ข่าว

ชาวนาระทมเจอภัยแล้งข้าวขาดน้ำต้องซื้อน้ำใส่นาข้าว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชาวนาระทมเจอภัยแล้งข้าวขาดน้ำต้องซื้อน้ำใส่นาข้าว

 

 

                ที่ จ.สุพรรณบุรี พื้นที่ หมู่ 1-2-3-4-5-6 และหมู่ 8 ตำบลหนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี จำนวนกว่า 6,000 ไร่ ข้าวกำลังออกรวงใกล้ที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ แต่ขณะนี้ต้นข้าวเริ่มขาดน้ำเริ่มยืนต้นตาย

 

                ซึ่งที่ผ่านมาชาวนาทราบดีว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประกาศว่าในฤดูกาลทำนาปีนี้ น้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้อย ไม่มีน้ำเข้าคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง ให้เกษตรกรได้สูบใส่นาข้าว จึงขอร้องให้ชาวนาหยุดทำนาปี

 

                แต่ช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาชาวนาเห็นว่ามีฝนตกลงมีมากพอประมาณ ชาวนาหลายรายหวังว่าจะมีน้ำพอทำนาฤดูกาลนาปีนี้ จึงได้ลงทุนทำนาข้าวไปจำนวนมาก แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างคิดขณะนี้ชาวนาประสบปัญหาภัยแล้งเนื่องจากปีนี้ฤดูแล้งมาเร็วกว่าทุกปี นาข้าวจึงได้รับผลกระทบ

 

                เนื่องจากนาข้าวส่วนใหญ่ที่ชาวนาได้เพาะปลูกเอาไว้กำลังออกรวง ชาวนาจึงได้รับความเดือดร้อนหนัก เนื่องจากได้ลงทุนทำนาไปแล้ว มีทั้งค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันรถไถนา ค่าพันธุ์ข้าวปลูก ค่าปุ๋ยค่ายา ประมาณไร่ละ  3,000 – 4,000 บาทและนอกจากนี้ยังมีค่าเช่านาอีก

 

                เกษตรกรมีอาชีพทำนาทำไร่ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ไม่ให้ทำนาทำไร่ก็ไม่รู้จะไปทำอะไรกิน อย่างไรก็ตามชาวนาส่วนใหญ่ก็ขอสู้  แต่น้ำในคลองไม่มีให้สูบจึงจำเป็นต้องซื้อน้ำมาใส่นาข้าว ที่กำลังขาดน้ำเพื่อช่วยเหลือตัวเองก่อนเนื่องจากยังมีความหวังว่าข้าวที่กำลังออกรวงใกล้จะเก็บเกี่ยวจะได้ผลผลิตแต่ยังขาดน้ำอยู่

 

                เมื่อลงทนซื้อน้ำมาใส่แล้วจะได้เก็บเกี่ยวขายข้าวนำเงินมาใช้จ่ายในครอบคัว ใช้หนี้ค่าปุ๋ยค่ายาได้บ้าง ถึงแม้จะต้องขาดทุนแต่ก็ยังดีกว่าที่จะปล่อยให้ต้นข้าวที่กำลังออกรวงเหี่ยวแห้งตายไปต่อหน้าต่อตา ทุนที่ลงไปก็จะเสียหายทั้งหมด ชาวนาพื้นที่ ต.หนองผักนาก อ.สามชุก

 

                จึงต้องซื้อน้ำจากรถบรรทุกน้ำราคา คันรถละ 800-1,000 บาท นำมาใส่นาข้าวเพื่อเป็นการช่วยเหลือตัวเองไปก่อนที่น้ำจากคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง จะมาเนื่องจากนาข้าวที่กำลังออกรวงไม่สามารถรอน้ำจากคลองได้ ไม่ทราบว่าน้ำจะมาช่วงวันเวลาไหนแน่ 

 

ชาวนาระทมเจอภัยแล้งข้าวขาดน้ำต้องซื้อน้ำใส่นาข้าว

 

ชาวนาระทมเจอภัยแล้งข้าวขาดน้ำต้องซื้อน้ำใส่นาข้าว

 

ชาวนาระทมเจอภัยแล้งข้าวขาดน้ำต้องซื้อน้ำใส่นาข้าว

 

                ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ อส.อ.สามชุก รายหนึ่งลงคอมเม้นต์ในข่าว เรื่องที่ชาวนาซื้อน้ำใส่นาข้าวว่า ทางการประกาศไม่ให้ทำนาแล้ว ชาวนายังดื้อทำนาอีก แล้วชาวนาจะมาโอดครวญทำไม และ อส.รายนี้ยังได้คอมเม้นต์ต่อว่านักข่าวว่า ที่ไปทำข่าวว่าไปเสี้ยมชาวนา เพื่อจะขายข่าว ต่อว่านักข่าว ว่านักข่าวใช้ไม่ได้

 

                จนกระทั่งชาวนาทราบเรื่องว่าถูก อส.รายนี้คอมเม้นต์ในข่าวต่อว่าชาวนา ส่งผลกระทบกับชาวนา และสร้างความสะเทือนใจกับชาวนา จึงไม่พอใจถึงการกระทำของ อส.รายนี้ ซึ่งชาวนากำลังเดือดร้อน และนักข่าวมานำเสนอข่าว

 

                ว่ากว่าชาวนาจะปลูกข้าวได้แต่ละเมล็ดมันยากลำบากเพียงไหน แล้วยังมาถูก อส.รายนี้คอมเม้นต์ต่อว่าอย่างเสียๆ หาย ๆ อีก ไม่ได้ช่วยแล้วยังมาด่ากันอีก ไม่สมกับเป็นเจ้าหน้าที่ของฝ่ายปกครองเลย ซึ่งที่ผ่านมาชาวนาก็ไม่ได้เรียกร้องให้ใครมาช่วยเหลือ และเมื่อนาข้าวขาดน้ำ

 

                ชาวนาก็หาเงินซื้อน้ำใส่นาข้าวเอง ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แล้วยังจะมาถูกเจ้าหน้าที่ อส.รายนี้มาคอมเม้นต์ต่อว่าทั้งชาวนาและนักข่าวทำไม เนื่องจากการกระทำของ อส.รายนี้ส่งผลกระทบกับจิตใจของชาวนาเป็นอย่างมาก สงสัยว่าต้นตระกูลคงจะไม่เคยทำนาจึงออกมาแสดงความคิดเห็นต่อว่าชาวนาและนักข่าวแบบนี้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ อส.อ.สามชุก รายนี้ออกมาขอโทษชาวนาและนักข่าวด้วย

 

                ขณะที่นายมงคล เที่ยงธรรม อายุ 50 ปี ชาวนาหมู่ 3  ต.หนองผักนาก อ.สามชุก เปิดเผยว่าได้ทำนาฤดูกาลนี้จำนวน 12 ไร่ ลงทุนไปแล้วกว่า 20,000 บาท ต้นข้าวอายุ 50 วัน ปีนี้หน้าแล้งมาเร็ว

 

                ส่งผลให้นาข้าวขาดน้ำประกอบกับน้ำคลองไม่มีและไม่มีทุนที่จะไปซื้อน้ำมาใส่นาข้าวจำเป็นต้องปล่อยทิ้งให้ข้าวเหี่ยวแห้งเสียหายทั้ง12ไร่ดีกว่าจะเสี่ยงลงทุนเพิ่มจะเสียหายมากกว่าเดิม สำหรับนาข้าวบางรายก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก็โชคดีไป แต่ช่วงนี้ราคาข้าวเพียงแค่ ตันละ 6,300-7,000  บาทเท่านั้น

 

ชาวนาระทมเจอภัยแล้งข้าวขาดน้ำต้องซื้อน้ำใส่นาข้าว

 

ชาวนาระทมเจอภัยแล้งข้าวขาดน้ำต้องซื้อน้ำใส่นาข้าว

 

ชาวนาระทมเจอภัยแล้งข้าวขาดน้ำต้องซื้อน้ำใส่นาข้าว

 

                ด้านนายยศดนัย น้อยแก้ว ผอ.โครงการชลประทานจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าขณะนี้ปริมาณน้ำเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำเข้าแม่น้ำท่าจีน 25  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อใช้อุปโภคบริโภค

 

                และใช้กับพืชสวนประเภทไม้ยืนต้น และใช้รักษาระบบนิเวศ ปริมาณน้ำไม่พอนำไปใช้ทางการเกษตร เนื่องจากปริมาณน้ำปีนี้มีน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนชาวนาที่ใช้น้ำจากคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง ขณะนี้มีนาข้าวตั้งแต่ จ.ชัยนาท บางส่วน และพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จำนวน 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เดิมบางบางบวช อ.สามชุก อ.ดอนเจดีย์  อ.เมืองสุพรรณบุรี และ อ.อู่ทอง มีนาข้าวราว 2 แสนไร่ ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต

 

                ยังรอน้ำจากทางชลประทานปล่อยเข้าคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง แต่มีชาวนาหลายราย ที่ข้าวกำลังตั้งท้องและกำลังออกรวง ไม่สามารถรอน้ำคลองได้ จึงจำเป็นต้องหาทางช่วยเหลือตัวเองก่อนโดยการไปซื้อน้ำจากรถบรรทุกน้ำเที่ยวละประมาณ 800-1,000 บาท แล้วแต่ระยะทางใกล้ไกล เนื่องจากถ้ารอน้ำจากคลองนาข้าวอาจจะเสียหายทั้งแปลงและจะไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตชาวนาก็จะขาดทุนทั้งหมด     

 

                ล่าสุดทางชลประทานจังหวัดสุพรรณบุรีได้ประสานกับกรมชลประทานแล้ว เพื่อจะขอให้ เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปล่อยน้ำมาช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ส่วนน้ำจากแม่น้ำท่าจีน ช่วงหลังประตูน้ำโพธิ์พระยา อ.เมืองสุพรรณบุรี ระบายน้ำจำนวน 5 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

 

                เพื่อใช้อุปโภคบริโภค และระบบนิเวศ อย่างไรก็ตามต้องรอทางกรมชลประทาน ว่าจะอนุมัติให้ระบายน้ำมาช่วยเกษตรกรวันเวลาไหนและปริมาณเท่าไร สำหรับปริมาณน้ำในเขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง

 

                ขณะนี้มีปริมาณน้ำจำนวน 63 ล้านลูกบาศก์เมตร จำนวน 21 เปอร์เซ็นต์ สามารถใช้น้ำได้เพียงแค่ 23 ล้านลูกบาศก์เมตร จำนวน 8 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ซึ่งขณะนี้เขื่อนกระเสียว ต้องปล่อยน้ำจำนวน 2 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อนำไปใช้อุปโภคบริโภคเท่านั้น   

 

ชาวนาระทมเจอภัยแล้งข้าวขาดน้ำต้องซื้อน้ำใส่นาข้าว

 

ชาวนาระทมเจอภัยแล้งข้าวขาดน้ำต้องซื้อน้ำใส่นาข้าว

 

ชาวนาระทมเจอภัยแล้งข้าวขาดน้ำต้องซื้อน้ำใส่นาข้าว

 

ภาพ/ข่าว ภัทรพล พรมพัก / มงคล สว่างศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุพรรณบุรี รายงาน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ