ฉาวข้าราชการไทย สั่งทำกระทงการ์ตูน ก่อนดักจับ ลั่น ลิขสิทธิ์

จากกกรณีโซเชียลได้มีการแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหญิงวัย 15 ปีที่ถูกสั่งทำออเดอร์กระทงรูปการ์ตูนชื่อดังแล้วให้ทำออเดอร์กะทงไปส่งที่บริเวณแถวห้างแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมาจนกระทั่งมีชุดจับกุมซึ่งอ้างตัวว่าเป็นสิขสิทธิ์มาจับกุมไปและได้ให้ทางพ่อและแม่ของเด็กคนดังกล่าวเสียเงินค่าประกันเป็นเงินจำนวน 5 หมื่นบาท จนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุยไกล่เกลี่ยให้จนทางฝ่ายแม่ไม่มีเงินให้เสียค่าปรับไปจำนวน 5 พันบาทไม่ได้ออกใบเสร็จอะไรให้เลย ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับทางแม่ของเด็กหญิงวัย 15 ปีซึ่งเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวควรตักเตือนเพราะน้องยังเป็นเด็ก

นางสาวสุภาวดี วงศ์มณี อายุ 15 ปี เปิดเผยว่า ตนเองโพสขายของในโซเชียลเป็นประจำและในช่วงใกล้เทศกาลลอยกระทงจึงได้โพสต์ว่าจะทำกระทงลง facebook หากใครสนใจให้ติดต่อมาหลังจากนั้นได้มีผู้ชายใช้ facebook ติดต่อมาทาง inbox และเสนอให้ทำกระทงรูปตัวการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่นจำนวน 4 แบบ ตัวคิดกระทงละ 17 บาท ซึ่งมีการโอนเงินให้ก่อนจำนวน 200 บาท หลังจากนั้นมีการติดต่อรับกระทงที่ตัวเมืองนครราชสีมา ก่อนจะพบชายฉกรรจ์จำนวน 5 คนพร้อมทั้งผู้หญิง 1 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์การ์ตูน ก่อนจะพูดจาข่มขู่ต่างๆนานาและควบคุมตัวไปที่โรงพักสภเมืองนครราชสีมา ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาละเมิดลิขสิทธิ์การ์ตูน ซึ่งทำให้ตนเองตกใจกับเหตุการณ์เป็นอย่างมากเนื่องจากต้องการช่วยเหลือครอบครัวโดยการหาเงินเพื่อที่จะนำไปเป็นค่าทำคลอดแม่ เนื่องจากท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว แต่ก็มาเจอเหตุการณ์อย่างนี้ทำให้ตนเองตกใจเป็นอย่างมาก และอยากฝากบอกเจ้าหน้าที่ให้ตักเตือนมากกว่าจะจับดำเนินคดี

ด้านคุณกันยาวดี วงศ์มณี อายุ 31 ปี แม่ของเด็กหญิงวัย 15 ปี เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองมองว่าเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุเพราะน้องยังเด็กมากควรจะตักเตือนก่อน ซึ่งวันเกิดเหตุลูกสาวตนเองได้รับการติดต่อมาช่วงประมาณวันที่ 1 พ.ย.62 โดยได้รับการติดต่อมาจากเฟสบุ๊คว่าจ้างให้ลูกสาวตนเองทำกะทงให้จำนวน 136 ชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นให้ทำเป็นรูปทรงตัวการ์ตูนชื่อดัง เมื่อถึงเวลานัดรับของจึงได้ให้ลูกสาวตนเองไปส่งกะทง 30 ชิ้น พอถึงที่นัดส่งของได้มีกลุ่มชายที่อ้างตัวว่าเป็นสิขสิทธิ์เข้าจับกุมไปที่สถานีตำรวจสภ.เมืองนครราชสีมาทันทีและได้มีการเรียกร้องให้เงินประกันจำนวน 5 หมื่นซึ่งตอนนั้นตนเองไม่มีเงินจึงให้ไกล่เกลี่ยขอจ่ายเพียง 5 พันเพราะมีเงินอยู่แค่นี้ จึงได้ตกลงจ่ายไปและทางสิขสิทธิ์ก็ไม่เอาความ ซึ่งเรื่องตนเองมองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุจริงๆเพราะลูกสาวตนเองก็อยากมีรายได้มาช่วยตนเองที่กำลังท้องแก่อยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ควรเห็นใจและว่ากล่าวตักเตือนก่อนก็ได้

ภาพ/ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมา