ชาวบ้านสงสัยพระออกบิณฑบาตรทั้งวัน รับแต่เงินทำบุญแต่ไม่รับอาหาร โทรแจ้งตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ ทราบภายหลังเป็นต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า มีพระสงฆ์แปลกหน้ากำลังเดินบิณฑบาต อยู่ในเขตพื้นที่ หมู่ 1 ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ มี บุคลิกลักษณะอาการท่าทางพิรุธไม่เหมือนกับพระสงฆ์ไทยทั่วไปคือ มีพฤติการณ์การขอรับเงินทำบุญแต่ไม่รับอาหารจากประชาชนคนไทยที่มีจิตศรัทธา
เจ้าหน้าที่ ตม.เพชรบูรณ์ นำโดย ร.ต.อ.ศักย์ศรณ์ ชัยธรรมาภรณ์ รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย ด.ต.ไพบูลย์ เผ่าอินทร์จันทร์ ผู้บังคับหมู่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปยังสถานที่ที่ได้รับแจ้ง เมื่อเดินทางไปถึงบ้าน น.ส.ยุพิน ทองสี กำนันตำบลนางั่ว กำนันได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า มีลูกบ้านแจ้งว่ามีพระสงฆ์แปลกหน้าจำนวน 2 รูป เข้ามาเดินบิณฑบาตรในพื้นที่โดยการขอรับเงินบาทไทยจากประชาชนผู้มีจิตศรัทธาแต่ไม่ขอรับอาหารใดๆ กำนันจึงเชิญตัวพระทั้ง 2 รูปดังกล่าวมายังที่ทำการ เจ้าหน้าที่ ตม.เพชรบูรณ์ จึงได้แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ และขอตรวจสอบเอกสารประจำตัว พระทั้ง 2 รูป ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า พวกตนเป็นคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา เดินทางหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ในเขตพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยไม่มีหนังสือเดินทาง ไม่มีบัตรผ่านแดน และไม่ผ่านการตรวจจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
หลังจากที่หลบหนีเดินทางเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดสระแก้วแล้วได้ขึ้นรถประจำทางมาลงที่ จ.นครราชสีมา และเดินขอรับเงินจากประชาชน ซึ่งในระหว่างทางก็จะแวะพักค้างแรมตามวัดไทยเรื่อยมา จนกระทั่งมาถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ การที่บุคคลทั้ง 2 ราย เดินทางหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่มีหนังสือเดินทาง และไม่ได้รับการตรวจอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจึงเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522
เจ้าหน้าที่ ตม.จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” เชิญตัวมายังที่ทำการ เพื่อนำตัวดำเนินการตามกฎหมายและผลักดันออกนอกราชอาณาจักรต่อไป
ภาพ/ข่าว ชัยวัฒน์ ปานนิล ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดเพชรบูรณ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง