พ่อร่ำไห้ ลูกขโมยกระบือหวังใช้หนี้นอกระบบ

 

 

               วันที่ 29 พ.ย.29 ร.ต.อ.จิรโรจน์ มงคลธนสุพัฒน์ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.นางรอง อ.นางรอง นำตัวนายสมศักดิ์ หรือเปี๊ยก เกิดเกตุ อายุ 53 ปี อยู่เลขที่ 69 หมู่ 10 ต.หนองโสน อ.นางรอง ไปสอบปากคำ

 

               หลังจากก่อเหตุลักควายเพศเมียอายุ 7 ปี ของนายสมาน ทาเงิน อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.หนองโสน ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกัน แล้วจูงไปหวังเอาไปขาย ก่อนจะถูกจับได้ ในพื้นที่ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ห่างจากที่เกิดเหตุไกลกว่า 20 กม. เหตุเกิดเมื่อเวลา 10.00 น.(28 พ.ย.)จนกระทั่งถูกจับได้ในเวลา 20.00 น.วันเดียวกัน

 

               โดยนายเปี๊ยก คนลักควาย สารภาพกับตำรวจว่า ตนเป็นคนไปขโมยควายจริง โดยวันเกิดเหตุตนได้ไปดูลาดเลาหลายครั้ง และรู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี เพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน

 

 

 

               หลังจากขโมยควายที่ล่ามไว้กลางทุ่งนาในหมู่บ้าน ตนก็จูงควายลัดเลาะไปเรื่อยๆแบบไม่มีจุดหมาย เป้าหมายคือต้องการเอาไปขาย หากมีคนมาถามซื้อหรือเจอรถบรรทุกควายก็จะถามขายให้

 

               ส่วนสาเหตุที่ขโมยเพราะอยากหาเงินไปใช้หนี้นอกระบบที่เอามาใช้จ่ายภายในครอบครัว โดยได้กู้เงินมาทั้งหมด 4 เจ้า ๆละ 6,000 บาทรวมยอดหนี้ 24,000 บาท และต้องจ่ายรายวันเจ้าละ 300 บาทรวมแต่ละวันต้องจ่ายถึงวันละ 1,200 บาท จนถึงทางตันไม่มีเงินมาจ่าย ตนยอมรับไม่มีทางออก จึงต้องขโมยควายเพื่อหวังจะเอาไปขาย แต่ก็มาถูกจับก่อน

 

 

 

 

               นายสมจิตร เกิดเกตุ อายุ 90 ปี พ่อของนายเปี๊ยก คนขโมยควาย หลังทราบข่าวถึงกับน้ำตาไหล ไม่คิดว่าลูกชายจะทำแบบนี้ ทั้งที่เคยสอนมาตลอดว่าให้เป็นคนดี ที่ผ่านมาเห็นคนมาเก็บเงินทุกวัน แต่ไม่รู้ว่ากู้ไปทำอะไร

 

               นายสมจิตร ยังบอกด้วยว่า ยอมรับว่าเสียใจกับการกระทำของลูกชาย โดยหลังจากนี้จะต้องอยู่ต้องอยู่คนเดียวให้ได้ มีกินบ้านไม่มีบ้างก็ต้องยอมรับความเป็นจริง

 

               ด้านนายสมาน ทาเงิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 และเป็นเจ้าของควายที่หายไป บอกว่า ตอนแรกคิดว่าควายหลงฝูง พยายามออกตามหาแต่ก็ไม่เจอจึงมีการแจ้งไปยังชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จนมีผู้ใหญ่บ้านจากตำบลอื่นบอกว่า พบควายสงสัยขโมยมา ตนเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นควายตัวเอง จนกระทั่งมารู้ว่าเป็นควายตัวเองและคิดไม่ถึงว่าจะเป็นลูกบ้านของตัวเองที่มาขโมย

 

 

 

ภาพ/ข่าว ธีรยุทธ ชำนาญกอง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์ รายงาน