พ่อวอนขอความเป็นธรรมให้ลูก โร่ร้องหน่วยงานช่วย

            เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2563 ที่นครปฐม หลังจากนายธนกฤต สุขประเสริฐ อายุ 58 ปี 70 ม.1 ถ.บรรเจิดใจราช ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม  หลังจากได้ร้องขอความเป็นธรรมกรณีลูกชายถูกทำร้ายขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ จังหวัดนครปฐมเข้าตรวจค้นจับกุมยาเสพติดและบุตรชายถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนเองรับไม่ได้กับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐว่าทำรุนแรงและทำเกินกว่าเหตุ ตนเองได้ไปร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดนครปฐมให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการเข้าตรวจในครั้งนี้พร้อมทั้งให้เอาผิดกับบุคคลที่ทำร้ายบุตรชายนายไพโรจน์ สุขประเสริฐ (เบีย) บุตรชายของตนเองได้รับบาดเจ็บฟกช้ำตามร่างกาย ซึ่งตนเองรับไม่ได้และสงสารบุตรชายมาก ซึ่งบุตรชายเป็นคนเรียบร้อย ไม่เกเร กินเหล้า แต่ไม่เคยมีเรื่องกับใคร

คืบหน้าตนเองได้หาพยายและหลักฐานก็หวังว่าจะเจอเพราะหน้าห้องของลูกชายมีกล้องวงจรปิดอยู่หน้าห้อง เมื่อไปสอบถามก็ทราบว่าในคืนเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษเอาไปด้วย ตนเองก็ไม่มีหลักฐานและสิ้นหวัง แต่ก็มีชาวบ้านที่อยู่และเห็นเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษเข้ามาชกหน้าลูกชายจนตาปิดเขียงช้ำ และได้ลากลงมาจากรถ จยย.ฮอนด้าคลิก สีน้ำเงิน ลงมาที่พื้นและมีชายชุดปฏิบัติการพิเศษ 4 คนรุ่มกระทืบลูกชายของตนเองจึงได้เข้าสอบถาม

ทราบชื่อนางวรรณนี เหลืองทอง อายุ 62 ปี 97/6 ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครปฐม ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองยืนอยู่ในบ้านแต่แอบมองทางหน้าต่าง เมื่อนายไพโรจน์ สุขประเสริฐ (เบีย) ขับรถ จยย.มาจอดที่หน้าห้อง 97/10 ซึ่งห้องจะอยู่เยื้องกับห้องซ้อมดนตรี นายเบียก็จะก้าวขาลงมาจากรถ จยย.จากนั้นนางวรรณนี เล่าอีกว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ หนึ่งในนั้นได้ชกเข้าไปที่หน้าของนายเบีย ไป 1 ครั้งและได้กระชากนายเบียลงมาจากรถแล้วก็กระทืบนายเบีย  ทางด้านนางวรรณนี ยังบอกอีกว่าเจ้าหน้าที่มากันมาก มีทั้งด้านหน้าและอยู่ที่ด้านหลัง

จากนั้นได้มีคนชื่อนาย ปาม ขับรถ จยย.มาจอดทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษได้ล็อคเอาไว้ และมีอีก 1 คนก็ถูกจับมานั้งอยู่ด้านหน้าห้องซ้อมดนตรี ซึ่งชายที่ถูกล็อคตัวมานั่งจะไม่มีใครที่ถูกทำร้ายนอกจากนายเบีย คนเดียวที่โดนทำร้าย และโดนกระทืบ ซึ่งมีด้วยกัน 4 คน ทางด้านนางวรรณนี ที่แอบดูอยู่ในห้องได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแม้กระทั้งมีชายในกลุ่มที่มาได้ทำการถอด บิดกล้องวงจรปิดตัวที่ติดเอาไว้ที่หน้าบ้านในกล้องวงจรปิดมีซิม เพราะกล้องตัวดังกล่าวสามารถมองหรือดูจากมือถือได้ นางวรรณนีก็ไม่กล้าออกมาเพราะกลัว ไม่ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่เข้ามาทำอะไร มากันเยาะเกิน ประมาณ 20 คน จากนั้นได้มีชายชาวพม่ากลับมาจากทำหมู ทางเจ้าหน้าที่ก็ชกเขาอีกจนชายคนดังกล่าวบอกว่าผมไม่ใช่ ผมมาจากทำงาน จากนั้นก็ได้เข้าห้องเช่าไปซึ่งห้องเช่าดังกล่าวอยู่ติดกันนางวรรณนี กล่าว

จากนั้นนายธนกฤต สุขประเสริฐ พ่อของนาย เบีย ได้รวมรวบหลักฐานที่มีทั้งหมด รวมทั้งหลักฐานด้านเอกสาร และพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์มาให้ข้อมูลทำให้ตนเองรู้สึกมีกำลังใจขึ้นที่จะเดินหน้าทวงความยุติธรรมให้ลูกชายที่ถูกชกหน้าเข้าที่ เบ้าตาจนเขียว และตามลำตัว หน้าอก เจ็บและฟกช้ำ ที่จะเรียกร้องความถูกต้อง ความเป็นธรรมให้กับลูกชาย ถึงแม้ลูกชายบอกตนเองว่าไม่ให้เอาเรื่องหรือแจ้งความ แต่ก็ไม่ทราบว่าลูกชายโดนอะไรมาบ้าง ทั้งข่มขู่ ลูกชายของตนเอง ว่าการทำงานเข้าตรวจเช่นนี้มีความถูกต้องหรือไม่ และเหมาะสมในการเข้าปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่หรือไม่ พร้อมทั้งรอหลังผลการตรวจสอบของศูนย์ดำรงค์ธรรมวันที่ 17 มกราคม 2563 นี้

ปนิทัศน์ มามีสุข   นส.ปณิดา มามีสุข  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครปฐม