ไฟไหม้รถกระบะบรรทุกข้าวเปลือกกลางทุ่งนา วอดไปครึ่งคัน

                เมื่อเวลา 14.00น วันที่ 11 พฤศจิกายน  ร.ต.ท.หญิงกิตติญา วิจิตรจันทร์ รองสารวัตร.(สอบสวน)สภ.เมืองยโสธร รับแจ้งเหตุรถกระบะบรรทุกข้าวเปลือกเกิดไฟลุกไหม้ บริเวณถนนนาสะไมย์-บ้านนาสีนวล ต.นาสะไมย์ อ.เมืองยโสธร จึงไปตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่บรรเทาภัย อบต.นาสะไมย์และ อบต.หนองเรือ นำรถดับเพลิงรุดไปช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุเป็นกลางทุ่งนา พบรถกระบะตอนเดียว ยี่ห้อทาทา สีขาว ทะเบียน บธ 5992 ยโสธร บรรทุกข้าวเปลือกที่รับข้าวเปลือกมาจากรถเกี่ยวข้าวไปเก็บเข้าลานเพื่อตากข้าวก่อนเก็บเข้ายุ้งฉาง  เกิดไฟลุกไหม้จากท้องรถลุกลามไปยังห้องเครื่องและห้องผู้โดยสารอย่างรวดเร็วจนเหลือแต่ซาก จากนั้นไฟได้ลุกลามติดไปยังตอซังข้าวรอบบริเวณ ซึ่งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ใช้พ่นน้ำและโยนดินเข้าไปในห้องเครื่องเพื่อดับไฟ เนื่องจากรถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปยังจุดเพลิงไหม้ได้ ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า30 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

                   สอบถามนายสุพัฒน์ ดาวประสงค์ อายุ 35 ปี คนขับรถ เผยว่ากระกระบะคันดังกล่าวเป็นของพ่อของตน ซื้อมาได้ประมาณ 6 ปี ใช้เชื้อเพลิงเป็นก๊าซCNG ซึ่งที่จังหวัดยโสธรไม่มีสถานีเติมก๊าซCNG พ่อของตนจึงเปลี่ยนมาติดตั้งก๊าชLPG ซึ่งรถคันดังกล่าวกล่าวไม่ค่อยได้ขับใช้งานหนักๆ กระทั่งวันนี้พ่อของตนได้ว่าจ้างรถมาเกี่ยวข้าว ตนจึงนำรถคันดังกล่าวออกมาบรรทุกข้าวเปลือก กระทั่งข้าวเปลือกเต็มคันรถตนก็ขับกำลังขับออกมาจากที่นาเพื่อนำข้าวมาตาก แต่ตนคาดว่ารถไม่สามารถขึ้นคันนาได้ จึงดับเครื่องยนต์แล้วนำจอบมาปรับดินตรงคันนาเพื่อให้รถสามารถขึ้นได้ ระหว่างนั้นตนสั่งเกิดเห็นควันดำลอยขึ้นมาจากฝากระโปรงตนจึงได้เดินเปิดฝากระโปรงขึ้นจนพบไฟกำลังลุกไหม้ห้องเครื่อง จากนั้นได้ปิดฝากระโปรงรถแล้วไฟก็ได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนสร้างความเสียหายให้รถไปกว่าครึ่งคัน

ร.ต.ท.หญิงกิตติญา กล่าวว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นสันนิษฐานว่าตอซังข้าวได้เข้าไปติดที่เพลารถด้านล่างจนทำให้เกิดความความร้อนจนเป็นเปลวและได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามจากการสอบถามเจ้าของรถไม่ติดใจในสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้จึงได้มอบซากรถคันดังกล่าวให้เจ้าของเพื่อซ่อมแซมต่อไป

ภาพ/ข่าว  สมัย  คำแก้ว  ยโสธร  รายงาน