ข่าว

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

 

               เมื่อเวลา 09.45 น.วันที่ 12 พ.ย. 2562 ร.ต.อ.มงคล ภูริวัฒนกุล รอง สวป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากนายสมบัติ สัตย์ชัย อายุ 54 ปี อส.ตร.เทวบุรี ว่ามีพระภิกษุเมายาเสพติดจนเพี้ยนเดินแก้ผ้าหน้ากุฏิ

 

               ใกล้กับเมรุฌาปนกิจศพ ภายในวัดแห่งหนึ่ง จึงพร้อมด้วยกำลังตำรวจสายตรวจรถยนต์ และสายตรวจ จยย.เดินทางไปตรวจสอบภายในวัด พบญาติโยมข้างวัดจำนวนหนึ่งยืนดูพระภิกษุรูปหนึ่งอยู่ในอาการเมายาเสพติดอย่างหนัก

 

               น้ำลายไหลเยิ้มตลอดเวลา เดินแก้ผ้าและพูดคนเดียวฟังไม่ได้ศัพท์อยู่หน้าระเบียงกุฏิ  จึงเข้าไปควบคุมตัวและนำกลับเข้าไปในกุฏิก่อนให้พระภิกษุในวัดช่วยกันห่มจีวรให้จนเรียบร้อย

 

               โดยภายในกุฏิพบอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ 1 ชุด ไฟแช็กอีกเกือบ 10 อัน ส่วนข้าวของภายในกุฏิกระจุยกระจายเกลื่อนบริเวณ จากนั้นจึงสอบถามรายละเอียดเบื้องต้นทราบชื่อพระอำนาจ สุจินโณ หรือนายอำนาจ สมพงศ์ อายุ 52 ปี

 

               ภูมิลำเนาที่ระบุในใบสุทธิอยู่หมู่ 7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ และเป็นพระลูกวัดดังกล่าว โดยพระอำนาจ ยินยอมที่จะสึกจากพระเป็นฆราวาส ซึ่งนายสมบัติ สัตย์ชัย อส.ตร. ผู้แจ้งเหตุได้นำเสื้อผ้าทั้งเสื้อและกางเกงชุดฆราวาสมาให้ 1 ชุด

 

               เพื่อให้พระอำนาจ หรือนายอำนาจ สวมใส่หลังสึกจากพระ เจ้าหน้าที่จึงนิมนต์พระอาจารย์อู๊ด พระลูกวัดอีกรูปหนึ่งมาทำพิธีสึกจากพระตามขั้นตอนของคณะสงฆ์ทันที

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

               นายอำนาจ สมพงศ์ เปิดเผยว่า ในอดีตตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดโรงพักแห่งหนึ่ง แต่ถูกไล่ออกจากราชการเนื่องจากติดยาเสพติดอย่างรุนแรง หลังจากนั้นครอบครัวได้ย้ายมาอยู่ ในท้องที่บ้านคนธง ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

 

               ก่อนจะตัดสินใจบวชเป็นพระภิกษุที่วัดแห่งหนึ่ง และพยายามเลิกเสพยาเสพติดจนสำเร็จ และพระผู้ใหญ่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ฝากให้มาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ได้ 2 พรรษา จนกระทั้งหลังออกพรรษาที่ผ่านมาได้มีนายแมน

 

               อดีตพระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งที่เพิ่งสึกจากพระไปเมื่อช่วงออกพรรษาที่ผ่านมาเข้ามาคลุกคลีตีสนิท และชักชวนให้เสพยาบ้า ยาไอซ์ จนตนตกเป็นทาศยาเสพติดอีกครั้งหนึ่ง และล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมานายแมน

 

               ได้นำยาไอซ์มาขายให้ประมาณ 2 จีแต่ตนไม่มีเงินแค่ 400 บาทไม่พอให้จ่ายค้ายาไอซ์ให้ค่ายาไอซ์ นายแมนจึงยึดโทรศัพท์มือถือของตนราคากว่า 5,000 บาทไป 1 เครื่องเป็นค่ายาไอซ์  หลังจากนั้นตนได้เสพยาไอซ์หมดทั้ง 2 จี

 

               จนทำให้ประสาทหลอนไม่สามารถควบคุมสติได้และมีอาการรุ่มร้อนอย่างหนัก จนไม่สามารถอยู่ในกุฏิได้จึงต้องตัดสินใจถอดสบง จีวรออกและเดินออกมารับลมหน้ากุฏิ จนญาติโยมที่มาช่วยพัฒนาวัดเห็น

 

               จึงแจ้งให้นายสมบติสัต์ชัย อส.ตร.เทวบุรี ทราบก่อนที่นายสมบัติจะโทรศพ์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและจับสึกดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวออกจากวัดไปดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

               นายสมบัติ สัตย์ชัย อส.ตร.เทวบุรี ซึ่งเป็นแกนนำพุทธศาสนิกชนในการรวมกันพัฒนาวัดที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าอาวาสมรณภาพทางคณะสงฆ์ได้แต่งตั้งพระราชวิสุทธิกวี เจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุติมารักษาการเจ้าอาวาส

 

               และได้นำพระภิกษุและชาวบ้านมาช่วยกันพัฒนาวัด โดยพยายามที่จะตรวจสอบจับสึกพระภิกษุที่มั่วสุมยาเสพติดไปได้หลาย สำหรับอดีตพระอำนาจ มาจำพรรษาที่สุด 2 พรรษาเป็นพระที่ไม่ค่อยพูดและปฏิบัติตนอยู่ในกรอบวินัยสงฆ์เป๋อย่างดี

 

               คาดว่าอดีตพระหนุ่มที่เพิ่งสึกออกไปในช่วงออกพรรษามี่ผ่านมา  ได้เข้ามาชักชวนและนำยาไอซ์มาให้เสพจนพระอำนาจ กลับมาติดยาเสพติดงอมแงมอีกครั้ง และเมาเพี้ยนเดินแก้ผ้าโทง ๆ ในวัดจนญาติโยมทนไม่ไหวแจ้งตนทราบ

 

               ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบจับสึกจากพระดังกล่าว  ซึ่งเรื่องนี้ทางพระราชวิสุทธิกวี รักษาการเจ้าอาวาสท่านได้เน้นย้ำให้ญาติโยมชวยกันตรวจสอบพฤติกรรมของพระภิกษุ สามเณรในวัดที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมมั่วสุมเสพยาเสพติด

 

               จนถึงขณะนี้มีเหลืออีก 1 รูปที่มักจะเมามายโวยวายลั่นวัด ซึ่งทางตำรวจเคยเข้ามาตรวจปัสสาวะแต่ไม่พบสารเสพติดจึงยังสามารถจับสึกได้ ส่วนขั้นตอนการขอบวชเป็นพระภิกษุของวัดต่อไปทางรักษาการเจ้าอาวาสกำหนดให้มีการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด

 

               และนำหลักฐานมาประกอบคำขอบวชเพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ติดยาแอบแฝงเข้ามาอยู่ในผ้าเหลืองสร้างปัญหาและความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของวัดและพระพุทธศาสนาอีกต่อไป

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสมบัติ สัตย์ชัยได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรรมการงัดทำการงัดกุฏิหลังหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นกุฏิที่นายแมน พำนักจำพรรษาเมื่อครั้งบวชเป็นพระภิกษุ และหลังจากสึกไม่ยอมมอบกุญแจห้องคืนให้กับทางวัด

 

               และในช่วงกลางดึกจะแอบเข้ามานอนในกุฎิเป็นประจำสงสัยว่านายแมน อาจจะใช้กุฏิที่ตัวเองเคยพำนักอยู่เมื่อครั้งเป้นพระเป็นที่มั่วสุมและแหล่งพักยาเสพติดก็ได้  แต่จากการตรวจสอบภายในกุฏิพบเพียงไฟแช็กและร่องรอบการเสพยาเสพติดโดยไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด.

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

โล้นสุดทราม เดินแก้ผ้าจนญาติโยมผวา นึกว่าเปรตมาขอส่วนบุญ

 

ภาพ/คลิป ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช

ยุทธนะ เตมะศิริ นครศรีธรรมราช

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ