กองทุนพัฒนาแม่ค้าบึงบูรพ์โร่แจ้งความ หลังพบพิรุธ เงินหายไป

                  วันที่ 10 มกราคม 2563 ที่ สถานีตำรวจภูธรบึงบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีสมาชิก กองทุนเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการค้า เทศบาลบึงบูรพ์  ทยอยเดินทางมาแจ้งความกับ  พันตำรวจโท สันติภาพ กันตะภาค สารวัตรเวรสอบสวน สภ. บึงบูรพ์ ภายหลังจากได้รับแจ้งบอกกล่าวอย่างไม่เป็นทางการจากประธานกองทุนฯ ว่า ขณะนี้เงินหุ้นทุนของกองทุนฯ ที่สมาชิกของกองทุน จำนวน 66 คน ได้นำมาฝากออมทรัพย์ไว้ เพื่อเป็นในการดำเนินงาน โดยส่วนใหญ่จะนำมาให้สมาชิกที่ขาดสภาพคล่องในการดำเนินการค้าเป็นช่วงๆ ในการนำเงินไปซื้อหาสินค้ามาจำหน่ายในตลาดบึงบูรพ์ ในระยะสั้นๆ ซึ่งหากไปกู้หนี้ยืมสินจากแหล่งเงินทุนอื่น โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ เจ้าหน้าที่จะมีการคิดดอกเบี้ยรายวัน นอกจากคิดดอกเบี้ยแพงกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยบางช่วงคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาทต่อเดือน ทำให้ผู้ประกอบการค้า ไม่มีโอกาสที่จะลืมตาอ้าปากได้ แค่ภายหลังจากที่ได้มีการรวมตัวกันตั้งเป็นกองทุนเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ แล้ว ได้แต่งตั้งเทศบาลได้เป็นพี่เลี้ยง ในการดูแลการดำเนินกิจการ ทำให้กิจการเติบโตมาโดยตลอด ต่อมาเห็นว่ามีประธาน คณะกรรมการที่เข้มแข็งแล้ว  เทศบาลจึงถอยออกมาปล่อยให้คณะกรรมการดำเนินธุรกิจดูแลกันเอง จนเริ่มเกิดปัญหาขึ้น สมาชิกจึงเข้ามาแจ้งความเพราะเกิดการไม่โปร่งใสขึ้น

นางสุรินทร์ สุมาลุย์  หนึ่งในสมาชิก เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันกับสมาชิกคนอื่น เรื่องเงินออม กองทุนเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการค้าเทศบาลบึงบูรพ์ สมาชิกจะขอถอนหุ้น แต่คณะกรรมการยังไม่ให้ถอนหุ้น คณะกรรมการแจ้งมีปัญหาเรื่องเงินหาย สมาชิกก็เลยมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยไกล่เกลี่ยกับคณะกรรมการ โดยสรุปยอดเงินที่หายไป 5 ล้านกว่าบาท อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกคณะกรรมการฯ มาคุยว่าจะชดใช้ให้กับสมาชิกอย่างไร ภายในเวลาเท่าไหร่ อยากได้คำตอบที่ชัดเจน ซึ่งเงินหุ้นของสมาชิกบางคนมีถึง300,000 บาท  บางคน 200,000 บาท บางคน 100,000 บาท แล้วแต่หุ้นเงินฝากของแต่ละคน ซึ่งจะฝากเป็นเงินรายวัน คนละไม่เกิน 10 หุ้น หุ้นละ 10 บาท ซึ่งทางสมาชิกยังไม่แน่ใจว่าจะได้เงินทั้งหมดคืนหรือไม่ จึงได้ขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อย่างไรก็ดี  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องในการลงบันทึกประจำวัน ในการเข้าแจ้งความของสมาชิกกองทุนฯ ทุกราย พร้อมได้ประสานไปยังประธานคณะกรรมการ เพื่อเชิญมาร่วมให้ข้อมูล สอบสวนข้อมูลตามที่ได้รับเรื่องร้องทุกข์  พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ตลาดสดเทศบาลตำบลบึงบูรพ์ เพื่อสอบถามเบื้องต้น ปรากฎว่าประธานไม่อยู่ ซึ่งผู้สื่อข่าวจะได้ติดตามข่าวข้อมูลที่เป็นจริง มานำเสนอต่อไป

ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ