ข่าว

กะเหรี่ยง 'บิลลี่' ทีเด็ดที่ 'กระดูก'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ประมวลข่าวเด่นรอบปี 2562 ....กะเหรี่ยง 'บิลลี่' ทีเด็ดที่ 'กระดูก' โดย หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

 

 

              คดีการหายตัวไปของ “บิลลี่” กะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จ.เพชรบุรี กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอีกครั้ง เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามารื้อคดีและพบหลักฐานชิ้นสำคัญคือ กะโหลกศีรษะของเขาถูกยัดใส่ถัง 200 ลิตร ถ่วงน้ำอยู่ใต้เขื่อนแก่งกระจาน

 

         อ่านข่าว : ชัยวัฒน์ รายงานตัวศาลอาญาคดีทุจริต

                       : กว่า 5 ปี เวลารอคอยของ 'มึนอ'ก็มาถึง 

 

             พอละจี รักจงเจริญ คือชื่อทางการของบิลลี่ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่พาตัวเองเข้าสู่ห้วงอันตราย เมื่อเขาร่วมกับชาวบ้านในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีชุดปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานบุกขึ้นไปเผาทำลายบ้านเรือน ยุ้งฉาง และเมล็ดพันธุ์พืชของชาวกะเหรี่ยงบางกลอยบน และใจแผ่นดินกว่า 20 ครอบครัว เมื่อปี 2554 โดยกล่าวหาว่าพวกนี้เป็นชนกลุ่มน้อย บุกรุกป่าอนุรักษ์ ทำให้ป่าเสื่อมโทร และลักลอบปลูกกัญชา

 

             การเคลื่อนไหวของบิลลี่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง  เขาพยายามรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่อุทยาน กระทั่ง 3 ปีต่อมาเขากลับหายตัวไปทั้งที่ยังทำงานไม่สำเร็จ

 

 

                 กะเหรี่ยง 'บิลลี่'  ทีเด็ดที่ 'กระดูก'

                บิลลี่ หรือ พอละจี รักจงเจริญ

 

             มีรายงานว่ามีคนเห็นบิลลี่ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 ขณะถูกเจ้าหน้าที่อุทยานควบคุมตัวที่ด่านมะเร็ว อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

 

             ผ่านไป 1 วัน บิลลี่ยังไม่กลับบ้าน “มึนอ” พิณนภา พฤกษาพรรณ  ภรรยาของเขาจึงไปขอให้ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย พาไปแจ้งความคนหายที่ สภ.แก่งกระจาน และตำรวจได้สอบถามไปยัง ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานขณะนั้น ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่อุทยานจับตัวบิลลี่ไปจริง เพราะมีน้ำผึ้งป่าไว้ในครอบครอง แต่ก็อ้างว่าหลังจากตักเตือนแล้วก็ได้ปล่อยตัวไป 

 

             ภรรยาของบิลลี่ ไม่เชื่อคำที่หัวหน้าอุทยานอ้างกับตำรวจ และมั่นใจว่าสามียังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานกักขังอยู่ จึงเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับผู้ว่าราชการจังหวัด และ ผบภ.จว.เพชรบุรี แต่ก็ยังไม่ได้ตัวสามีกลับคืน หัวหน้าชัยวัฒน์ ยังคงยืนกรานว่าปล่อยตัวไปแล้ว โดยน้องสาวของเขาก็เห็น

 

 

กะเหรี่ยง 'บิลลี่'  ทีเด็ดที่ 'กระดูก'

ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร 

           

         และแม้จะให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ขอให้ไต่สวนฉุกเฉินตาม ป.วิอาญามาตรา 90 กล่าวหาหัวหน้าชัยวัฒน์ ว่าควบคุมตัวบิลลี่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย แต่ศาลยกคำร้อง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ

             

 

 

           ความหวังที่จะได้ตัวสามีกลับคืนริบหรี่ลงทุกที ยิ่งเวลาผ่านนานไปการรวบรวมพยานหลักฐานก็ยิ่งทำได้ลำบาก สังคมที่เคยให้ความสำคัญกับคดีนี้ค่อยๆ ลดน้ำหนักลงจนเรื่องเงียบหายไป แต่ มึนอ ไม่ท้อที่จะติดตามต่อ 

 

             เธอได้ไปยื่นหนังสือต่อองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมไปถึงองค์กรและสถานทูตต่างประเทศ ซึ่ง Thaipublica รายงานว่าเธอน่าจะไปไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง

 

             “หนูไปยื่นหนังสือหลายครั้งจนจำไม่ได้ น่าจะมากกว่า 10 ครั้ง ไปหลายที่ด้วย ยูเอ็นก็เคยไป สถานทูตเยอรมันก็เคยไป ที่สถานทูตเยอรมันไปมาแล้ว 2 ครั้ง ไปเรียกร้องว่าคดีไม่คืบหน้า ก็ไปขอให้เขาช่วยกระตุ้นให้หน่อย ให้ผลักดันให้หน่อย” 

 

 

          กะเหรี่ยง 'บิลลี่'  ทีเด็ดที่ 'กระดูก' มึนอ ภรรยาของบิลลี่

 

             กระทั่งปี 2561 หัวใจของมึนอ ก็พองโตและกลับมาเห็นรอยยิ้มอีกครั้งเมื่อได้รับข่าวดีจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่าจะรับทำคดีของบิลลี่ หลังจากได้ลงมือสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานไปบ้างแล้ว

 

             ดีเอสไอ เคยปฏิเสธคำร้องของมึนอ เมื่อปี 2560 ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ การสืบสวนยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ รวมทั้งภรรยาของบิลลี่ไม่มีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียน เนื่องจากไม่ได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย และการสอบสวนของดีเอสไอ อาจทำได้หากพบเจอร่างของบิลลี่เท่านั้น 

 

             แต่ในปี 2561 ดีเอสไอ ตั้งเรื่องเข้าที่ประชุมใหม่และมีมติรับกรณีบิลลี่ เป็นคดีพิเศษ หลังพบเบาะแสสำคัญบางอย่างจากการลงพื้นที่เก็บหลักฐานอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังรับประกันไม่ได้ว่าจะสามารถติดตามตัวบิลลี่กลับมาได้หรือไม่ หรือในสภาพใด

 

 

กะเหรี่ยง 'บิลลี่'  ทีเด็ดที่ 'กระดูก'

             คดีบิลลี่มาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในปี 2562 เมื่อดีเอสไอ ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และเครือข่ายนักอนุรักษ์ป่าและสิ่งแวดล้อม นำญาณสำรวจใต้น้ำลงตรวจสอบบริเวณใต้สะพานแขวนเขื่อนแก่งกระจาน และพบชิ้นส่วนกระดูก 2 ชิ้น ใกล้ถังน้ำมัน 200 ลิตร ที่มีเหล็กเส้น และถ่านไม้อยู่ด้วย

 

             จากการตรวจพิสูจน์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์พบว่าชิ้นส่วนกระดูกที่พบ เป็นกระดูกกะโหลกศีรษะของมนุษย์ มีรอยไหม้ ที่สำคัญพบสารพันธุกรรมตรงกับ มารดาของบิลลี่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นการฆ่าและนำมาเผาอำพรางคดี เพียงแต่ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าใครเป็นคนทำ

            

 

 

           พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ บอกว่า นี่คือคดีฆาตกรรมในลักษณะเป็นการ บังคับบุคคลให้สูญหาย ที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ซึ่งดีเอสไอ มั่นใจว่าจากพยานและหลักฐานที่มีอยู่จะสามารถจับกุมคนที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมได้แน่นอน

 

กะเหรี่ยง 'บิลลี่'  ทีเด็ดที่ 'กระดูก' พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ

 

             หลังพบหลักฐานชิ้นส่วนกระโหลกมนุษย์ ซึ่งดีเอสไอมั่นใจว่าเป็นของบิลลี่ อดีตหัวหน้าชัยวัฒน์และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ลูกน้องเก่าก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยทันที ทำให้พวกเขาต้องออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้ว่า ดีเอสไอ จัดฉากให้ร้าย โดยใช้บิลลี่เป็นตัวละคร 

 

 

กะเหรี่ยง 'บิลลี่'  ทีเด็ดที่ 'กระดูก'

             แต่ในที่สุดแล้วศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้อนุมัติหมายจับชัยวัฒน์  ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กับพวกรวม 4 คน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562

 

             วันรุ่งขึ้น ชัยวัฒน์ พร้อมลูกน้องเก่าที่ถูกออกหมายจับ คือ บุญแทน บุษราคำ, ธนเสฏฐ์ หรือ ไพฑูรย์ แช่มเทศ และ กฤษณพงษ์ จิตต์เทศ เดินทางเข้ามอบตัวที่ดีเอสไอ ก่อนศาลอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน 

 

 

กะเหรี่ยง 'บิลลี่'  ทีเด็ดที่ 'กระดูก'

             แต่อดีตหัวหน้าชัยวัฒน์ก็ยังคงเดินสายออกรายการทีวี โต้แย้งข้อกล่าวหาของดีเอสไอ อย่างดุเดือด จนศาลต้องออกคำสั่งห้าม หลังจากอธิบดีดีเอสไอ ยื่นขอให้ศาลถอนประกัน แต่ศาลไม่ได้อนุมัติตาม 

 

             อย่างไรก็ตามหลังจากอดีตหัวหน้าชัยวัฒน์กับลูกน้องเข้ามอบตัว ดีเอสไอใช้เวลาสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพียงเดือนเศษก็สรุปสำนวนจำนวน 17 แฟ้ม 3 ลัง เสนอพนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสี่ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2562 รวม 6 ข้อหา มีทั้งฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, หน่วงเหนี่ยวกักขัง, ใช้อาวุธข่มขืนใจและใช้กำลังประทุษร้าย, ปล้นทรัพย์, ทุจริตเพื่ออำพรางศพ และกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการ 

 

 

กะเหรี่ยง 'บิลลี่'  ทีเด็ดที่ 'กระดูก'

             มึนอ บอกความรู้สึกของเธอวันนั้นว่าดีใจและพอใจการทำงานของดีเอสไอ ทำให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมยังมีอยู่จริง เมื่อคดีเดินเข้ามาถึงจุดนี้ก็ไม่มีใครมาข่มขู่คุกคาม และได้รับการดูแลจากกระทรวงยุติธรรมเป็นอย่างดี

 

             ปัจจุบันอดีตหัวหน้าชัยวัฒน์ย้ายไปประจำสำนักงานทรัพยากรจังหวัดปัตตานี (ทสจ.ปัตตานี) ช่วงที่ดีเอสไอยื่นขอให้ศาลพิจารณาถอนประกันตัวเขา แต่ จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่าเป็นการย้ายข้าราชการระดับ 9 ตามวาระปกติ เนื่องจาก ทสจ.ปัตตานี คนเดิม ย้ายไปเป็น ทสจ.ยะลา  ไม่เกี่ยวกับคดี

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ