล่าวว่า ขณะนี้กระแสของชาวบ้านหลายคนที่สงสัยว่าทำไมโครงการก่อสร้างมาสร้างที่ทุ่งกระบือแต่ทำไมเทศบาลย่านตาขาวเป็นเจ้าของโครงการ และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นของหมู่ที่ 8  แต่พื้นที่ทำประชาพิจารณ์เป็นคนรอบนอก เมื่อฟังเสียงจากชาวบ้านแล้วเขาปฏิเสธที่จะไม่โครงการนี้ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นมัสยิดกลาง มหาวิทยาลัยที่เป็นหน้าเป็นตาของจังหวัดตรังสิ่งที่ชาวบ้านศึกษามามีผลกระทบมากมายเรื่องของมลพิษและกลิ่นที่เหม็น ชาวบ้านที่แท้จริงไม่ได้เข้ารับฟังนโยบาย ส่วนคนที่เข้ารับฟังเป็นคนอยู่นอกพื้นที่ทั้งหมด ชาวบ้านเป็นห่วงเรื่องของกลิ่นและมลพิษ แต่ถ้ายังยังดื้อดึงที่จะสร้างโครงการดังกล่าวให้ได้ ทางชาวบ้านก็จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด ตายก็ไม่ยอมที่จะให้มีโรงงานเกิดขึ้นแน่นอน

ขณะที่นางสุภาพร ยิ่งเส็ง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 บ้านทุ่งสำราญ หมู่ที่ 8 ต.ทุ่งกระบือ กล่าวว่า ตนเองมีที่ดินที่ต่อแดนกับพื้นที่ของโครงการเตาเผาดังกล่าว ตนเองเป็นห่วงสุขภาพของเด็กและคนชราทั้งนี้บริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยว หากมีโครงการนี้เข้ามาทำลายหมดเลย ชาวบ้านที่อยู่ทำมาหากินทางทะเลถ้าสู้ไม่ไหวมันก็จบเช่นกัน ซึ่งตนเชื่อว่ามีนายทุนหนุนหลังอยู่  ที่ผ่านมาเราเคยสู้มาครั้งหนึ่งชุดที่เขาซื้อมาได้ก็มากเกือบพัน เพราะเขาซื้อในราคาที่เราไม่ซื้อ เราต้องซื้อกับใจแต่เขาซื้อกับเงิน เราจึงจำเป็นต้องตั้งหลักเอาเหตุผลมาสู้  ชาวบ้านไนพื้นที่ไม่ยอมให้โครงการนี้เกิดขึ้น แต่ถ้าเขายังดื้อดึงที่จะยังจัดสร้างตนเองก็ยังนึกสภาพไม่ออก กินไม่ได้นอนไม่หลับ เคยมีคนมาถามตนเองว่ากลัวหรือไม่ที่ทำแบบนี้ตนบอกเลยว่าไม่กลัว กลัวกองขยะมากกว่า ถ้าเรารับกองขยะเหล่านั้นมาลูกหลานในอนาคตจะอยู่อย่างไร แต่ถ้าเรายืนยันที่จะสู้ถึงจะแพ้ลูกหลานเราก็ภูมิใจ

ภาพ/ข่าว ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดตรัง