เปิดอาณาจักรแม่มณีซื้อตึกแถว3ห้องมูลค่า 15.3 ล้าน

วันที่ 29 ตุลาคม 2562   เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ได้เดินทางไปอาคารพาณิชย์ 4 คูหา ในซอยจินตคาม เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งถูกระบุว่าเป็นที่ตั้งสำนักงานของ “แม่มณี” หรือ น.ส.วันทนีย์ หรือเดียร์ ทิพย์ประเวช อายุ 30 ปี เจ้าของแชร์ออมเงิน-ออมทอง ที่ถูกลูกแชร์จำนวนมากแจ้งความไว้ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) , กองบังคับการปราบปราบอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และที่ สภ.เมืองอุดรธานี โดยแม่มณี ยังไม่ออกมาเปิดเผยตัว บ้านพ่อแม่ที่บ้านเอื้ออาทรอุดรธานี3 ก็ถูกปิดเงียบ และที่สำนักงานก็ถูกปิดเงียบเช่นกัน

โดยอาคารพาณิชย์ที่ถูกระบุเป็น สนง.ของแม่มณี 4 คูหา หลังที่ 1-3 เป็นอาคาร 3 ชั้นอยู่ในอาคารชุดเดียวกัน แต่ไม่ติดกัน หลังแรก เลขที่ 80/39 มีป้ายไม้เขียนว่า มั่งมีศรีสุข ร่ำรวยบารมี (บ้านแม่มณี) ประตูด้านหน้าเป็นกระจกทึบแสง ไม่ดึงประตูเหล็กลงมาปิด , หลังที่ 2 ข้ามมา 1 ห้อง เลขที่ 80/41 ประตูด้านหน้าเป็นกระจกใส แต่ด้านในมีผ้าม่านสีแดงปิดไว้ ไม่ดึงประตูเหล็กลงมาปิด ซึ่งแม่มณีเช่าไว้ , หลังที่ 3 ติดกับหลังที่สอง เลขที่ 80/42 มีป้ายร้านรีโอโมบาย(ป้ายเก่า) ด้านหน้าประตูเหล็กถูกเลื่อนลงมาปิดไว้ และหลังที่สี่ อยู่ฝั่งตรงข้าม เลขที่ 452/10 มีป้ายร้านต้นแฮนด์โฟน (ป้ายเก่า) ใช้เป็นโกดังเก็บผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้า    

 

 

 

      

โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ระบุว่า แม่มณีฯเริ่มเข้ามาตั้งสำนักงาน โดยซื้ออาคารพาณิชย์ราวเดือนเมษายนที่ผ่านมา เริ่มจากหลังที่ 1 ราคาประมาณ 4.9 ล้านบาท จากนั้นก็ทยอยซื้ออีก 2 หลัง  แต่ไม่ติดกัน ซึ่งหลังที่ 3 ราคาประมาณ 4.9 ล้านบาท และหลังที่ 4 ราคาประมาณ 5.5 ล้านบาท ส่วนหลังที่ 2 เป็นอาคารที่เช่าเดือนละ 12,000 บาท จ่ายล่วงหน้า 1 ปี ทั้งหมดใช้เป็นสำนักงาน ที่พักพนักงาน และเก็บสินค้า

 แม่ค้าบริเวณนั้น  บอกว่า ตอนแรก“แม่มณี”มาถามหาบ้านเช่า บอกว่าบริเวณนี้ทำเลดี  จะเปิดร้านเพ้นท์เล็บ ผ่านไปไม่กี่วันก็มาซื้ออาคารหลังแรก ทำเป็นสำนักงานแชร์ออมเงิน-ออมทอง และขายสินค้าออนไลน์ มีเด็กวัยรุ่นมาทำงานหลายคน อาคารหลังอื่นใช้เป็นที่พัก และที่เก็บสินค้า ที่เห็นก็จะมีเครื่องสำอางยี่ห้อ “มะลิลา” มีการเปิดตัวในห้างสรรพสินค้า และปลาร้าสำเร็จรูปแม่มณี จะขายเฉพาะออนไลน์ ไม่มีขายในท้องตลาด

 “ แม่มณีบุคลิกดี พูดจาสุภาพ อัธยาศัยใจคอดี นอกจากมาลงทุนที่นี่ ยังไปลงทุนอย่างอื่นด้วย เคยคุยกับแม่มณีบอกว่า ไม่เคยไปต่างประเทศ ไม่มีพาสปอร์ต ไม่คิดว่าเข้ามาจะมาหลอกคนอื่น เขาไม่ได้มาชวนเราไปเล่นแชร์ แต่เราเปิดดูเฟซบุ๊ก ของเขา อยากติดตามดูเขาจึงไปเห็น สนใจก็เข้าไปลงทุน  คนแถวนี้ได้ลงทุนไปหลายคน วงเงินเกือบแสนจนไปถึงหลายแสน แต่ตอนนี้ไปแจ้งความเพียงคนเดียว ที่เหลือกำลังตัดสินใจ ”

 

 

 

 

ชาวบ้านบอกอีกว่า ระยะหลังไม่มีวัยรุ่นมาทำงานที่สำนักงาน เขาบอกว่าหาคนทำงานให้ไม่ได้ จะต้องไปตั้ง สนง.ที่กรุงเทพฯ แต่ก็ยังมีคนมาทำงานและเฝ้าสำนักงานอยู่ จนเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คนเฝ้าก็ไม่ได้เข้ามาอีก จนมีข่าวว่ามีคนไม่ได้รับเงินที่ไปลงเล่นแชร์ด้วย  ส่วนหนึ่งไปแจ้งความ

นางชนกนภา บำรุงพรไพศาล อายุ 60 ปี เจ้าของอาคารพาณิชย์ที่ “แม่มณี” เช่า เปิดเผยว่า รู้จัก “แม่มณี” ก็ตอนเขาขอมาขอเช่าอาคารพาณิชย์ของตน โดยตกลงเช่าเป็นปีๆละ 160,000 บาท สัญญาเริ่ม มิ.ย.62 จนถึง มิ.ย.63 ตอนที่เขาตกลงเช่า เขาก็เรียกแม่ไปคุยด้วยและบอกลูกน้องจ่ายเงินสดๆให้เลยจำนวน 160,000 บาท ตนก็คิดในใจและมาเล่าให้ลูกสาวฟังว่าเขาไปทำอะไรมาถึงได้รวยจัง ทำไมเราไม่รวยเหมือนเขาบ้าง พอมีข่าวเรื่องแม่มณีโกงแชร์ จึงรีบมาดูอาคารพาณิชย์ของตนเอง เพื่ออยากจะบอกให้ผู้เสียหายทราบว่าอาคารพาณิชย์หลังนี้ไม่ใช่ของแม่มณี แต่เป็นของครอบครัวตนเอง กลัวผู้เสียหายมาทำลายทรัพย์สิน ตอนนี้เขายังไม่หมดสัญญาก็จะให้เช่าต่อไป

นายกฤษดา  จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว ภูมิภาค  จ.อุดรธานี