คืบหน้าทวงหนี้โหด ตร.คาดว่าน่าจะมีประเด็นอื่นด้วย

เมื่อเวลา05.45น.ร.ต.อ.วรพงษ์ ทาเงิน ร้อยเวรสอบสวนสภ.ศีขรภูมิจังหวัดสุรินทร์ได้รับแจ้งจากนายเสริมศักดิ์ แซ่จึงอายุ39ปีบ้านเลขที่292 บ้านระแงงหมู่ที่10ตำบลระแงงอำเภอศีขรภูมิจังหวัดสุรินทร์ว่าได้มีเหตุโยนระเบิดปิงปองใส่รถเข็นขายของพังเสียหายโดยไม่ทราบสาเหตุจึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุพบรถเข็นขายลูกชิ้นถูกสะเก็ดตะปูและเศษเหล็กเนื่องจากว่าถูกแรงสะเก็ดระเบิดกระเด็นกระดอนหลอดไฟที่อยู่ภายในร้านตกแตกจนหมดบนท้องถนน ได้ไปกู้เงินนอกระบบรายหนึ่งภายในเขตพื้นที่อำเภอศีขรภูมิในระหว่างที่หมุนเงินไม่ทันได้มีเขียนจดหมายมาข่มขู่พร้อมกับระบุว่า"ภายในวันที่1ถ้าผมไม่ได้3000คุณเตรียมตัวได้เลยเตือนครั้งสุดท้าย"ไม่จ่ายเตรียมตัวได้เลยทำให้ตนเองและครอบครัวไม่สบายใจจึงได้นำเงินที่ขายของมาเคลียร์ให้ในห้วงตอนเย็นที่ผ่านมาจนหมดเพราะเกรงว่าเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบจะมาทำร้ายแต่พอรุ่งเช้ากลับมีระเบิดปิงปองระเบิดใส่รถเข็นขายของจนพังเสียหายไปหมดตนเองจึงได้แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อที่จะให้นำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

คืบหน้าล่าสุดทีมข่าวได้ลงพื้นที่ที่บ้านเลขที่ดังกล่าว พบว่านายเสริมศักดิ์ แซ่จึง กำลังเก็บข้าวของที่เสียหายจากแรงระเบิด ทีมข่าวพบว่าหลังคารถเข็นที่โดนแรงสะเก็ดระเบิดทะลุเป็นรูหลายรู ประตูเหล็กพับหนาก็ทะลุกว่า5รู รูที่โดนสะเก็ดระเบิดใหญ่กว่า 5 เซนติเมตร และตู้กระจกที่ใส่ขายลูกชิ้นแตกละเอียดใช้ไม่ได้เลย เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

นายเสริมศักดิ์ แซ่จึง อายุ39ปี ได้บอกกับทีข่าวว่า เหตุเกิดเมื่อเช้า (3/1/63) เวลาเกือบ 06.00 น. ตอนแรกได้ยินเสียงระเบิดนึกว่าแก๊สระเบิดจึงได้วิ่งออกมาดูตรวจสอบดูพบว่าเป็นระเบิด ไม่เคยมีเรื่องกะใคร มีแต่เจ้าหนี้ระบบรายวัน เจ้าเดียวที่เขียนจดหมายมาข่มขู่ และเคลียกันหมดไปแล้ว ไม่เคยมีปัญหากับใคร มีแต่เรื่องหนี้เรื่องเดียว ก็ทำมาหากินหาเช้ากินค่ำ ก็ได้แจ้งความไปแล้ว ทางกองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานไปปรากฏว่าเป็นระเบิดที่ผลิตขึ้นเอง มีตะปูนิ้วหนึ่งและพวกเศษแก้วต่างๆยัดใส่ท่อพีวีซีคิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้น..

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.ท.สมพงษ์ แก่นจักร รองผู้กำกับการสอบสวน ส.ภ.ศรีขรภูมิ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า กรณีที่มีเหตุระเบิดปิงปองในเขต อ.ศรีขรภูมิ เมื่อเช้าประมาณ 06.00 น.หลังจากเกิดเหตุพนักงานสืบสวนและพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ไปดูที่เกิดเหตุและตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าเป็นวัตถุระเบิดปิดปองแบบทำเอง ซึ่งมีพลานุภาพแค่ทำร้ายแต่ไม่ถึงชีวิต ซึ่งสาเหตุเกิดจากการทวงหนี้หรือเปล่าไม่รู้ทางพนักงานสืบสวนได้ลงและสืบสวนว่าเป็นกรณีจากเหตุทวงหนี้ไหมหรือเป็นกรณีจากเหตุอื่น นอกจากกรณีเหตุทวงหนี้แล้วยังมีการพบว่าผู้เสียได้ชำระเงินไห้กับเจ้าหนี้ครบแล้ว ทำไห้สงสัยว่าจะเป็นการทวงหนี้หรือเปล่า ส่วนประเด็นอื่นอาจจะเป็นสิ่งของที่ผิดกฎหมายหรือความประพฤติหรือเปล่าอยู่ระหว่างทางเจ้าหน้าที่สืบสวนจะได้ดำเนินการต่อไป ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บตัวอย่างของกลางจากที่เกิดเหตุเพื่อตรวจพิสูจน์แล้ว

ภาพ/ข่าว: รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสุรินทร์