ยุติความขัดแย้ง 3กลุ่มประมงชายฝั่งตกลงปักปันพื้นที่ทะเลลงตัว

จากกรณีชาวประมงพื้นบ้านอวนลอย อ่าวปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช นำโดยนายมาโนช ดวงดี นายกสมาคมประมงชายฝั่ง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 50 คนได้เดินทางด้วยเรือหางยาวประมาณ 20 ลำ ไปยังสำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาค จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช  เพื่อยื่นหนังสือถึงสำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาค จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้มีการจัดระเบียบการปักไม้ไผ่ในอ่าวปากพนังและใกล้เคียง อ้างว่าเป็นการสร้างบ้านปลา สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวประมงชายฝั่งซึ่งใช้เรือหางยาวเป็นพาหนะในการออกทำประมงชายฝั่งไม่สามารถประกอบอาชีพวางอวนดักจับปลาหรือสัตว์น้ำได้ตามปกติ และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเรือชนแนวไม้ไผ่ที่ปักในตามแนวชายฝั่ง  แต่การเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมทั้งชาวประมงชายฝั่งกลุ่มต่างๆ มาเจรจาหาข้อยุติในการจัดระเบียบไม่สามารถตกลงกันได้โดยจะนัดและเชิญมาร่วมประชุมแก้ปัญหาใหม่อีกรอบ ส่วนกลุ่มผู้ต้องนัดรวมพลร้องอีกรอบถึงอธิบดีประมง และทำเนียบรัฐบาลผ่านศูนย์ประสานงาน ส.ส.พปชร.เมืองคอนในวันที่ 9 พ.ย.นี้ ในขณะที่เกิดการแตกแยกในกลุ่มชาวประมงชายฝั่งอย่างหนัก ถึงขั้นประกาศตามฆ่านายมาโนช ดวงดี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ในเช้าวันนี้ (5 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่นายมาโนช ดวงดี ประกาศจะเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนถึงอธิบดีกรมประมง และนายกรัฐมนตรีผ่านศูนย์ประสานงาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องได้ประสานงานกับกลุ่มประมงพื้นบ้านหลายกลุ่มเพื่อหาหารือเพื่อหาทางยุติปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยมองว่าทุกกลุ่มมีเป้าหมายในการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งและต่อตานการทำประมงผิดกฎหมายเหมือนกัน และกลุ่มของนายมาโนช ดวงดี ผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนเจ้าท่าภูมิภาคนครศรีธรรมราช เพื่อให้จัดระเบียบการปักไม้ไผ่ในอ่าวปากพนังและตลอดแนวชายฝั่งทะเลในพื้นที่หลายอำเภอ ในขณะที่กลุ่มอื่น ๆ ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกรมประมงในการดำเนินการโดยมีเป้าหมายเพื่อเลี้ยงหอยและสัตว์น้ำในพื้นที่ที่มีการปักปันแนวเขต และป้องกันการเข้าไปทำประมงของกลุ่มประมงผิดกฎหมายคือเรืออวนรุน ,เรือคราดหอย ซึ่งเป็นการทำประมงแบบทำลายล้างนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีต่อทรัพยากรชายฝั่งเช่นกัน ทำให้ทุกฝ่ายที่แข็งกร้าวต่อกันมีท่าทีอ่อนลงและพร้อมที่จะร่วมเจรจาเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยดอาศัย

ทางด้านคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้เดินทางเข้าพบนายมาโนช ดวงดี และชาวประมงชายฝั่งสมาคมประมงชายฝั่งปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ที่ร่วมโครงการก่อสร้างบ้านปลา แก้ปัญหาทรัพยากรสัตว์น้ำอ่าวปากพนัง  ตามโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ได้ร่วมกันเดินทางด้วยเรือหางยาวลงพื้นที่การก่อสร้างบ้านปลาอ่าวปากพนัง บริเวณ ต.ท่าไร่ ติดเขต อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อร่วมเก็บข้อมูลหลังจากก่อสร้างบ้านปลาเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา เพื่อรวบรวมข้อมูลผลดี ผลเสียที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างบ้านปลานำไปสรุปวิเคราะห์ข้อมูลที่แน่ชัดต่อไป

โดยขณะนั่งเรือหางยาวออกไปในทะเลพบว่ามีเครื่องมือประมงผิดกฎหมายเต็มไปหมด จนถึงจุดที่สร้างบ้านปลาได้มีปลาและสัตว์น้ำหลายชนิดเข้ามาอยู่อาศัย โดยเฉพาะมีเพรียงจำนวนมากมาเกาะที่ไม้ไผ่บ้านปลา ทางเจ้าหน้าที่ได้จดบันทึกข้อมูลต่าง ๆ พร้อมเก็บข้อมูลน้ำและดินโคลนกลับไปตรวจทางวิทยาศาสตร์เพื่อเป็นข้อมูลนำมาวิเคราะห์อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ทางด้านนายสมเกียรติ ขวัญเมือง หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมงสำนักงานประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช นายระบิล ทองนาค เจ้าพนักงานประมงชำนาญการ ได้นัดตัวแทนกลุ่มประมงชายฝั่งแหลมตะลุมพุก ต.แหลมตะลุมพุก  นำโดยนายประยุทธ ฐานะวัฒนา กำนัน ต.แหลมตะลุมพุก ตัวแทนประมงชายฝั่ง ต.แหลมตะลุมพุก  และชาวประมงบ้านบางกระบือ หมู่ 6 ต.ท่าไร่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นำโดยนางสาวจรัสศรี ฮันตระกูล ตัวแทนกลุ่มประมงชายฝั่งบ้านบางกระบือ ไปร่วมเจรจาและบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดระเบียบการปักไม้ไผ่เป็นแนวในทะเล โดยทางฝ่ายผู้ร้องมีนายสันติ โต๊ะตุสะ เป็นตัวแทนกลุ่มชาวประมงอวนลอยบ้านท้องโกงกาง ต.ปากพนัง อ.ปากพนัง ซึ่งร่วมยื่นเรื่องร้องเรียนเจ้าท่าภูมิภาคให้จัดระเบียบการปักไม้ไผ่ในทะเลเนื่องจากไม่สามารถประกอบอาชีพอวนลอยได้ตามปกติ

 

โดยหลังจากการเจรจรเสร็จสิ้นได้มีการจัดทำหนังสือข้อตกลงกัน 2 ฉบับ โดยฉบับแรกระหว่างตัวแทนชาวประมงอวนลอยบ้านท่องโกงกาง ต.ปากพนังฝั่งตะวันตกกับตัวแทนประมงชายฝั่งแหลมตะลุมพุก อีกฉบับระหว่างระหว่างตัวแทนชาวประมงอวนลอยบ้านท่องโกงกาง ต.ปากพนังฝั่งตะวันตกกับตัวแทนประมงชายฝั่ง ต.ท่าไร่ โดยมีข้อตกลงสรุปว่าทางกลุ่มประมงชายฝั่งแหลมตะลุมพุก และกลุ่มประมงบางกระบือ ต.ท่าไร่ ยินยอมที่จะรื้อถอนแนวไม้ไผ่บางส่วนออกตามข้อเรียกร้องของชาวประมงอวนลอยบ้านท่องโกงกางที่ยื่นเรื่องถึงเจ้าท่าภูมิภาคนครศรีธรรมราช และหากเกิดปัญหาระหว่างกันอีกในการทำประมงชายฝั่งทั้ง 3 กลุ่มจะมีการประสานงานกันในการรวมแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งขึ้นอีก และมีการลงชื่อของกลุ่มประมงคู่กรณีเป็นหลักฐาน โดยเจ้าหน้าที่ประมงร่วมลงชื่อในฐานะพยานในการเจรจาตกลงกัน

อย่างไรก็ตามประชาชนทั่วไปต่างวิพากวิจารณ์ว่าการเจรจาและจดทำบันทึกข้อตกลงกันระหว่าง 3 กลุ่มที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ โดยกลุ่มที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกรมประมงให้ปักแนวไม้ไผ่ในทะเลแห่งละประมาณ 5 พันไร่ อ้างว่าเป็นการสร้างบ้านปลาโดยทางกรมประมงมีเป้าหมายที่จะให้การสนับสนุนงบประมาณให้แต่ละกลุ่มเลี้ยงหอยในแต่ละพื้นที่ที่ปักกันแนวเขต  แต่เมื่อนายมาโนช ดวงดี นายกสมาคมประมงชายฝั่งปากพนัง เรียกร้องว่าเมื่อเจรจาตกลงกันไม่ได้ตนเองจะยื่นเรื่องถึงอธิบดีกรมประมงและนายกรัฐมนตรีผ่านศูนย์ประสานงาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้แต่งตั้งคณะกรรมการจากกรมประมงและสำนักนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและขอให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เท่าเทียมเสมอภาคกัน

 “ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกรงว่า หากมีการสั่งตั้งคณะกรรมการจากส่วนกลางลงพื้นที่ตรวจสอบในทะเลตลอดแนวชายฝั่งจังหวัดนครศรีธรรมราช จะพบการกระทำผิดกฎหมายเต็มอ่าวไปหมดโดยเฉพาะโพงพางปีก ลอบผับหรืออ้ายโง่ เรือรุนหัว เรือคราดหอย ที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าปราบปรามและรื้อถอนหมดแล้วตามยุทธการ “ปากพนังโมเดล” แต่ในข้อเท็จจริงพบว่าเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย และการทำประมงเรืออวนรุนหัวและเรือคราดหอย ยังกระจายอยู่เต็มอ่าวตลอดแนวชายฝั่งนครศรีธรรมราช ถือว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ หรือแม้กระทั้งการนำไม้ไผ่มาปักแบ่งปันพื้นที่กลางทะเล ซึ่งเป็นที่สาธารณะที่ทุกคนมีสิทธิ์ทำประโยชน์ร่วมกัน การปักแบ่งปันพื้นที่ในทะเลจึงน่าจะเขาข่ายผิดกฎหมาย และการที่ปรมประมงสนับสนุนงบประมาณมาให้ดำเนินการทั้งการปักไม้ไผ่และการเลี้ยงหอยเป็นการสนับสนุนงบประมาณและนำไปใช้โดยมิชอบหรือไม่ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกรงว่าเรื่องจะลุกลามบานปลายเจ้าหน้าที่พลอยมีความผิดไปด้วย เจ้าหน้าที่จึงเร่งให้กลุ่มประมงแต่ละกลุ่มที่ได้รับงบประมาณปักไม้ไผ่ในทะเลประสานกับนายมาโนช ดวงดี และแกนนำประมงอวนลอยบ้านท้องโกงกาง ผู้ร้องให้ยุติการเคลื่อนไหวร้องเรียนเพิ่มเติม โดยแต่ละกลุ่มยินยอมรื้อถอนไม้ไผ่ที่ปักในทะเลออกบางส่วนเพื่อให้กลุ่มประมงอวนลอยบ้านท้องโกงกางสามารถประกอบอาชีพอวนลอยได้อย่างสะดวกตามที่ยื่นเรื่องร้องเรียนกับเจ้าท่าส่วนภูมิภาคนครศรีธรรมราช จนนำมาสู่การเจรจาตกลงและทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรประชาชนทั่วไปยังเรียกร้องให้กรมประมงและรัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมการจากส่วนกลางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและบังคับกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นจนนำมาสู้ความขัดแย้งของกลุ่มประมงชายฝั่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีตนตอมาจากเจ่าหน้าที่ไม่ได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกวดขันและไม่เสมอภาคเท่าเทียมกัน และเชื่อว่าหากปล่อยคาราคาซังต่อไปจะเกิดปัญหานำมาสู่ความขัดแย้งอย่างรุนแรงได้อีกอย่างแน่นอน

ภาพ/คลิป  ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช

ยุทธนะ  เตมะศิริ /นครศรีธรรมราช/รายงาน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-จนท.ประมงไล่ล่ากลางอ่าวไทยจับกุม 3 หนุ่ม ทำผิดกฎหมาย
-ประมงจังหวัดและ กอ.รมน.ร่วมปล่อยชุดปฏิบัติการณ์ทางน้ำ
-ประมง ลั่น เอาผิดเด็ดขาดเรือคราดหอยเถื่อน
-ลูกเหล็กกว้านเรือประมงหลุด กระแทกหัวลูกเรือประมงดับ