ข่าว

ลงพื้นที่เตรียมการรับมือ น้ำท่วมหนัก พร้อมเตรียมอพยพด่วน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เมืองคอนผวาฝนถล่มน้ำท่วมหนัก ส.ส.ลงพื้นที่หามาตรการรับมือด่วน-ผู้ว่า ฯสั่งติดตามสถานการณ์และเตรียมอพยพ ปชช.พื้นที่เสี่ยงตลอด 24 ชม.

(26 ต.ค.) รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครศรีธรรมราช สำนักงานชลประทานที่ 15 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช “คลองเลี่ยงเมือง” อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อทราบความคืบหนา ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการตามโครงการ โดยมีนายศักดา อยู่เดช ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครศรีธรรมราช พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการและการแก้ไขปัญหาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

            หลังจากนั้น รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 1 นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงที่ 1 สำนักงานทางหลวงที่ 16 นครศรีธรรมราช และกำนัน ผู้ใหญ่ในพื้นที่ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช  ได้เดินทางลงพื้นที่บริเวณถนนหน้าศูนย์วิทยบริการมหาวิทยาลัยรามคำแหง นครศรีธรรมราช ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช เพื่อร่วมตรวจสอบ และหาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมถนนสายนครศรีธรรมราช-ทุ่งสง ช่วงหน้า ศูนย์วิทยบริการมหาวิทยาลัยรามคำแหง นครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นการเร่งด่วนเนื่องจากในบริเวณดังกล่าวถูกน้ำท่วมหนักซ้ำซากทุกปี ทำให้ถนนสายหลักถูกน้ำท่วมสูง 1.5 เมตรเป็นระยะทางยาวประมาณ 600 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ตัดขาดการสัญจรไปโดยปริยาย

             โดยแนวทางการแก้ไขปัญหาคือการวางท่อบล็อกขนาดใหญ่เพิ่มให้มากขึ้นเพื่อสามารถรองรับการระบายน้ำจากฝั่งตะวันตกไปทางฝั่งตะวันออกได้เพียงพอ หรืออาจจะก่อสร้างแนวคัดกันน้ำเพื่อผลักดันให้น้ำไหลอ้อมไปลงคลองเสาธง ซึ่งทางแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชจะเร่งดำเนินการออกแบบในการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน และจะเสนอของบประมาณจากรัฐบาลเป็นกรณีพิเศษต่อไป

ลงพื้นที่เตรียมการรับมือ น้ำท่วมหนัก พร้อมเตรียมอพยพด่วน

ลงพื้นที่เตรียมการรับมือ น้ำท่วมหนัก พร้อมเตรียมอพยพด่วน

ลงพื้นที่เตรียมการรับมือ น้ำท่วมหนัก พร้อมเตรียมอพยพด่วน

ลงพื้นที่เตรียมการรับมือ น้ำท่วมหนัก พร้อมเตรียมอพยพด่วน

รศ.ดร.รงค์  บุญสวยขวัญ กล่าวว่า โครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยเมืองนคร ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 9,850 บาท ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการอยู่ในขณะนี้  แม้จะมีบางจุดที่ยังประสบปัญหาราษฎรไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการในโครงการนี้และทุกฝ่ายพยายามที่จะประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และเร่งก่อสร้างในจุดที่ไม่มีปัญหาอื่น ๆ ไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2565 หากโครงการแล้วเสร็จนอกจากจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมตัวเมืองนครศรีธรรมราชได้แล้วยังสามารถนำน้ำที่กักเก็บไว้ไปใช้ในการผลิตน้ำประปาแก้ปัญหาน้ำประปาขาดแคนในช่วงฤดูแล้งนอกจากนี้ประชาชนสามารถสูบน้ำจากลำคองส่งน้ำไปใช้ทางการเกษตรแก้ปัญหาภัยแล้งได้อีกด้วย

            “อย่างไรก็ตามก่อนที่โครงการนี้จะแล้วเสร็จจังหวัดนครศรีธรรมราชทั้งในเขตตัวเมืองและรอบนอกยังเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมหนักในหลาย ๆ จุด เนื่องจากปัญหาจากการระบายน้ำลงทะเลทางด้านทิศตะวันออกของเมืองรายได้ช้ามาก ทางราชการกำลังเร่งได้ดำเนินการขุดลำคลอง 5 สายที่ไหลผ่านตัวเมืองนครศรีธรรมราช คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็ว ๆ นี้  ส่วนในจุดอื่น ๆ ที่มีปัญหาเรื่องการระบายน้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งออกสำรวจตรวจสอบและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในช่วง 2-3 ปีนี้เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในแต่ละจุดให้ลดน้อยลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยจุดบริเวณหน้าศูนย์วิทยบริการมหาวิทยาลัยรามคำแหง นครศรีธรรมราช ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอีกจุดหนึ่งที่ถูกน้ำท่วมหนักซ้ำซากติดต่อกนทุกปี ทางรัฐบาลมีนโยบายให้ทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะสังกัดกระทรวงใดได้ร่วมบูรณาการในการแก้ไขปัญหาก่อนที่โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช “คลองเลี่ยงเมือง” อันเนื่องมาจากพระราชดำริจะแล้วเสร็จ”รศ.ดร.รงค์  กล่าวย้ำ

ลงพื้นที่เตรียมการรับมือ น้ำท่วมหนัก พร้อมเตรียมอพยพด่วน

ลงพื้นที่เตรียมการรับมือ น้ำท่วมหนัก พร้อมเตรียมอพยพด่วน

ลงพื้นที่เตรียมการรับมือ น้ำท่วมหนัก พร้อมเตรียมอพยพด่วน

 

ทางด้านนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ติดตามสภาวะอากาศ สถานการณ์น้ำท่า ปัจจัยเสี่ยงในหลายพื้นที่ กอปรกับประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฉบับที่ 2 (14/2562) เรื่องฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ ซึ่งบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่ ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาว เวียดนาม และทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 25-28 ตุลาคม 2562 ลักษณะดังกล่าวทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออก บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดดังกล่าว ระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก และปริมาณน้ำฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 26-28 ตุลาคม 2562  สำหรับอ่าวไทยทะเลมีคลื่นปานกลาง ความสูงของคลื่นประมาณ 2 เมตร ส่วนในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นจะสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือและชาวประมงเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ"

        “เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกัน รับมือ และลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ขอให้อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ ดังนี้ เน้นย้ำการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ ข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนภัยให้ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก โดยพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ลาดเชิงเขา อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก สำหรับประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่ง นักท่องเที่ยวที่ทำกิจกรรมชายทะเลหรือโดยสารทางเรือ ให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง”

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า หากจำเป็นต้องอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว ให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงความจำเป็นต้องอพยพเพื่อความปลอดภัยของประชาชน และดำเนินการอพยพไปอยู่ในจุดปลอดภัย กรณีมีคลื่นลมแรงและมีคลื่นสูง ให้หน่วยงานทางน้ำที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ออกลาดตระเวนแจ้งเตือนการเดินเรือ เรือเล็ก เรือประมง เรือท่องเที่ยว เรือข้ามฟาก ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และถือปฏิบัติอย่างเข้มงวดในการตรวจสภาพความพร้อมก่อนออกเรือ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ อาสาสมัคร องค์กรการกุศล เพื่อประสานการบูรณาการเตรียมความพร้อมทรัพยากร เครื่องมือ เครื่องจักรกลสาธารณภัย อุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย และกำลังเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์จัดการภัยพิบัติตำบล (1 ตำบล 1 ศูนย์จัดการภัยพิบัติและอุบัติภัย) เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันท่วงที ทั้งนี้ หากเกิดสถานการณ์ ให้รายงานเหตุด่วนสาธารณภัยให้จังหวัดนครศรีธรรมราชทราบ โดยด่วน ทางโทรศัพท์.0-7535-8442 และโทรสาร.0-7535-8440 หรือโทรสายด่วนนิรภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.

ลงพื้นที่เตรียมการรับมือ น้ำท่วมหนัก พร้อมเตรียมอพยพด่วน

ลงพื้นที่เตรียมการรับมือ น้ำท่วมหนัก พร้อมเตรียมอพยพด่วน

ลงพื้นที่เตรียมการรับมือ น้ำท่วมหนัก พร้อมเตรียมอพยพด่วน

 

ภาพ/ข่าว ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช

ยุทธนะ  เตมะศิริ นครศรีธรรมราช

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ