หนุ่มใหญ่ไร้หัว แม่โร่พาต่อชะตาหวังหมดเคราะห์ ก่อนเสียชีวิต

 

 

                 วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 เวลา 05.55 น. พ.ต.ต.ศิริชัย โพธิจักร สารวัตร สอบสวน สภ.ห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตที่บ้านเชียงยืน ต.เชียงยืน อ.เมืองอุดรธานี  จึงพร้อมด้วยแพทย์เวรจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน , มูลนิธิสว่างเมธาธรรมกู้ชีพ  และ อบต.เชียงยืน รุดไปตรวจสอบ 

 

                 ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ที่บริเวณชั้นล่างใต้ถุนบ้าน พบศพชายทราบชื่อคือนายพินิจ  สร้อยสะใบ อายุ45ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/1 ม.14 ต.เชียงยืน อ.เมืองอุดรธานี นอนเสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำหน้าไม่สวมเสื้อผ้า มีเลือดไหลนองเต็มบริเวณพื้น ใกล้กันมีกระจกตู้กับข้าวแตกมีคราบเลือด และเสื้อผ้าที่ผู้ตายใส่เมื่อคืนนี้อยู่ในกะละมัง  

 

 

 

  

 

                 จากการตรวจสอบ ไม่พบร่องรอยของการต่อสู้  ในที่เกิดเหตุ ที่แขนด้านซ้ายมีบาดแผลลึกขนาดใหญ่ ทางด้านเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจจะจะลื่นล้มไปชนกับกระจกตู้กับข้าว แล้วกระจกแตก ทำให้แขนโดนบาดเป็นแผล ถูกเส้นเลือดใหญ่ จึงทำให้เลือดออก จำนวนมาก แล้วเกิดการช็อกหมดสติจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต  

 

                 จากการสอบสวน นางหลั่น  มูลพิทักษ์ อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/1 ม.1 ต.เชียงยืนอ.เมืองอุดรธานี  แม่ของผู้ตาย  ให้การว่า ตนเองมีลูก 4 คน ผู้ชาย 2 คน และผู้หญิง 2 คน   โดยผู้ตายเป็นลูกคนโต ทำงานอยู่ที่การไฟฟ้าอุดรธานี ไม่ทราบแผนกอะไร  

 

                 ยังไม่มีครอบครัว ลูกชายเป็นที่รักของคนในครอบครัวและชาวบ้าน โดยเมื่อวานเป็นวันลอยกระทง ช่วงหัวค่ำลูกชายบอกว่าจะออกไปเที่ยวงานลอยกระทงในหมู่บ้าน  จากนั้นตนเองก็เข้านอน

 

                 จนกระทั่งเวลาเช้ามืดตนตื่นขึ้นมาเพื่อจะนึ่งข้าวเหนียว เพื่อจะไปทำบุญที่วัด ก็มองเห็นเหมือนอะไรอยู่ที่พื้น  ตอนแรกคิดว่าใครเอาหมูมาฆ่าในบ้าน เพราะมีเลือดไหลนองเต็มพื้นไปหมด  แต่พอดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นลูกชายตนเองนอนอยู่ที่พื้น

 

                 จึงร้องให้คนช่วย และในตอนแรกคิดว่ามีคนมาฆ่าลูกชาย   ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว ตนเองเคยเห็นลูกชายไม่มีหัว ยืนอยู่ในบ้าน ด้วยความกลัวว่าลูกชายจะเป็นอันตราย หรือเป็นอะไรไป จึงพาลูกไปวัดให้พระรดน้ำมนต์ และทำพิธีต่อดวงชะตา  แต่ก็ไม่คิดว่าลูกชายจะมาเสียชีวิตแบบนี้ นึกว่าหมดเคราะห์ไปแล้ว

 

 

 

 

                 นายนฤชา  ท้ามะลิ อายุ 27 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 348 ม.14 ต.เชียงยืน อ.เมืองอุดรธานี   ให้การว่า ตนเองเป็นหลานชายของผู้ตาย เมื่อต้นปี ตนมานอนที่บ้านน้าชาย เวลาประมาณ 03.00 น.ตนได้ลุกขึ้นมาเพื่อจะเข้าห้องน้ำเห็นน้าชายใส่ชุดสีขาวเดินไปมาในบ้าน แต่ไม่มีหัว

 

                 ซึ่งตนก็ไม่ได้เห็นคนเดียว แม่ของผู้ตายก็เห็นในลักษณะเหมือนกันกับตน  ด้วยความกลัวตนจึงรีบเข้าบ้าน หลังจากนั้นแม่ของผู้ตาย ก็ได้พาน้าชาย ไปวัดทำพิธีต่อดวงชะตาพร้อมกับให้พระรดน้ำมนต์ ด้วย  คิดว่าจะไม่มีอะไรแล้ว จนกระทั่งมารู้ว่าน้าชายมาเสียชีวิตดังกล่าว

 

                 พ.ต.ต.ศิริชัย โพธิจักร  เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่า ผู้ตายกลับมาจากลอยกระทง แล้วทำการถอดเสื่อผ้า จะอาบน้ำ  แต่ได้ลื่นล้มแล้วเสียหลักไปถูกตู้กับข้าวทำให้กระจกแตก แล้วทำให้แขนบาดเป็นแผลขนาดใหญ่ เลือดไหลไม่หยุด ทำให้หมดสติแล้วไม่มีใครเห็น 

 

                 โดยให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ฯ นำศพไปที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี  เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพ อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้งต่อไป

นายกฤษดา  จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว  ภูมิภาค  จ.อุดรธานี