ตา-ยายสาวถูกปลิดชีพหมกรถจมคลอง เชื่อเสี่ยต้องมีส่วนรู้เห็น

  ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 47 ม.19 ต.เนินขาม อ.เนินขาม จ.ชัยนาท  ซึ่งเป็นบ้านของตาและยาย และเป็นบ้านเกิดของ น.ส.กลิ่นเกสร  ผู้เสียชีวิต   โดยพบกับ นายทอด วงษ์สิงห์ อายุ 78 ปี   นางมนพ วงษ์สิงห์ อายุ 77 ปี   คุณตาและคุณยายของ น.ส.กลิ่นเกสร  กำลังนั่งพูดคุยอยู่กับญาติๆ ถึงเรื่องดังกล่าว

             นายทอด และ นางมนพ   ตาและยาย  ที่ยังอยู่ในอาการเศร้าโศก   เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า  ก่อนที่หลานสาวจะหายตัวไป หลานสาวมักจะเดินทางมาเยี่ยมเยียนพวกตนที่ จ.ชัยนาท เป็นประจำเกือบทุกเดือน บางครั้งก็มาพร้อมกับเสี่ย   ซึ่งพวกตนก็รับรู้ว่าทั้งคู่ ได้คบหากันเป็นแฟนกัน  และหลานสาวเคยเล่าให้ฟังว่า  เสี่ยเป็นคนขี้หึง  และจะคอยติดตามหลานไปเกือบทุกที่  ถ้าไม่ได้ตามไปเอง ก็จะให้ลูกน้องคอยตามไปดู    แม้กระทั่งช่วงที่หลานพายายไปหาหมอที่โรงพยาบาล เสี่ยยังต้องส่งลูกน้องให้ตามไปคอยดู 

      นายทอด เล่าต่อว่า  จนกระทั่งหลานสาวหายตัวไป ตั้งแต่ปี 2559    เสี่ยก็ยังเดินทางมาหาพวกตนที่ชัยนาท  3-4 ครั้ง นำอาหารแห้งและน้ำดื่มจำนวนมาก มามอบให้     ซึ่งครั้งล่าสุดได้มาหาพวกตน เมื่อช่วงต้นปี 2562 ที่ผ่านมา  โดยตนได้ถามไปตรงๆว่า  “เสี่ยถามตรงๆเถอะ เสี่ยฆ่ามันหรือเปล่า ถ้าเสี่ยฆ่า มันก็ตาย ถ้าเสี่ยไม่ฆ่า มันก็ไม่ตายหรอก สักวันมันต้องมาให้เราเห็น ถ้ามันตายไปศพก็ไม่เห็น เหมือนผีไม่มีญาติ”  พอพูดประโยคนี้ออกไป  เสี่ยก็ปฏิเสธ  บอกว่าจะไปฆ่ามันทำไม   จากนั้นก็รีบเดินทางกลับออกไป และไม่มาหาอีกเลย  แต่ยังให้ลูกน้อง นำอาหารแห้งและน้ำดื่มมามอบให้

ด้าน นางมนพ  บอกว่า ช่วงที่เสี่ยมาหา หลังจากที่หลานหายตัวไป เคยถามกับเสี่ยไปว่ารู้ข่าวคราวหลานหรือไม่ แต่เสี่ยก็บอกว่าไม่รู้  ตนยังเคยพูดไปกับเสี่ย ด้วยความโมโหว่า  “ถ้าเสี่ยไม่ทำอะไรเค้าคงไม่ตาย เอาแมคโครขุดถมไปแล้วมั้ง”  แต่เสี่ยก็ปฏิเสธ บอกว่าจะทำไปทำไม ทำแล้วได้อะไรขึ้นมา

               ทั้งนี้ ตาและยาย ของ น.ส.กลิ่นเกสร   ยังคงเชื่อว่า เสี่ยต้องมีส่วนรู้เห็นกับการหายตัวไปและการเสียชีวิตของหลานสาวแน่นนอน  เพราะเสี่ยเป็นคนโทรศัพท์ตามให้หลานสาวไปพบที่โรงงานกลางดึก  ก่อนที่หลานจะหายตัวไป  อย่างไรก็ตาม ตาและยาย ไม่ได้คิดโกรธแค้น คนที่ทำให้หลานสาวของตนต้องตาย บอกถือว่าเป็นเวรกรรม  และถึงแม้จิตใจจะเป็นทุกข์ ในช่วงที่หลานสาวหายตัวไป  แต่เมื่อพบศพแล้ว ก็รู้สึกโล่งอก ที่อย่างน้อยก็พบศพหลาน   หลานไม่ต้องกลายเป็นศพไม่มีญาติ    โดยจากนี้ไปหากตำรวจมอบศพหลานสาวกลับคืนมา  ก็จะนำกลับไป ตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่บ้านในอำเภอเนินขาม  ก่อนจะนำไปทำพิธีฌาปนกิจที่วัดวังคอไห ต่อไป   ส่วนเรื่องการสืบหาตัวคนร้ายที่ฆ่าหลานสาว  ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  

ข่าว/ภาพ  ชฎารัฐ จันทร์พาหิรกิจ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชัยนาท