กองทัพภาคที่ 4 สนธิกำลังชุดปฎิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองนครศรีธรรมราช และอีกหลายหน่วยงาน บุกจับนักค้ายานรก 2 คน ส่วนบ่าว นบพิตำ ตัวการใหญ่หนีรอดไปได้
8 พ.ย.)ผู้สื่อขาวรายงานว่าเมื่อเวลา 20.00 น.คืนที่ผ่านมา (7 พ.ย. )ที่ค่ายฝึกการรบพิเศษสิชลอำเภอสิชลจังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผู้บังคับกองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4 ค่ายฝึกการรบพิเศษสิชลได้แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดจำนวน 2 คน พร้อมของกลางยาเสพติด ประกอบด้วยยาไอซ์หนักกว่า 3 ก.ก ยาบ้า 700 เม็ด กัญชา 6.12 กรัม อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน พร้อมวิทยุสื่อสารดักฟังช่องตำรวจ 1 เครื่อง
โดย พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา (7 พ.ย.) ได้รับการประสานจากพลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ให้ทำการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่อำเภอสิชลที่ระบาดอย่างหนักโดยเฉพาะในท้องที่ ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช จึงได้สนธิกำลังร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราชโดยมี พ.อ.อ.ศุภโชค พราหมพูน หัวหน้าชุด ฉก. ของนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ชุดปฏิบัติข่าวลับ ชุดปฏิบัติการข่าวกรองทางทหาร ชุดปราบปรามยาเสพติตกองทัพภาคที่ 4 ชุด ปปส.ภาค 8 และตำรวจ สภ.สิชล ได้กระจายกำลังออกสืบสวนหาเบาะแสผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
หลังทราบเบาะแสเจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังบุกเข้าตรวจค้นจับกุมนายชัยรัตน์ ใจมั่น หรือ”รัตน์ บ้านเขาพระ”อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ที่ 4 บ้านเขาพระ ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช จากการตรวจค้นภายในบ้านและในรถยนต์เก่งของนายชัยรัตน์ พบยาบ้ารวม 700 เม็ด ไอซ์ 66 กรัม ปืนลูกซองยาวไม่มีอนุญาติ 1 กระบอกพร้อมกระสุน 5 นัด กัญชา 6.12 กรัม บ้องกัญชา 1 อัน เครื่องชั่งดิจิตอล1อัน และวิทยุสื่อสารตั้งช่องตำรวจ 1 เครื่องเปิดช่องตำรวจเพื่อดักฟังความเคลื่อนไหว ควบคุมตัวพร้อมยึดของกลางมาสอบสวนขยายผล
จากการสอบสวนและตรวจสอบประวัติพบว่านายชัยรัตน์ ผู้ต้องหารายนี้ถูกจับกุมในคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนและยาเสพติดมาแล้ว 3 ครั้ง ๆ ล่าสุดเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาได้ประมาณ 2 ปี ให้การรับสารภาพและซัดทอดว่าซื้อยาเสพติดทั้งยาบ้า ยาไอซ์มาจากนายสุวัฒน์ ใฝจู หรือ “บ่าว นบพิตำ ” อายุ 54 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่หมู่ 1 ต.นบพิตำ อนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช แต่ในปัจจุบันมาอาศัยได้มาอาศัยอยู่ที่กระท่อมของอดีตแฟนเก่าในท้องที่หมู่ที่ 3 บ้านห้วยทรายทอง ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่จึงให้นายชัยรัตน์ ติดต่อล่อซื้อยาไอซ์จำนวน 200 กรัม แต่นายสุวัฒน์ แจ้งว่าไม่อยู่ที่กระท่อมที่พักอาศัยเพราะไปเล่นการพนนชนไก่ที่บ่อนไก่ชนบ้านคลองเหรง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช และได้โทรศัพท์แจ้งให้หลานชายชื่อนายจักรพงษ์ สุดสวาท หรือ “หนุ่ม โรงเหล็ก” อายุ32 ปี 83/36 หมู่ 1 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช นำยาไอซ์จำนวน 200 กรัม ไปส่งให้นายชัยรัตน์ ที่ริมถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 บ้านเขาพระ ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนทำการจับกุมนายจักรพงษ์ “หนุ่ม โรงเหล็ก” เอาไว้ได้พร้อมยาไอซ์ของกลาง 200 กรัม
จากนั้นจึงควบคุมตัวนายจักรพงษ์ ไปตรวจค้นในกระท่อมของนายสุวัฒน์ พบไอซ์เพิ่มเติมจำนวน 3 ก.ก.ใส่กระเป๋าผ้ายัดใส่ในลังกระดาษซ่อนอยู่ใต้ถุนกระท่อมจึงตรวจยึดเอาไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ได้บุกไปที่บ่อนไก่บ้านคลองเหรง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราชที่นายสุวัฒน์ ไปเล่นการพนันไก่ชน แต่นายสุวัฒน์ ไหวตัวทันได้หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายชัยรัตน์และนายจกรพงษ์ สองผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า ยาไอซ์ กัญชา อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนของกลาง ที่ส่งมอบให้ ร.ต.อ. วีระศักดิ์ มะลิทอง พนักงานสอบสวน สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายและจะรวบรวมพยานหลักฐานเสนอขอหมายจับกุมนายสุวัฒน์ เจ้าของยาไอซ์หนัก 3 กก.เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ภาพ/ข่าว ยุทธนะ เตมะศิริ นครศรีธรรมราช
ข่าวที่เกี่ยวข้อง