ข่าว

อดีตนายก อบจ.เมืองคอนร้องขอความเป็นธรรมคดีโกงเลือกตั้ง อบจ.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คดีมหากาพย์โกงเลือกตั้ง!!อดีตนายก อบจ.เมืองคอนร้องขอความเป็นธรรมและติดตามคืบหน้าอัยการสูงสุดสั่งคดีโกงเลือกตั้ง อบจ.-หลังคดียืดเยื้อกว่า 6 ปี

 

 

        จากกรณีคดีมหากาพย์โกงการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งนายพิชัย บุญยเกียรติ อดีต สว.และอดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช น้องชายนายชิณวรณ์ บุญยเกียรติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยื่นฟ้องนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์นครศรีธรรมราช และอดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และนายมาโนช เสนพงษ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ในข้อหาทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราชเมื่อปี 2557  ซึ่งเป็นคดีที่ยืดเยื้อมานานกว่า 6 ปี และเป็นข่าวที่ประชาชนสนใจติดตามอย่างต่อเนื่องมาแล้วนั้น

              8 ม.ค.2563นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีต สว.และอดีต นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมและติดตามความคืบหน้าในการสั่งคดีเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 155/1 ต่ออัยการสูงสุดผ่านสำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายศักสยาม ชัยด้วง นิติกรปฏิบัติการ สำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อเสนอต่อไปยังอัยการสูงสุดตามขั้นตอนต่อไป

            นายพิชัย บุณยเกียรติ เปิดเผยว่า ในการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและติดตามความหน้าในการสั่งคดีของอัยการสูงสุด ตนได้แบนเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของตนในฐานะผู้เสียหายและผู้ร้อง รวมทั้งหนังสือขอความเข็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ฉบับลงวันที่ 6ธันวาคม 2561  สำนักงาน อัยการสูงสุด เลขรับ 38689 ,คำสั่งประทับห้องไว้พิจารณาของศาลจังหวัตนครศรีธรรมราช คดีหมายเลขดำที่ อ. 174 /2562  ความระหว่างตนซึ่งเป็นผู้ร้อง กับนายมาโนช เสนพงศ์ ที่ 1  และนายเทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 2  ลงวันที่ 31  กรกฎาคม 2562  และเอกสารอ้างถึงสำเนาหนังสือขอความเป็นรรมต่ออัยการสูงสุดวันที่  8 สิงหาคม 2560  จำนวน 1 ชุด  สำนักงานอัยการสูงสุด เลขรับ 42821  และสำเนาหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีอัยการภาค  8 ลงวันที่ 24 เมษายน 2560  จำนวน 1 ชุด

อดีตนายก อบจ.เมืองคอนร้องขอความเป็นธรรมคดีโกงเลือกตั้ง อบจ.

อดีตนายก อบจ.เมืองคอนร้องขอความเป็นธรรมคดีโกงเลือกตั้ง อบจ.

อดีตนายก อบจ.เมืองคอนร้องขอความเป็นธรรมคดีโกงเลือกตั้ง อบจ.

ทั้งนี้สืบเนื่องจากที่ตนได้ยื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ตามเอกสารที่อ้างถึง 1. เพื่อขอให้มีความเห็นสั่งฟ้องดตีอาญในข้อหาความผิดฐานเลี้ยงหรือรับจัดเลี้ยงแก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ได้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครคนอื่น ๆ กับนายมาโนช เสพงศ์ และนายเทพไท เสนพงศ์ ตามพระราชบัญญัติการเล็อกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ. 2545 โดยรายละเอียดปรากฏตา สิ่งที่แนบมาด้วย 2. นั้น ต่อมา ปรากฎข้อเท็จจริงว่าคดีดังกล่าวอธิบดีอัยการภาค 8 ได้มีความเห็นว่าควรสั่งฟ้องนายมาโนช  เสนพงศ์ แต่มีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องนายเทพไท เสนพงศ์ภายหลังเมื่อสำนวนมาถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กลับมีความเห็นตามหนังสือที่ ตช 0023.27/3581  ฉบับลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 มีความเห็นแย้งกับสำนวนคดีอาญที่ 3063/2558 ของอริบตีอัยการภาค 8 โดยมีความเห็นให้ฟ้องคดีอาญาทั้งนายมาโนช เสนพงศ์ และนายเทพไท เสนพงศ์ เป็นจำเลยต่อศาล โดยเมื่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้ทำความเห็นแย้งส่งถึงอัยการสูงสุด

               ภายหลังผู้ร้องเป็นโจทก์ตัวยตนเอง ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1 และนายเทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 2 เป็นจำเลยในข้อหาความผิดฐานเลี้ยงหรือรับจัดเลี้ยงแก่ผู้ใด เพื่อสูงใจให้ผู้มีสิทธิ์ลือกตั้ง ได้สงคะแนนเลือกตั้งไห้แก่ผู้สมัครคนอื่น ๆ ตามพระราชบัญญัติกรเสือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 57 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 118  และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ต่อศาลจังหวัดนครศรีรรมราช เป็นคดีอาญหมายเลขดำที่ 174/2562  และต่อมาเมือวันที่ 31 กรกฎาคม 2562ศาลมีคำสั่งว่าคดีมีมูลและเห็นควรให้ประทับฟ้องของผู้ร้องไว้พิจารณา และดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามกฎหมาย ซึ่งรายละเอียดปรากฎตามอกสารที่แนบมาด้วย 3.

            ด้วยเหตุดังกล่าว ผู้ร้องจึงขอความเป็นธรรมจากท่านอัยการสูงสุด ได้โปรดมีคำสั่งฟ้องทั้งนายมาโนช เสนพงศ์ และนายเทพไท เสนพงศ์ ในข้อหาดังกล่าวต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย เพื่อให้คดีอาญา ดังกล่าว ซึ่งมีพยานหลักฐานเพียงพอครบถ้วนได้รับการชำระให้ถูกต้องโดยองค์กรศาล และคดีดังกล่าวจะได้เสร็จสิ้นไปในคราวเตียวกัน และจะได้เป็นบรรทัดฐานที่ตีต่อสังคมต่อไป ว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกคนจะต้องดำเนินการเลือกตั้งอย่างเป็นธรรมและเคารพต่อกฎหมาย ภายใต้กรอบของระบอบประชาธิปไตยเดียวกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ ผู้ร้องขอถือเอาเอกสารที่ส่งมาด้วย 2. 3 และเอกสารอ้างถึง 1. 2. เป็นเอกสารเพื่อประกอบคำร้องของผู้ร้องนี้ด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณามีความเห็นสั่งฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 145/1 ต่อไป

นายพิชัย บณยเกียรติ กล่าวอีกว่า เรื่องเดิมหลังจากการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปปี 2557 ตนได้เป็นผู้ร้องทุจริตการเลือกตั้ง นายองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ที่ตกเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีนี้คือนายเทพไท เสนพงศ์ ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็น ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคดีอาจส่งผลกระทบโดยตรงกับพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากห้วงเวลาที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในระหว่างการดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค และรองเลขาธิการพรรค  ส่วนจำเลยที่ 1 ในคดีนี้คือนายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งต้องคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ให้ใบแดง โดยเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง มีอันต้องพ้นจากตำแหน่ง พร้อมทั้งมีภาระต้องชดใช้ค่าเสียหายในการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช อีกเกือบ 100 ล้านบาท โดยสำนวนคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 เป็นเอกสารหลักฐานข้อเท็จจริงในการดำเนินคดีกับจำเลยทั้งสองราย

อดีตนายก อบจ.เมืองคอนร้องขอความเป็นธรรมคดีโกงเลือกตั้ง อบจ.

อดีตนายก อบจ.เมืองคอนร้องขอความเป็นธรรมคดีโกงเลือกตั้ง อบจ.

อดีตนายก อบจ.เมืองคอนร้องขอความเป็นธรรมคดีโกงเลือกตั้ง อบจ.

โดยข้อมูลขั้นตอนคดีนี้หลังจากศาลอุธรณ์ภาค 8 ได้พิพากษาความคดีเลือกตั้งที่หมายเลขดำที่ ลต.6/2556 แดงที่ 1490/2558 ไปแล้ว สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งได้ดำเนินคดีอาญา โดยได้แจ้งความร้องทุกข์ในคดีอาญากับนายมาโนช เสนพงศ์ และนายเทพไท เสนพงศ์ กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อเกือบ 5 ปีก่อนหลังจากนั้นคดีอยู่กระบวนการชั้นพนักงานสอบสวนมาจนถึงปัจจุบันในชั้นอัยการสูงสุด จนถึงปัจจุบัน แต่กลับไม่มีความคืบหน้าทางคดี จนในที่สุดตนซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดีได้เลือกที่จะนำคดีเข้ายื่นฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วยตัวเอง และศาลได้ประทับรับฟ้อง ทำให้ทั้งนายเทพไท และนายมาโนช เสนพงศ์ ทั้งสองตกเป็นจำเลย โดยทั้งคู่ได้เข้ามอบตัวต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่2562 และประกันตัว โดยในวันที่ 21 ต่อเนื่องวันที่ 22 และ วันที่ 23  มกราคม 2563 นี้ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชได้นัดสืบพยานโจทก์และจำเลยให้แล้วเสร็จ และนัดวันพิพากษาคดีต่อไป

              ซึ่งในส่วนของสำนวนคดีที่ค้างอยู่ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งดำเนินการตามขั้นตอนจากชั้นพนักงานสอบสวนจนปัจจุบันกำลังเข้าสู่ปีที่ 6 แม้อัยการสูงสุดจะยังไม่สั่งคดี แต่ถือว่าไม่เป็นผลใด ๆ แล้ว โดยหากอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดี จะส่งผลให้ทั้งคู่จะต้องตกเป็นจำเลยอีกคดีจะต้องเข้ามอบตัวและประกันตัวอีกครั้ง ซึ้งตนได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและติดตามการสั่งคดีมาแล้ว 2 ครั้ง แต่เรื่องก็ไม่เงียบหายจึงมายื่นร้องขอความเป็นธรรมและติดตามกรสั่งคดีของอัยการสูงสุดเป็นครั้งที่ 3 ดังกล่าว

             “คดีการโกงการเลือกตั้ง อบจ.นครศรีธรรมราช สร้างความเสียหายให้กับ อบจ.นครศรีธรรมราช จังหวดนครศรีธรรมราช และประชาชนมี่สูญเสียผลประโยชน์อย่างมหาศาล เพราะหลังจากวันนั้นมาจนถึงบัดนี้กว่า 6 ปี อบจ.นครศรีธรรมราช ว่างผู้บริหาร หรือที่เรียกว่า “ว่างเทวดา”มายาวนาน 6 ปี โดยคดีนี้จะเป็นตัวอย่างในการสร้างบรรทัดฐานบุคคลที่เสนอตัวให้ประชาชนพิจารณาเลือกตั้งเป็นนักการเมืองทุกระดับจะต้องเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์สจริต มีประวัติความเป็นมาที่ดีงาม สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ตนจำเป็นต้องยื่นร้องตรวจสอบโกงเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช และดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดให้ถึงที่สุด” นายพิชัย บุณยเกียรติ กล่าวในที่สุด.

อดีตนายก อบจ.เมืองคอนร้องขอความเป็นธรรมคดีโกงเลือกตั้ง อบจ.

อดีตนายก อบจ.เมืองคอนร้องขอความเป็นธรรมคดีโกงเลือกตั้ง อบจ.

อดีตนายก อบจ.เมืองคอนร้องขอความเป็นธรรมคดีโกงเลือกตั้ง อบจ.

ภาพ/ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช

ยุทธนะ  เตมะศิริ นครศรีธรรมราช

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ