สังเวย ศพแรก ขับ จยย.ตกคลองข้างทางลึก 3 เมตร

จังหวัดศรีสะเกษ เฝ้าระวังอันตรายอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ลุง 52 ปี ขับรถจักรยานยนต์ตกลงไปในคลองข้างทาง ที่ลึกราว 3 เมตร เสียชีวิตคาที่ กู้ภัยต้องผูกเชือกผูกเอวลงไปมัดศพ ลำเลียงขึ้นมา นำส่งญาติกลางดึก

คืนวันที่ 27 ธันวาคม 2562 เวลา 20.45 น. ร้อยตำรวจเอก ยุทธิศักดิ์ ไชยบรรณ ร้อยเวรสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ รับแจ้งจากกู้ภัยมูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ จุดอำเภออุทุมพรพิสัย ว่ามีคนพบรถจักรยานยนต์วิ่งตกลงไปในคลองข้างทาง ลึกราว 3 เมตรเศษ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนที่จะเร่งเดินทางไปยังที่จุดรับแจ้งเกิดเหตุ ที่ ถนนสายอุทุมพรพิสัย - ปรางค์กู่ เลยสามแยกปากทางเข้าวัดป่าศรีมงคลรัตนาราม ตำบลโคกจาน เลยเทศบาลตำบลโคกจานไป ราว 500 เมตร ทางฝั่งซ้ายมือของถนน ซึ่งบริเวณดังกล่าว ถนนจะสูงมาก เพราะเดิมเป็นหนองน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ อยู่ข้างลำห้วยวะ เมื่อเดินทางไปถึง ส่องไฟสว่างลงไปยังข้างทาง พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำแดง หมายเลขทะเบียน กพง 662 ศรีสะเกษ ซุกเข้าไปในป่าละเมาะ กิ่งไม้หักเป็นทาง จากรอยรถที่วิ่งตกลงไป ข้างๆ พบศพชาย ทราบชื่อ นายใบ สมนึก อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ที่ 8 ตำบลโคกจาน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ นอนเสียชีวิตคว้ำหน้า

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงไปตรวจสอบสภาพศพ พบว่าศรีษะแตก หนังศรีษะ เปิดออก ขามีแผลสงสัยจากการที่ตกลงมาในคลองข้างถนนดังกล่าว เลือดไหลนอง เสียชีวิตแล้ว จากการตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ และผู้ที่พบเห็นช่วงแรก ทราบว่า นายใบ ขับรถออกจากมาจากเทศบาลตำบลโคกจาน เพื่อที่จะกลับบ้าน แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ขับรถจักรยานยนต์เสียหลัก แหกทางตกลงไปลำคลองขนาดลึก 3 เมตร ขณะที่ข้างทาง มีการลาดปูนซิเมนเอาไว้เพื่อป้องกันการพังทลายของขอบริมถนน ที่มีการถมถนนขึ้นมาสูงเพื่อหนีน้ำท่วม เมื่อหลายปีก่อนและบริเวณดังกล่าวมืดมาก ไม่มีไฟส่องสว่างบนถนน สภาพรถจักรยานยนต์ก็เก่า ไฟส่องหน้ารถอาจจะไม่ค่อยสว่าง จึงอาจทำให้นายใบ มองไม่เห็นทาง จึงได้ขับตกลงไปในคลองเช่นนี้ และเสียชีวิตดังกล่าว  

เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ จุดอำเภออุทุมพรพิสัย นำร่างนายใบ นำส่ง รพ.อุทุมพรพิสัย เพื่อตรวจสอบพิสูจน์อีกครั้ง ก่อนที่จะส่งมอบญาติ เพราะไม่ติดใจในการเสียชีวิต เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ และนับว่าเป็นศพแรกของการเฝ้าระวังอุบัติเหตุของจังหวัดศรีสะเกษ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ วันนี้วันแรก

ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ