ตร.โชว์ฝีมือจับแก๊งยาเสพติด สั่งซื้อผ่านไลน์ก่อนส่งให้ลูกค้า

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่ หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3,พล.ต.ต.คีรีศักดิ์   ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3,พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา และชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าว การขยายผลล่อซื้อยาเสพติด จากนักค้ายาเสพติด ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ได้ผู้ต้องหา 3 ราย นายจักรกฤษ ไพคำนาม อายุ 23 ปี , นายอภิสิทธิ์ ศรีเพ็ชร อายุ 25 ปี ,น.ส.ชนิตา ทองเกิด อายุ 24 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้ารวม จำนวน 6,403 เม็ด ,สารไอซ์ น้ำหนัก 60 กรัม, รถยนต์ จำนวน 1 คัน,โทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวน 1 เครื่อง, และทำการอายัดเงินในบัญชีธนาคาร จำนวน  305,000 บาท

 สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.3 ร่วมกับ กก.สส.บก.5 บช.น. และ ศป.ชอน.ได้ทำการสืบสวนและขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีพฤติกรรมใช้สื่อสังคมออนไลน์ เป็นช่องทางติดต่อซื้อขายยาเสพติดกับลูกค้า และส่งยาเสพติดผ่านทางบริษัทรับส่งพัสดุให้ลูกค้า ในพื้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคอื่นๆในประเทศไทย จนกระทั่งสามารถจับกุม นายจักรกฤษ ไพคำนาม อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับยาเสพติด จากนั้นทำการสืบสวนขยายผล ล่อซื้อยาเสพติดจากนักค้ายาเสพติดผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ และต่อมาวันที่ 24 ก.ย. 2562 ได้ทำการตรวจยึด กล่องพัสดุภายในบรรจุยาบ้า จำนวน 2 ถุง (403 เม็ด),สารไอซ์น้ำหนักประมาณ 55 กรัม ตามที่ได้ทำการล่อซื้อ และรวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน สภ.จอหอ จว.นครราชสีมา ขออำนาจศาลออกหมายจับ ตามภาพกล้องวงจรปิด (ผู้นำยาบ้ามาส่งทางบริษัทรับส่งพัสดุ)  และในวันที่ 16 ต.ค.2562 ได้ทำการจับกุมนายอภิสิทธิ์ ศรีเพ็ชร อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาล จังหวัดนครราชสีมา นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.จอหอ (พื้นที่เกิดเหตุ) และจับกุมน.ส.ชนิตา ทองเกิด อายุ 24 ปี ขณะเดินทางมาด้วยกัน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 6,000 เม็ด,สารไอซ์ น้ำหนักประมาณ 55 กรัม, รถยนต์จำนวน 1 คัน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.(เกิดเหตุ พื้นที่ สน.ลาดพร้าว) และทำการสืบสวนขยายผลทำการอายัดเงินจากบัญชีธนาคารใช้รับโอนเงินค้ายาเสพติด จำนวน 305,000 บาท 

จากการสอบถามผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ โดยให้การว่า ตนรับจ้างส่งยาเสพติดจากนักค้ายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้วจัดส่งยาเสพติดในรูปแบบการบรรจุใส่กล่องพัสดุส่งให้ลูกค้าในประเทศไทยตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างเงินที่ได้นำไปซื้อรถยนต์และใช้จ่ายส่วนตัว

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีการขยายผลจับ นายอนุกูล หรือนุ แดงจันทึก อายุ 25 ปี และนายอนุสรณ์ แสงสิงห์ อายุ 32 ปี พร้อมอาวุธปืนยาว 2 กระบอกและอาวุธปืนสั้น 1 กระบอกเครื่องกระสุนปืนขนาดจุด 22 จำนวน 50 นัด ซึ่งผู้ต้องคือ โดยมีการสั่งซื้อผ่านทางเคอรี่ก่อนจะนำมาส่งให้กับลูกค้าที่มีการสั่งไว้ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ภาพ/ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา