เปิดวงจรปิด จับภาพโฉมหน้าไอ้หื่นบีบคอบังคับเด็กชายวัย12ปี อมนกเขา

 

 

                จากกรณีที่มีเด็กชายวัย 12 ปี ขี่รถจักรยานเล่นอยู่ในซอยหน้าบ้านพัก มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างมีน้ำหนักไม่สูงมาก ผิวคล้ำ สวมเสื้อกันหนาวสีเหลือง เดินเข้ามาบีบคอขู่บังคับเดินไปป่าละเมาะริมถนน ซ.ประชาราษฎร์ ชุมชนหนองตุ

 

                หลังวัดวิเวกบูรพาชัย ราว 20 เมตร และห่างจากบ้านพักราว 400 เมตร บีบคอบังคับล่วงละเมิดทางเพศ ด้วยการบังคับให้อมนกเขา แต่ไม่สำเร็จความใคร่ ก่อนปล่อยตัวเด็กออกมา เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา

 

                โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562  ความคืบการติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ หลังจากที่ยายของเด็กชายผู้ถูกกระทำ เข้าแจ้งความร้องทุกข์และให้ปากคำต่อตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี โดย พ.ต.ท.วงศกร วันชัย สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี

 

                ได้นำกำลังตำรวจสืบสวนลงพื้นที่กล้องวงจรบริเวณภายในซอย และขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการหอพัก แมนชั่น ที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ และบ้านพักของผู้เสียหาย  ทำการแกะรอยหาตำหนิรูปพรรณคนร้าย ที่มีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้

 

 

 

 

 

                โดยได้เข้าตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดที่หอพักแห่งหนึ่ง พร้อมผู้เสียหาย พบ นายเฉลิมชาติ ฉัตรธนะกุล อายุ 63 ปี ผู้ดูแลหอพัก  เปิดภาพกล้องวงจรปิด ที่จับภาพคนร้ายไว้ได้ โดยคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 20-25 ปี รูปร่างอ้วนเตี้ย สวมเสื้อกันหนาวสีเหลืองแขนสีเขียว

 

                กางเกงยีนส์ขายาว เดินในลักษณะอ้อนแอ้นคล้ายกระเทย จากปากซอย ใกล้กับบ้านพักผู้เสียหาย เวลา 16.09 น. ผ่านหน้าหอพักดังกล่าว ไปทางปากซอยข้างโรงเรียนบ้านหนองตุ ก่อนเดินกลับไปก่อเหตุผ่านหน้าหอพักเวลา 17.28 น. ซึ่งทันทีที่เด็กชายผู้ถูกกระทำเห็นภาพคนร้าย ได้ชี้ยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุกับตนเองจริง ซึ่งที่ลำคอของเด็กชายวัย 12ปี  ยังพบร่องรอยมือคนร้ายที่บีบคอบังคับขืนใจ

 

                นายเฉลิมชาติ เปิดเผยว่า หลังทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ประสานขอความร่วมมือดูภาพกล้องวงจรปิด โดยยังมีหอพักใกล้กับจุดเกิดเหตุหลายแห่งที่พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ เนื่องจากคนร้ายรายนี้ถือว่าเป็นบุคคลอันตรายมาก

 

                โชคดีที่คนร้ายไม่ทำอันตรายผู้เสียหายถึงชีวิต และหากเป็นเด็กผู้หญิงยิ่งไปกันใหญ่ ยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมาก อย่างไรก็ตามอยากให้ตำรวจจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะกลัวว่าคนร้ายจะไปก่อเหตุกับรายอื่นอีก

 

 

 

 

 

                พ.ต.ท.วงศกร วันชัย สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากลงพื้นที่สืบสวนหาหลักฐานและพยานในชุมชน ทางตำรวจได้หลักฐานมากพอสมควร โดยเฉพาะภาพจากล้องวงจรปิดที่ได้มาจากความร่วมมือเจ้าของหอพักหลายแห่ง รวมทั้งจากการสอบสวนชาวบ้าน

 

                เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายไม่ใช่คนในชุมชน เนื่องจากไม่มีใครรู้จัก หรือเคยเห็นหน้ามาก่อน พร้อมกับประสานงานตำรวจทุกหน่วยให้เพิ่มกำลังในการออกตรวจพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายก่อเหตุซ้ำ ฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลสอดส่องบุตรหลานให้ดี

 

                ในขณะที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้ ถือว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคมมาก และหากประชาชนเห็นภาพคนร้ายผ่านสื่อต่างๆ ให้รีบโทรแจ้งตำรวจทันที อย่างไรก็ตามในพยานหลักฐานที่ทางเรามีอยู่มากพอสมควร ขอยืนยันว่าอีกไม่นานคงจับตัวคนร้ายได้อย่างแน่นอน แต่ขอเวลาตำรวจในการทำงานบ้าง

นายฤษดา  จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว  ภูมิภาค จ.อุดรธานี