โจรชุม สาวใหญ่ควงแฟนหนุ่มชาวต่างชาติกลับบ้านหวังเที่ยวงานช้าง กลับถูกโจรขึ้นบ้านยกเค้าเกลี้ยง แถมในหมู่บ้านก็โดนไปด้วยอีก 2 หลัง สูญเงินกว่าแสนบาท
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 8 พ.ย.2562 ที่ผ่านมา ได้มีเหตุคนร้ายขโมยของชาวบ้าน คืนเดียวพร้อมกันถึง 3 หลังรวด ได้ของมีค่าไปหลายรายการ
ค่าความเสียหายกว่าแสนบาท ที่บ้านสวนหม่อน หมู่ที่ 13 ตำบลชุมพลบุรี อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ โดยบ้านหลังแรกเป็นบ้านของ น.ส.อภิญญา จำปาทาสี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 13 บ้านสวนหม่อน ลักษณะบ้านเป็นบ้านชั้นเดียว
จากการสอบถาม น.ส.อภิญญา จำปาทาสี ได้เปิดเผยว่า ตนเองกับสามีซึ่งเป็นชาวต่างชาติ เพิ่งจะเดินทางมาจากต่างประเทศ เพื่อจะกลับบ้านมาเที่ยวงานช้างสุรินทร์ซึ่งมีการจัดขึ้นปีละหนึ่งครั้ง เมื่อมาถึงบ้านเป็นวันแรกก็ได้นอนพักผ่อนที่บ้านของตัวเองกับแฟนชาวต่างชาติ และก่อนนอนก็ได้มีการตรวจดูประตูหน้าต่างว่าได้ล็อคอย่างดีหรือยัง
จึงได้เข้านอนพักผ่อนโดยไม่คิดอะไรเพราะว่าเป็นบ้านของตัวเอง แต่พอนอนหลับไปได้สักพักพอถึงช่วงกลางดึก ตนเองก็รู้สึกผิดปกติบางอย่างเพราะว่านอนหลับเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย พอตื่นขึ้นมากลางดึกก็รู้สึกว่ามึนงงเหมือนคนเมา
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรจึงนอนพักผ่อนต่อจนรุ่งเช้า พอถึงรุ่งเช้าตื่นขึ้นมา แม่มาขอเงินเพื่อที่จะไปทำบุญจึงเดินไปหยิบที่กระเป๋าเงิน แต่ก็พบว่าไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋า มารู้อีกทีว่าสร้อยทองหนัก 3 บาท และเงินสด 30,000 บาท พร้อมกับเงินต่างประเทศอีกจำนวนหนึ่งได้หายไป ส่วนแฟนชาวต่างชาติก็ถามหาบัตรเอทีเอ็ม จึงได้ช่วยกันหา มาเจออีกทีโดนทิ้งอยู่ที่หน้าบ้าน
น.ส.อภิญญา จำปาทาสี ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขโมยที่มาขโมยเงินและสร้อยทอง ขโมยเอาเฉพาะเงินแบงก์ละ 1,000 500 100 บาทส่วนแบงก์ 20 บาทไม่ยอมเอา ตนจึงเดินไปดูแถวบริเวณหน้าต่างของห้องนอนด้านนอก
ก็พบว่ามีรอยรองเท้าและก็หน้าต่างไม่ได้ล็อคทั้งที่ตอนก่อนนอนก็ได้มีการเช็คดูแล้วว่าได้ล็อคเป็นอย่างดี ส่วนแฟนชาวต่างชาติก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเพราะตั้งใจจะมาเที่ยวงานช้าง แต่มาถึงวันแรกก็มาโดนขโมยเงินและทองเสียแล้ว
ส่วนบ้านหลังที่สอง ซึ่งเป็นบ้านของ นางจตุพร เพ็งสุวรรณ์ บ้านเลขที่ 167 อยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกัน ในช่วงวันเวลาเดียวกัน ก็มีคนมาขโมยสร้อยทองหนัก 1 บาทพร้อมกับเงินสดอีก 6,000 บาทไป โดยร่องรอยมีการงัดเข้าทางหน้าต่างเหมือนกัน
และบ้านผู้เสียหายหลังที่สาม คือบ้านของนางตติยาภรณ์ ไชยวงศา อายุ 39 ปีบ้านเลขที่ 77 อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน คนร้ายได้มีการเข้าไปในห้องนอนขโมยเงินสดไป 47,000 บาท พร้อมกับทองหนึ่งสลึง ซึ่งจากการสอบถามเจ้าของบ้านหลังนี้ให้การว่า
คนร้ายน่าจะเข้ามาทางด้านหลังครัวเพราะว่าไม่ได้ล็อคประตูหน้าต่าง แต่คนร้ายอุกอาจมากเพราะมีการเข้าไปขโมยเงินและทองถึงที่นอน ในขณะนั้นเองตนเองรู้สึกตัวมองเห็นคนนั่งอยู่ข้างที่นอนกำลังเอื้อมมือจะมาดึงเอาสร้อยทองอยู่ที่คอ ตนเอง
ตนจึงได้พยายามจะดึงตัวคนร้ายไว้ แต่คนร้ายไหวตัวทันและวิ่งหนีไป ตนจึงวิ่งตามแต่ก็ไม่ทัน ส่วนแฟนที่นอนอยู่ข้างกันนึกว่าตนนอนละเมอ แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่เพราะตัวเองวิ่งจะไล่จับคนร้าย แต่คนร้ายก็สามารถหนีไปได้
นางตติยาภรณ์ ไชยวงศา ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า เหตุการณ์นี้ก็ได้มีการแจ้งไปทาง สภ.ชุมพลบุรี แล้ว และทาง สภ.ชุมพลบุรี ก็ได้ออกมาตรวจที่เกิดเหตุ ในเช้าวันที่ 9 พ.ย.62 ที่ผ่านมาแล้ว โดยได้มาเก็บหลักฐานหารอยนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุ
เพื่อที่จะติดตามหาคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามทางกฎหมายแล้ว สำหรับการนำเสนอข่าว นางตติยาภร์ ไชยวงศา ซึ่งเป็นคนติดต่อร้องขอมาเพื่อให้ผู้สื่อข่าวนำเสนอเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจ ผู้ก่อเหตุไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ตนเองและครอบครัวจึงรู้สึกว่า
แม้ขนาดอยู่ในบ้านตัวเองยังรู้สึกว่ามีความไม่ปลอดภัย และการนำเสนอข่าวก็จะช่วยให้คนที่ได้รับรู้ข่าวสารจะได้ช่วยกันสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตา ช่วยกันระมัดระวังต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเองให้มากขึ้น จะได้ไม่ต้องมาเสียใจเหมือนพวกตน ที่ต้องมาสูญเสียทรัพย์สินไปโดยไม่รู้ว่าจะได้คืนหรือไม่ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อีก
ภาพ/ข่าว ซิน กิเลน / ชูชัย ดำรงสันติสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์ รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง