สาวสุดแค้นจะซื้อข้าวฝากญาติ กลับโดนหลอกได้ข้าวเก่าค้างปี

วันที่ 2 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ที่ ต.ทุ่งจังหัน อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ว่ากลุ่มมิจฉาชีพหลอกขายข้าวสาร ยังระบาดในเขตภาคอีสาน และใช้วิธีแบบเดิมๆ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบนางสุรัตน์ โพธิ์ขำ อายุ 37 ปี อยู่เลขที่ 78 หมู่ 8 ต.ทุ่งจังหัน ยังอยู่ในอารมณ์ของความเจ็บใจ และแค้นใจ พร้อมกับนำข้าวสารที่ถูกหลอกมาให้ดู นางสุรัตน์ กล่าวว่า ปกติตนจะทำนาข้าวหอมมะลิ ส่วนหนึ่งเอาไปขายอีกส่วนจะเก็บไว้กิน ช่วงเกิดเหตุตนอยู่บ้านคนเดียว ได้มีรถกระบะนิสสัน สีขาวทะเบียนป้ายแดง มาจอด มีชาย 2 คนลงมาถามว่า”อยากได้ข้าวสารไหม พอดีเหลือส่งจากร้านค้า จะขายให้ราคาถูกๆ”

ตนไม่ค่อยสนใจเพราะมีข้าวปลูกเองอยู่แล้ว แต่ชายทั้งสองได้เอาอุปกรณ์ไปเจาะถุงข้าวสารที่อยู่บนรถเอาตัวอย่างมาให้ดู มีทั้งข้าวมะลิ และข้าวเหนียว เมื่อตนดูแล้วสนใจข้าวเหนียว เพราะไม่ได้ปลูก ประกอบกับข้าวตัวอย่างดูแล้วเป็นข้าวชั้นดี เม็ดสวยมาก

จึงตกลงเอาข้าวเหนียว จึงซื้อ 1 ถุงๆละ 45 กก. ตกลงราคากัน 1,200 บาท เพื่อจะฝากให้ญาติไปกินที่กรุงเทพฯ หลังหยุดยาว หลังจากจ่ายเงินแล้วตนก็เอะใจ เพราะเคยได้ยินข่าวมีการหลอกขายข้าวสารบ่อยครั้ง

ตนจึงรีบไปเปิดดูถุงข้าวสาร ปรากฏว่าเจอเต็มๆ ข้าวในถุงเป็นข้าวสารจ้าวเม็ดใหญ่ เบื้องต้นรู้เลยว่าโดนหลอก จึงตัดสินใจขับรถมอเตอร์ไซค์วิ่งตามรถกระบะแบบไม่คิดชีวิตเพราะเจ็บใจ

จนกระทั่งขับตามไปเจอทางแยกถนนใหญ่ ตนชี้หน้าคนขับให้จอดรถ แต่ชายทั้งสอง ไม่ยอมจอด ขับรถหนีไปต่อหน้า จนจำทะเบียนรถได้ ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งศูนย์ 191 ให้ตามจับ แต่ไม่ทัน เพราะคนร้ายไม่รู้จะขับรถไปทางไหน

นางสุรัตน์ กล่าวต่อว่า หลังจากตามกลุ่มมิจฉาชีพไม่ทันแล้ว จึงกลับมาบ้าน เอาข้าวสารที่ได้ ไปให้พี่สาวซึ่งเปิดเป็นร้านขายของ รู้จักชนิดข้าวสารเป็นอย่างดี พบว่าเป็นข้าวสารเก่า ส่วนใหญ่เข้าไปต้มให้สัตว์เลี้ยง  

และยิ่งเจ็บใจซ้ำอีก เพราะน้ำหนักที่ตกลงกัน 45 กก. เมื่อนำไปชั่งแล้วพบว่ามีเพียง 30 กก. เมื่อนำมาหุงแล้วแข็งกินแทบไม่ได้ จึงอยากจะแจ้งเตือนชาวบ้านทั่วไปให้ระวัง ว่า กลุ่มนี้มักจะออกมาหลอกขายข้าวสารในเขตภาคอีสานเป็นประจำทุกปี ถ้ามีคนเอามาขายให้ในลักษณะนี้ ให้ถ่ายคลิปไว้ หรือปฏิเสธการซื้อจะดีที่สุด เพราะขนาดตนเองระวังแล้ว...ยังโดน

ภาพ/ข่าว ธีรยุทธ ชำนาญกอง ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์