ข่าว

อนาคตใหม่เดินหน้ารับฟังปัญหาที่ดิน 20 จังหวัดอีสาน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พรรคอนาคตใหม่ จัดเวทีรับฟังข้อเสนอเชิงนโยบายที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าจัดเวที 20 จังหวัดภาคอีสาน

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2562 เวลา 13.30 น.  ที่วัดป่าสระแก้ว ต.กุดเชียงหมี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร พรรคอนาคตใหม่ ยโสธร จัดเวทีรับฟัง ข้อเสนอเชิงนโยบายที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยบรรยากาศในช่วงเช้ามีประชาชนทยอยเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะมีการเปิดเวทีให้พูดถึงปัญหาของแต่ละพื้นที่ อาทิ ปัญหาถูกขับไล่จากที่ดินทำกินที่อยู่มาเนิ่นนานจากนโยบายทวงคืนผืนป่า, ปัญหาผลกระทบจากการทำเหมืองแร่, ปัญหาผลกระทบจากการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล เป็นต้น โดยเวทีดังกล่าว เป็นการรวมตัวของประชาชน 20 จังหวัดภาคอีสาน รวมแล้วกว่า 2,000 คน เข้าร่วม         

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวทีดังกล่าว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะรองประธาน รวมถึง ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ในพื้นที่ภาคอีสานร่วมพบปะประชาชน อาทิ นายคารม พลพรกลาง, นายองค์การ ชัยบุตร, นายสำลี รักสุทธี, นายทวีศักดิ์ ทักษิณ, นายสุรวาท ทองบุ โดยทั้งหมดเดินทางมาร่วมฟังปัญหาและรับหนังสือร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนด้วยกัน

อนาคตใหม่เดินหน้ารับฟังปัญหาที่ดิน 20 จังหวัดอีสาน

นายพิธา กล่าวว่าในอดีตที่ผ่านมามีนโยบายท้วงคืนผืนป่าของรัฐบาลที่ทำให้เกิดความเดือนร้อนของประชาชนทั่วประเทศโดยเฉพาะพี่น้องทางภาคอีสาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องป่าสงวน เรื่องอุทยานและที่สาสาธารณะประโยชน์ ตั้งแต่ที่ตนเป็นประธานกรรมาธิการที่ดิน ฯได้รับเรื่องร้องเรียนมาเกือบ 1 ล้านไร่แล้ว ประเทศไทยมีแต่ความสองมาตรฐานและความอยุติธรรม วันนี้พวกตนและ ส.ส.ภาคอีสานพรรคอนาคตใหม่  จะได้มาท้วงความยุติธรรมคืนให้พี่น้องภาคอีสาน คืนความยุติธรรมในเรื่องของที่ดินให้กับเครือข่ายปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน ,คืนความยุติธรรมให้กับเครือข่ายเหมือง,คืนความยุติธรรมจากนโยบายไบโอฮับจากเรื่องของน้ำตาล

 

นายธนาธร กล่าวว่า ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องที่ดินที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนเผชิญอยู่ จะไม่สามารถแก้ไขได้เลยถ้าเรายังอยู่ในรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย กับนายกรัฐมนตรีที่่ไม่ศรัทธาการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ นโยบายทวงคืนผืนป่า การใช้มาตรการรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดำเนินคดี ขับไล่ รื้อถอน ตัดโค่นพืชผลเกษตรของพี่น้องนั้น เกิดขึ้นในยุคสมัยที่เราไม่มีตัวแทนประชาชน เพราะถ้ามี ประชาชนจะออกมาบอก ส.ส.เพื่อให้นำไปตั้งกระทู้ถาม หรือยื่นญัตติได้ เพราะ ส.ส.มาจากประชาชน พวกเขาย่อมต้องฟังเสียงประชาชน ด้วยการหาทางแก้ไขให้ปัญหาทุเลาเบาจากลง แต่รัฐบาลชุดนี้เขาไม่ได้มีฐานที่มาอย่างนั้น เพราะฐานค้ำยันของเขาคือ ส.ว. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มาจากการแจกกล้วย มาจากซื้องูเห่า เขาต้องเอาใจสิ่งหล่านี้โดยที่ไม่เห็นหัวประชาชน    ฐานอำนาจเดียวของนักการเมือง ความชอบธรรมเดียวของนักการเมืองที่มีคือ เสียงของประชาชน ดังนั้น ในเบื้องต้น กมธ.สามัญจะทำหน้าที่ศึกษาและทำข้อเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยาผลกระทบ ส่วนระยะกลาง และระยะยาว เราจะจัดการทรัพยากรธรรมชาติได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์ คืนอำนาจให้ประชาชน ให้มีสิทธิออกแบบ กำหนดอนาคตตัวเองได้ ซึ่งต้องทำจากท้องถิ่น ตรงไหนจะปลูกพืชอะไร ใช้น้ำอย่างไร ใช้ไฟอย่างไร ขนส่งมวลชนทำอย่างไร คนกรุงเทพฯไม่เกี่ยว นี่คือการยุติรัฐรวมศูนย์ นี่คือความฝันของเราในการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ"

แต่อย่างไรก็ตาม เดินต่อไปข้างหน้าอีก เรามีข้อเสนอการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง 3 เรื่อง ซึ่งต้องทำให้ได้ นั่นคือ 1.พาประเทศไทยกลับเป็นประชาธิปไตย แก้รัฐธรรมนูญให้มีที่มาจากประชาชน 2.ปฏิรูปกองทัพ ให้กองทัพอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทำงานรับใช้ประชาชน  และ 3.ยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์ คืนอำนาจให้กับท้องถิ่นจัดการตนเอง แต่จะเกิด 3 ข้อนี้ได้ อย่างแรกสุดที่ต้องทำคือ ไล่รัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ซึ่งในเดือนหน้าจะมีกิจกรรมใหญ่นั่นคือ วิ่งไล่ลุง ให้พ่อแม่พี่น้องเตรียมตัวไว้ เพื่อที่จะออกมาวิ่งพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อบอกว่าพอกันทีกับอำนาจอยุติธรรม บอกว่าเราจะไม่ถอยไม่ทนอีกแล้ว เอาอำนาจของเรากลับคืนมา

 

 

ในช่วงท้ายของกิจกรรม นายธนาธร นายพิธา และนายเลื่อน ศรีสุโพธิ์ ในฐานะตัวแทนภาคประชาชน 98 เครือข่ายได้ลงนามสัตยาบันร่วมกัน ในการผลักดักการแก้ปัญหาเรื่องที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เกิดขึ้น จากนั้น นายธนาธร นายพิธา และ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้พบปะกับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมสะท้อนปัญหาต่างๆ ทั้งนี้ ได้มีนายบอง ศรีบุตรตา อายุ 73 ปี และ นางบังอร ษรจันทร์ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่า ในพื้นที่ บ้านน้ำพุ อ.ด่านซ้าย จ.เลย เข้ามากอดและร้องไห้ เนื่องจากสวนยาง 20 ไร่ ของนายบอง ซึ่งลงทุนปลูกหมดเงินไปกว่า 1 แสนบาท ต้นยางมีอายุ 7-8 ปี สามารถกรีดน้ำยางได้ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ตัดทิ้งเกลี้ยง ปัจจุบันไม่มีที่ดินทำกินเหลือ ต้องประกอบอาชีพรับจ้าง ขณะที่นางบังอร บอกว่า ที่ทำกินราว 50 ไร่ ปลูกข้าวโพด ข้าวไร่ ถูกเจ้าหน้าที่ยึดและนำต้นไม้มาปลูกแทน จนวันนี้ไม่หลงเหลือที่ทำกินแล้วเช่นกัน

 

ภาพ/ข่าว   สมัย  คำแก้ว  ผู้สื่อข่าวยโสธร รายงาน

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ