หนุ่มพ่อเลี้ยงเดี่ยวคนดังอุดรเสียชีวิตบริจาคอวัยวะช่วยผู้ป่วย ได้ถึง6 คน

 

 

              โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ลงข้อความและภาพว่า เป็นเรื่องน่าเศร้า เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสต์ภาพ และเรื่องราวของ นายเฉลิมเกียรติ ทิพฤาชา พ่อเลี้ยงเดี่ยวที่เคยเป็นข่าวโด่งดังก่อนหน้านี้ ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว ความว่า วันนี้ขอเชิญ เพื่อนๆ พี่น้องคนสนิทร่วม พิธีรดน้ำศพ นายเฉลิมเกียรติ ทิพฤาชา (โก้) #คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ณ วัดโพธิ์สมพร ศาลาพุทธรักษา 1

วันที่ 11 มกราคม 2563 เวลา 17.00 น ที่วัดโพธิ์สมภรณ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานีนางคำพิศ ทิพฤาชา อายุ 67 ปี แม่ของ นายเฉลิมเกียรติ ทิพฤาชา ลูกชายที่ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขี่รถ จยย.ล้มเองที่บริเวณสี่แยก สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า  หลังจากลูกชายเกิดอุบัติเหตุ แล้วเมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา อาการบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งนายเฉลิมเกียรติฯ เคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปี 2559 ในฐานะพ่อเลี้ยงเดี่ยว ที่ต้องเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง หลังจากแยกทางกับแม่ของลูก

 

 

 

 

ลูกชายของตนได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งลูกชายก็เป็นเจ้าชายนิทรา หมอที่รักษาบอกว่าก้านสมองของลูกชายตายไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอยู่ได้ก็เพราะว่าปั๊มหัวใจช่วยไม่มีปาฏิหาริย์แล้ว หลังจากนั้นหมอก็ได้มาคุยกับตนว่าทำบุญให้น้องไหม ซึ่งให้ตนตัดสินใจเอง และตนก็ถามว่าจะทำแบบไหน โดยให้ตนบริจาคอวัยวะลูกชายให้กับคนที่รออวัยวะอยู่ เพราะว่าอวัยวะภายในของน้องยังมีสภาพที่ดี และสามารถนำไปช่วยผู้ป่วยได้ ทำให้ตนตัดสินใจเดียวนั้นเลยว่าบริจาค เพื่อที่จะได้กุศล และส่งผลบุญนี้ให้กับลูกชาย

 

หลังจากนั้นตนเลยได้บอกกับญาติพี่น้องแล้วเข้าไปคุยกับหมอ และก็ต้องให้ลูกของลูกชายเข้ามารับฟังด้วย เพราะว่าเป็นทายาท ซึ่งจากการที่บริจาคอวัยวะของลูกชายครั้งนี้สามารถช่วยผู้ป่วยได้ 6 คน ซึ่งอวัยวะหมอก็จะบอกว่าอันไหนใช้ได้ใช้ไม่ได้บาง โดยมีทางรัฐมนตรีสาธารณสุขขับเครื่องบินมารับอวัยวะ แต่ว่าตนไม่สะดวกที่มา เพราะว่าผ่าตัดตอนสามทุ่ม ซึ่งทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์ไปบอกอยู่ ตนก็ขออนุโมทนาบุญอยู่ที่บ้านทางโรงพยาบาลก็ยอมไม่ต้องให้มา ซึ่งทางรัฐมนตรีได้โทรศัพท์มาขอบคุณกับตนอยู่ โดยตนไม่ถือว่าอวัยวะของลูกชายไม่ครบ และไม่ได้คิดอย่างนั้น ซึ่งตนคิดว่าลูกจะได้บุญมากกว่าที่ช่วยผู้ป่วย ตนภูมิใจมากที่ได้ทำแบบนี้บริจาคอวัยวะช่วยเหลือคน

 

 

 

นางคำพิศ ทิพฤาชา กล่าวว่า  หลังจากนี้ลูกของลูกชาย ก็คงช่วยกันดูแลเลี้ยงดูต่อไป  ซึ่งลูกของลูกชายก็รับรู้อยู่ว่าพ่อได้จากไปแล้ว โดยตอนนี้ก็กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.1 และก็ไม่มีอาการงอแงเลยเขาติดพ่ออยู่แต่ว่าก็อยู่ได้ เพราะว่าตนได้เลี้ยงด้วยกับตอนที่พ่อเขายังมีชีวิตอยู่ ทำให้เขาไม่รู้สึกที่จะขาดอะไรมากเลย ถ้าไม่มีพ่อเขาก็มีย่า โดยหลังจากเผาแล้วก็จะนำเอาอัฐิไปใส่ธาตุไว้กับพ่อของลูกชายที่สวนของตัวเอง

 ส่วนด.ช.สุทธิภัทร์ ทิพฤาชา หรือ น้องข้าวปั้น อายุ 7 ขวบ ลูกของนายเฉลิเกียรติฯ บอกว่า อธิษฐานให้ปาป๊าขึ้นสวรรค์ และจะเป็นคนดี เรียนหนังสือให้เก่ง ๆ โตขึ้นมาอยากเป็นทหาร ที่จะได้เลี้ยงคุณย่าต่อไป

นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว  ภูมิภาค จ.อุดรธานี