เหยื่อนับนับร้อยลงทุนซื้อทอง กลับถูกเบี้ยว โร่แจ้งความ

 

 

         ตลอดทั้งวันนี้(11ธ.ค.2562)ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า  ที่สถานีตำรวจภูธรบ้านแท่น อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ได้มีกลุ่มชาวบ้านจากหลายอำเภอ ทั้งจังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดขอนแก่น ทยอยเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.กิตติพจน์ ผลจันทร์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.บ้านแท่น อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ  เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ หลังจากที่ผ่านมา ได้พากันนำเงินของตนเองไปลงทุนซื้อทองคำในราคาถูกกับผู้ที่ใช้เฟสบุ๊คว่า ปริญญาลูกแม่ค้า ซึ่งติดต่อกับกลุ่มผู้เสียหาย ให้ร่วมลงทุนซื้อทองคำผ่านเฟซบุ๊ก และแอพmessages โดยตกลงซื้อทองคำกันในราคาบาทละ 15,000-18,000 บาท โดยให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อ เจือจันทร์ นิลศรี  หลังจากนั้นจะนัดรับทองคำภายใน 7 วัน ในช่วงแรกๆ กลุ่มที่ร่วมลงทุนร่วม จะได้รับทองคำรูปพรรณตามนัดทุกครั้ง ชาวบ้านลูกค้าก็จะนำทองที่ได้ไปขายได้กำไรหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ซึ่งในระยะแรกชาวบ้านที่เชื่อจะได้กำไรงามจากการนำทองคำรูปพรรณไปขาย และมีการลงทุนเข้าไปซื้อทองคำรูปพรรณเพิ่มขึ้นอีกหลายรอบ แต่ต่อมาในระยะหลังชาวบ้านลูกค้าที่ร่วมลงทุน ไม่ได้รับทองคำตามที่ตกลงกันไว้แต่อย่างใด และเมื่อไปติดต่อขอรับเงินที่โอนไปซื้อทองคำคืน จะถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา และแจ้งว่าอยู่ระหว่างการจัดหาทองคำรูปพรรณส่งให้กับลูกค้าที่ร่วมลงทุน สุดท้ายกลับไม่ได้รับทองคำตามที่ตกลงไว้แต่อย่างใด ชาวบ้านที่ร่วมลงทุน ต้องสูญเงินไปคนละหลักหมื่นถึง 3 ล้านบาทต่อราย

 

 

 

 

ต่อมาหญิงสาวที่ตกเป็นผู้ต้องหาวัย 26ปี อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ได้เข้าพบกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านแท่น พร้อมกับทนายความ และแจ้งว่าตนมีอาชีพเป็นนักร้องหมอลำรับจ้างทั่วไป โดยได้สั่งซื้อทองคำรูปพรรณมาจากร้านจำหน่ายทองคำรูปพรรณแห่งหนึ่ง จากนั้นประกาศโฆษณาขายสินค้าดังกล่าวทางเฟซบุ๊กส่วนตัว จะขายทองคำน้ำหนักตั้งแต่ครึ่งสลึง ถึง 5บาท จนมีลูกค้าที่สนใจเข้าไปเป็นลูกทีมร่วมทำธุรกิจจำนวนหลายสิบราย ซึ่งในช่วงแรก ๆ สามารถบริหารจัดการซื้อขายทองคำได้ดี มีลูกค้าสนใจเข้าไปร่วมทำธุรกิจ และขยายเครือข่ายออกไปเรื่อยๆ จนเกิดการขาดสภาพคล่อง ทำให้ส่งทองคำรูปพรรณให้กับลูกค้าล่าช้ากว่ากำหนด แต่ไม่มีเจตนาที่จะฉ้อโกงลูกค้าแต่อย่างใด  และยืนยันว่าจะเร่งคืนเงินให้กับลูกค้าทั้งหมดโดยเร็ว และขอปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ต่อมาหญิงสาวที่ตกเป็นผู้ต้อง ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ถูกนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดภูเขียว

 

 

 

 

 

          ซึ่ง พนักงานสอบสวนบ้านแท่น ได้เปิดเผยที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ได้มีผู้เสียหายจากลงทุนร่วมซื้อทองมาแจ้งความแล้วกว่า สิบราย ในวันที่10ที่ผ่านมาได้มีผู้เสียหายจากหลายจังหวัดเพิ่มอีกกว่า 20 ราย ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนผู้เสียหายเพื่อรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ส่วนชาวบ้านคนอื่นๆที่ได้รับความเสียหายให้รีบเข้ามาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนได้ตลอดเวลาขณะที่ นางสาว อั๋น เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่สูญเงินไปกว่า 2 ล้าน 5 แสนบาท(2,500,000 บาท ) กล่าวว่าตนเองได้ไประดมทุนมาเพื่อซื้อทองคำจากนางเจือจันทร์ เพื่อนำไปขายต่อกับลูกค้า ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาได้รับทองคำตรงเวลาตามข้อตกลง แต่มาช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นมา กลับไม่ได้ทองคำตามข้อตกลง และเมื่อสอบถามไปก็จะโดนบ่ายเบี่ยงมาตลอด ซึ่งทราบว่ามีลูกค้าที่ร่วมลงทุนบางคนสูญเงินไปถึง 3 ล้านบาท และคาดว่ามูลค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า20ล้านบาทซึ่งเกรงว่าพวกตนและกลุ่มลูกค้าที่รวมลงทุนจะถูกโกง พวกตนจึงต้องรวมตัวพากันเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ ขอให้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับกลุ่มลูกค้าที่ร่วมลงทุนซื้อทองคำทั้งหมด

 

 

 

 

 

ภาพข่าว พรอนันต์ พันเชื้อ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชัยภูมิ