ครูขอนแก่นคาใจ แบงก์ยื้อเอกสารเบิกถอนเงินหายจากบัญชี

        วันที่ 15 ธ.ค.2562 กรณีที่เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นหายจำนวนกว่า 431 ล้านบาท จากบัญชีเงินฝากประจำของสหกรณ์ สาขาถนนดินแดงที่กรุงเทพมหานคร จนทำให้มีการตรวจสอบ ขอหลักฐานเพื่อเอาผิดคนที่ยักยอกเงิน หลังจากที่เมื่อวานนี้(14 ธ.ค.) ดร.อนุศาสตร์  สอนศิลพงษ์ ประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ครูขอนแก่นและกรรมการไตรภาคี ได้เดินทางไปรับเอกสารรายการเบิกจ่ายเงิน บัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ประเภทเงินฝากประจำ เลขที่ 144-101918-9  ธนาคารพาณิชย์สาขาถนนดินแดง เทสโก้โลตัส ฟอร์จูน ทาวน์ กรุงเทพมหานคร ที่ส่งมาให้ทางธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโลตัสเอ็กซ์ตร้า ถนนมิตรภาพ อ.เมืองขอนแก่น เป็นผู้ส่งมอบให้ ซึ่งมีเพียงเอกสารรายการเบิกถอนวันที่ 16 ส.ค.2554 รายการเดียว จากที่ขอไปจำนวน 11รายการ โดยทางธนาคารแจ้งว่าจะทยอยส่งให้ภายหลัง

         ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้(15 ธ.ค.) คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ได้มีการประชุมเพื่อลงมติในการดำเนินการ เพื่อนำเอกสารฉบับจริงที่ได้มาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และดีเอสไอ ที่เคยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไปแล้ว หลังประชุม ดร.อนุศาสตร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ว่า สหกรณ์ยืนยันกับสมาชิกทุกท่านว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ไม่มีผลกระทบต่อสมาชิกและต่อการปันผลเฉลี่ยคืน ขอให้ไว้วางใจ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่ทราบกันอยู่แล้วนั้น ได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ขอให้สบายใจไม่ต้องกังวล จากนั้นก็รีบเดินออกไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

ด้าน ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในส่วนของตนในฐานะกรรมการไตรภาคี แม้ว่าทางธนาคารจะให้เอกสารมาแต่เพียงแค่ 1 รายการเท่านั้น จากที่ขอไปทั้งหมด 11 รายการ ทำให้เกิดข้อกังขาว่าทำไมจึงล่าช้า สมาชิกเกิดข้อสงสัยว่าทำไมจึงมีการยื้อ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะต้องมีการร้องเรียนให้มีการตรวจสอบธนาคาร โดยในวันอังคารที่ 17 ธ.ค.นี้ จะมีการประชุมเพื่อปรึกษาหารือกันระหว่างกรรมการไตรภาคี ตรวจสอบเอกสาร การตรวจสอบการตั้งทนาย เพื่อให้การดำเนินการโปร่งใสและรวดเร็ว

และเชื่อว่ามติของคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ จะรักษาผลประโยชน์ของสมาชิกทุกคน  และจากที่มีกระแสข่าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องจะนำเงินมาคืนนั้น ตนไม่ทราบจริงเท็จแค่ไหน แต่ถ้าได้เงินคืนจริงก็นับว่าเป็นเรื่องดี เพราะเป็นเงินของทุกคน ส่วนเรื่องคดีเชื่อว่าก็คงยังดำเนินต่อไปอย่างแน่นอน