ชาวแหลมตะลุมพุกบุกร้องสื่อครบรอบ 1 ปีพายุปาบึกพัดถล่มยังไร้การเยียวยาช่วยเหลือ-ยื่นคำขาดให้เวลา 14 วันรวมพลังยกหมู่บ้านเข้ากรุงยื่นถวายฎีการอบ 2
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 4 ม.ค. 2563 ที่ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ได้มีตัวแทนชาวบ้านจาก ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 40 คน นำโดย น.ส.ราตรี คงประพันธ์ (ชูแก้ว) นางสุลีพร เจ้ยแก้ เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากกรณีเกิดเหตุพายุปาบึกพัดถล่มเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2562 สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและทรัพย์สินอย่างหนัก แต่กลับไม่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลือตามกรอบที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพน ไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นไปตามกรอบที่ทางราชการกำหนด เล่นพรรคเล่นพวก เลือกปฏิบัติและปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ มีการทุจริตคอร์รัปชัน
น.ส.ราตรี คงประพันธ์ (ชูแก้ว) กล่าวว่า กก่อนหน้านี้ชาวบ้านต้องรวมตัวกันเดินทางเข้ากรุงเทพยื่นหนังสื่อต่อสำนักนายกรัฐมนตรีและยื่นถวายฎีกาขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากในหลวง จน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้แล้ว นางเปรมปรีด์ ชตานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าคณะพร้อมด้วยนายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข่อเท็จจริง เมื่อวนที่ 29-30 ส.ค. 2562 พร้อมกันนี้ชาวบ้านยังได้รวมตัวเข้ายืนร้องเรียน ปปช.นครศรีธรรมราช เพื่อให้ตรวจสอบการทุจริตในเรืองนี้ด้วย แต่จนถึงขณะนี้ครบรอบปีพายุปาบึกพัดถล่มพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชครบรอบปีพอดี แต่ชาวบ้านกลับยังไม่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลือใด ๆ แม้แต่น้อย
“ซึ่งหลังจากคณะจากส่วนกลางเดินทางลงมาตรวจสอบและพบข้อเท็จจริงว่าการการช่วยเหลือไม่เป็นธรรม ไม่เป็นไปตามกรอบที่ทางราชการกำหนด ไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม เล่นพรรคเล่นพวก ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ มีการทุจริตคอร์รัปชั่น จึงได้ตั้งแต่งคณะทำงานในระดับจังหวัดขึ้นมา 1 ชุดพร้อมตัวแทนชาวบ้านร่วมในคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย โดยร่วมตรวจสอบข้อเท็จริงและรวบรวมเอกสารพยานหลักฐานความเสียหายของชาวบ้านแต่ละรายที่ยังไม่ได้รับการเยี่ยวยาช่วยเหลือ จำนวน 483 ราย ทั้งกรณีบ้านพักเสียหายทั้งหลัง เสียหายบางส่วน เครื่องมืออุปกรณ์การประกอบอาชีพ เสื้อผ้าเครืองนุ่งห่มเสียหาย รวมมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 7-8 ล้าน จากนั้นจังหวัดนครศรีธรรมราชได้เสนอเรื่องไปสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวบ้าน”
น.ส.ราตรี คงประพันธ์ (ชูแก้ว) กล่าวอีกว่า ชาวบ้านทั้ง 483 คนตั้งหน้าตั้งตารอคอยความช่วยเหลืออย่างอดทน เพราะแต่ละคนได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส หลายคนบ้านพังเสียหายทั้งหลังยังไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีเครื่องมือประกอบอาชีพ ต้องไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายกลายเป็นหนี้สินกันอ่างกว้างขวาง แต่รอมาจนครบรอบปีพายุปาบึกพัดถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราช เรืองก็เงียบหายไม่มีความคืบหน้าใด ๆ แม้แต่เรื่องที่ร้องเรียน ปปช.ให้ตรวจสอบทุจริตก็ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เช่นกัน เมื่อ 2 เดือนก่อนหลังจากนายศิริพัฒ พัฒกุล เดินทางมับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชคนใหม่ ชาวบ้านได้เดินทางเข้าพบแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อท่านช่วยติดตามเร่งรัดการเยี่ยวยาช่วยเหลือให้ รวมมั้งเรื่องการสอบสวนทุจริตการช่วยเหลือเหยื่อพายุปาบึก ทางผู้ว่าก็รับปากว่าจะดำเนินการให้เร่งด่วนเป็นพิเศษ แต่ผ่านมาเรื่องก็เงียบหาย ล่าสุดตนได้ประสานงานไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับการชี้แจงว่าเรื่องได้ผ่านการพิจารณาและมีการโอนเงินช่วยเหลือบางส่วนมาให้ จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว แต่ทางจังหวัดยังเงียบหายไม่มีการดำเนินการหรือแจ้งวามคืบหน้าใด ๆ ให้ชาวบ้านทราบเลย
“อย่างไรก็ตามทางสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งว่าชาวบ้านบ้านพังเสียหายประมาณ 180 รายจากทั้งหมด 483 ราย ทางสำนักนายกรัฐมนตีสั่งการให้จังหวัดนครศรีธรรมราชตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม แต่ก็ไม่เห็นว่าทางจังหวัดจะดำเนินการใด ๆ เลยจนผ่านมาครบรอบปีในวันนี้ (4 ม.ค.) ซึ่งเราจะไม่รออะไรจากจังหวัดอีกแล้วโดยจะให้เวลาดำเนินการ 14 วันหากยังไม่มีการจ่ายเยี่ยวบาช่วยเหลือชาวบ้านทั้งหมดจะยกหมู่บ้านเดินทางด้วยรถไฟเขากรุงเพื่อยื่นถวายฎีกาขอความเป็นธรรมและขอความช่วยหรือจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซ้ำเป็นรอบที่ 2 ต่อไป.
ภาพ/ข่าว ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช
ยุทธนะ เตมะศิริ นครศรีธรรมราช
ข่าวที่เกี่ยวข้อง