อลงกรณ์ควงแขนกันตวรรณ ลุยหาทางออกพื้นที่เกาะทับซ้อน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับ นางกันตวรรณ ตันเถียร ประธานกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่เกาะยาว จ.พังงา เพื่อศึกษาดูงานเกี่ยวกับวิถีและความเป็นอยู่ของชาวประมง รวมทั้งประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับปัญหาด้านการประมงกับกลุ่มอวนล้อมปลากะตักกลางวัน และปัญหาของพี่น้องชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจาก พรก.ประมง2558 และ เพิ่มเติม2560

เบื้องต้นพบว่า ประมงปลาฉิ้งฉ้าง หรือที่รู้จักกันในชื่อ เรืออวนล้อมจับปลากะตักกลางวัน ในพื้นที่ อ.เกาะยาว ประกอบกิจการในรูปแบบครอบครัว มีญาติพี่น้องร่วมกันออกเรือ มีการนำเครื่องต้มปลา อุปกรณ์ตากปลา ติดตั้งภายในเรือ เพื่อเพิ่มคุณภาพและมูลค่าของปลาฉิ้งฉ้างตากแห้ง ทำให้เรือประมงต้องมีขนาดเรือมากกว่า 10 ตันกรอส เมื่อมี พรก.ประมง2558 และเพิ่มเติม 2560   ทำให้เรือประมงกลุ่มดังกล่าว ซึ่งต้องใช้อวนล้อมเป็นเครื่องมือ ต้องเปลี่ยนจากประมงพื้นบ้านเป็นประมงพาณิชย์ ซึ่งต้องออกไปหาปลาฉิ้งฉ้างห่างจากเกาะ 1.5 ไมล์ทะเล แต่เนื่องด้วย อ.เกาะยาว เป็นพื้นที่ ที่มีเกาะแก่งเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนทั้งหมดจนประมงพาณิชย์แทบไม่เหลือที่ทำกิน หลายรายต้องเลิกอาชีพ หลายรายอยู่ในระหว่างการสู้คดี โดนฟ้องร้องสูงถึง 2 ล้านบาท

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร กล่าวว่า การเข้ามารับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่การทำประมง ซึ่งเกาะยาว เป็นพื้นที่ ที่มีเกาะแก่งเป็นจำนวนมาก เมื่อห้ามประมงพาณิชย์เข้ามาในพื้นที่ประมงชายฝั่ง 1.5 ไมล์ทะเล จึงเป็นสาเหตุให้พื้นที่ทำกินลดลง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดโดยเฉพาะเรือประมงปลาฉิ้งฉ้าง นอกจากนั้นยังพบว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาของกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งจะต้องนำไปพิจารณาเพื่อหาทางออกโดยไม่กระทบกับส่วนอื่น ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประมงพื้นบ้าน และเพื่อให้ทุกคนมีอาชีพ มีรายได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่ที่สุดของกรมประมง ภายใต้กรอบของกฏิกา   

ภาพ/ข่าว วรรณศิริ โพธิพันธ์ รายงานจากจังหวัดพังงา