รวบบังมาด ป่าพายุ ขโมยคนดังเมืองคอน

 วันนี้ (27 พ.ย.62)  ร.ต.อ.​ ยงยุทธ​ จริงบำรุง หัวหน้าชุดสายตรวจตำบลนาเหรง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช  เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจาก  พ.ต.ท.ปรัชญา จันทร์สมวงศ์ รอง ผกก.สส.รักษาราชการ ผกก.สภ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมตร.ฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวนทุกชุด เฝ้าจับตาโจรลักเล็กขโมยน้อยที่อาละวาดก่อเหตุในพื้นที่ อ.นบพิตำ หลังก่อเหตุต่อเนื่องนานนับเดือน ขโมยทรัพย์สินทุกอย่างที่มีค่าไม่เว้นลูกสะตอและผลไม้อื่น ๆ จนมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนหลายราย  แม้ตำรวจจะระดมกำลังสืบสวนหาเบาะแสคนร้ายมาตลอดแต่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้

ทางผู้บังคับบัญชาเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนจากต่างพื้นที่ จึงให้นโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเน้นการหาข่าวและจับตากลุ่มบุลคลต่างๆที่เข้ามาทำงานในพื้นที่โดยเฉพาะคนแปลกหน้าในพื้นที่ทุกๆ ตำบลของ อ.นบพิตำ   จนกระทั้งได้เบาะแสว่าผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายน่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ตำบลนาเหรง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช โดยบุลคลแปลกหน้าคนดังกล่าวจะทำตัวแปลก ๆ เช่น ในตอนกลางวันจะชอบเดินในป่า ในขณะที่กลางคืนจะออกจากป่ามาขับรถ จยย. วนไปวนมามีพิรุธน่าสงสัย

ทาง ร.ต.อ.ยงยุทธ​ จริงบำรุง​ พร้อมด้วยร.ต.อ.มโนชา ปานคง​ ด.ต.เกษม​ วรินทราช​ และ ด.ต. รักชัย​ ชัชวาลย์ พร้อมชุดสืบสวน สภ.นบพิตำ ออกติดตามชายต้องสงสัยคนดังกล่าวในพื้นที่ ต.นาเหรง ทุกตารางนิ้ว ได้มีพลเมืองดีแจ้งว่าชายต้องสงสัยรายดังกล่าวหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าพื้นที่บ้านควนหรอ ตำบลนาเหรง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช  จึงกระจายกำลังออกหาตัว จนพบและควบคุมตัวมาสอบสวนทราบชื่อนายสามารถ หมิดหวัง หรือ “บังมาด ป่าพายุ”อายุ 43 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 8 ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ให้การวกไปวนมา

เจ้าหน้าที่เค้นสอบสวนอย่างหนักจนในที่สุดให้การรับสารภาพภาพว่า ตนเองคือคนร้ายที่อาละวาดก่อเหตุโจรกรรมทรัพย์สินของชาวบ้านใน อ.นบพิตำ อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ทั้งงัดแงะขึ้นไปโจรกรรมทรัพย์สินตามบ้านเรือน หรือแม้แต่ขโมยขึ้นเก็บสะตอและผลไม้ในสวนของชาวบ้าน โดยจะนำทรัพย์สินไปซ่อนไว้ ที่ในป่าริมกำแพงบ้านร้างไม่ไกลมากนัก

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปตรวจสอบจุดที่ซ่อนทรัพย์สินพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีเขียว 125 i  หมายเลขทะเบียน คกว.505 นครศรีธรรมราช ซ่อนอยู่ในพงหญ้าและมีผ้าเต้นท์คลุมรถจักรยานยนต์เอาไว้เพื่อไม่ให้โดนฝน ซึ่งผู้ต้องหารับว่าเป็นของตนเอง นอกจากนี้ยังพบโทรทัศน์ 1 เครื่อง พระเครื่องอีกหลายสิบองค์ รวมทั้งทรัพย์สินอื่นอีกหลายรายการ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่านายสามารถหรือ “บังมาด ป่าพายุ” ไม่ได้ก่อเพียงคนเดียวแต่น่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุด้วย 1-2 คน แต่นายสามารถยืนยันว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านในท้อที่ ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ อ.นบพิตำต่อเนื่องหลายสิบคดี จนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนสืบสวนขยายผลต่อไป จากนั้นจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งมอบ  ร.ต.อ.สุรศักดิ์​ อร่ามเรือง รอง สว.(สอบสวน) สภ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ภาพ/ชุดจับกุม สภ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช

ยุทธนะ  เตมะศิริ นครศรีธรรมราช