ตำรวจปิดคดี ลุงหนุ่ย ย่างสดในปั๊มร้าง

 

              วันที่ 22 ตุลาคม 2562 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ ได้แถลงความคืบหน้าของคดี “ย่างสดชายนิรนามในปั๊มน้ำมันร้าง” สืบเนื่องมาจากวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งจากนายเกียรติศักดิ์ เสียนขุนทด อายุ 30 ปี และนางน้ำเย็น แก้วพันธุ์อ่ำ อายุ 79 ปี ว่า พบศพชายนิรนาม ถูกฆ่าและใช้ไฟเผาร่างจนไหม้เกลียมทั้งตัว ดำเป็นตอตะโก ไม่สามารถระบุรูปพรรณสัณฐานได้ ภายในห้องอาบน้ำ ของปั๊มน้ำมันร้าง หมู่ 8 บ้านดงช้างดี ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ ติดทางหลวงหมายเลข 11 อุตรดิตถ์-พิษณุโลก (ตรงข้ามป้อมตำรวจดงช้างดี)

 

 

 

 

 

              ซึ่งการพบศพดังกล่าว นายเกียรติศักดิ์ อ้างว่าได้นั่งสมาธิ แผ่เมตตา ตั้งจิตอธิฐาน ได้เกิดภาพ หรือนิมิตสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นห้องเล็กๆถูกไฟไหม้ มีไอร้อน และกลิ่นการเผาไหม้ เมื่อชะโงกเข้าไปให้ห้องเห็นเพียงขา 2 ข้าง จนกระทั่งได้มีโอกาสขับรถผ่านจุดเกิดเหตุ มีลางสังหรณ์และบอกทุกคนในรถทั้งพ่อแม่และยาย ว่าตรงนี้คือจุดที่นิมิตเห็น จึงตัดสินใจเข้าไปดูจนกระทั้งพบผู้เสียชีวิต แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

              พล.ต.ต.พยูห์ กล่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งชุดสืบสวนสอบสวน ,กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เก็บรวบรวมพยาน หลักฐานอย่างละเอียด รอบคอบ ให้ได้มากที่สุด ด้วยการสืบค้นจากวัตถุพยานที่พบในการเกิดเหตุ ภาพจากล้องวงจรปิด ลายนิ้วมือแฝง ผลชันสูตร และ ผลดีเอ็นเอของผู้ตาย กับญาติสายตรงที่เข้ามาแสดงตนของ จนท.ตร. โดยผล ดีเอ็นเอ พิสูจน์ออกมาแล้วมาว่าผู้เสียชีวิต คือ นายกิ่งเพชร ไชยทิพย์ หรือลุงหนุ่ย อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 1 ต.บ้านขาม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ มีอาชีพขับรถรับจ้าง ตัวคนเดียวไม่มีครอบครัว ซึ่งผลดีเอ็นเอตรงกับพี่น้องรวมบิดามารดาเดียวกันคือ นางลัดดาวัลย์ ไชยทิพย์

 

 

 

 

              ส่วนรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญพบจอดทิ้งไว้ บริเวณไหล่ทาง ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 400 เมตร นั้น ผลดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือแฝง มีเฉพาะของผู้ตายเพียงคนเดียว ไม่พบบุคคลอื่นเลย และผลการชันสูตรพลิกศพทางนิติเวช แพทย์ระบุไม่ร่องรอยการถูกทำร้าย ไม่มีบาดแผล ไม่พบการแตกหักของกระดูก ใดๆ และไม่พบโลหะหรือหัวกระสุนในร่างกาย สาเหตุการเสียชีวิต คือ การตายจากพลังงานความร้อน ไม่ใช่จากการฆาตกรรม น่าจะเป็นเหตุจากการทำตัวเองให้ถึงแก่ความตาย

              ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เวลาตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ตาย หรือ ลุงหนุ่ย นั้น ได้เดินทางมายังจังหวัดอุตรดิตถ์เพียงลำพังคนเดียว ใช้เส้นทางจากจังหวัดแพร่ เข้าสู่จังหวัดอุตรดิตถ์ วันที่ 28 กันยายน 2563 จะมีการถอดป้ายทะเบียน และอุปกรณ์ส่วนควบต่างๆของรถด้วยตนเอง รวมไปถึงการขูดหมายเลขคัสซีรถ ลักษณะทำเพื่อไม่ให้ใครจำได้ ซึ่งภาพวงจรปิดสามารถจับพฤติกรรมของผู้ตายได้อย่างละเอียด และภาพที่กล้องวงจรปิดจับได้คือ กระบะมีแกลอนน้ำมันสีเขียวขนาด 5 ลิตร จำนวน 2 ใบติดมาด้วย

 

 

 

 

 

              โดยภาพจากล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเช็คกันทั้งวันทั้งคืน ตลอดเส้นทาง ลุงหนุ่ย เดินทางเพียงลำพังคนเดียว โดยพฤติกรรมจะนอนในรถภายในปั๊มน้ำมัน ในเวลา 14.59 น.วันที่ 28 กันยายน 2563 ได้ขับผ่านปั๊มร้างที่เกิดเหตุและถอยรถเข้าไปในปั๊มร้างดังกล่าว เป็นครั้งที่ 1 อยู่ประมาณ 10 นาที แล้วออกจากปั๊ม เวลา 17.46 น.รถกระบะของลุงหนุ่ย ได้ขับเข้าไปยังปั๊มร้าง และวนออกอีกเป็นครั้งที่ 2 เวลาประมาณ 18.56 น. ลุงหนุ่ย ได้จอดรถกระบะทิ้งไว้ แล้วเดินข้ามถนนเข้าไปยังฝั่งปั๊มร้างและเดินเข้าออกอยู่สักใหญ่ จนกระทั่งเวลา 19.16 น. ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าปั้นร้าง ผู้ตายได้มีการนำไฟแช็กมาทดลองจุด 2 ครั้งและไม่ออกมาอีกเลย จนกระทั้งเวลา 01.41 น.วันที่ 1 ตุลาคม 2562 พบแสงไฟจากการเผาบริเวณจุดเกิดเหตุ

              “หลักฐานที่พบภายในห้องอาบน้ำที่เกิดเหตุ ซากเบาะรองนั่ง แกลอนน้ำมันสีเขียว หัวไฟแซ็ก ไฟฉาย และกุญแจรถยนต์กระบะของลุงหนุ่ย และไม่พบว่ามีบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวเลย” พล.ต.ต.พยูห์ กล่าว

 

 

 

 

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางญาติของลุงหนุ่ย ได้เดินทางมารับศพเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป โดยไม่ได้ติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิต โดยเชื่อว่า ลุงหนุ่ย นั้นได้ลงมือฆ่าตัวตาย เนื่องจากผู้ตายไม่เคยขัดแย้งกับใคร โดยวันที่ 23 กันยายน ซึ่งผู้ตายได้ออกจากบ้านได้โทรศัพท์ไปหาพี่สาวบอกว่ามีเรื่องเครียด กลุ้มใจ แต่ยังไม่พร้อมบอกใคร จนกระทั่งมาพบว่าเสียชีวิต ด้านนายเกียรติศักดิ์ เสียนขุนทด ผู้ที่พบศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เช็คข้อมูลต่างๆ พร้อมพยานบุคคล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ตาย

              นายเกียรติศักดิ์ เสียนขุนทด ผู้ที่พบศพ กล่าวหลังทราบถึงสาเหตุและรู้จากการแถลงข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้ตายคือใคร และเหตุใดจึงได้เสียชีวิต ก็โล่งใจตลอดระยะเวลาถูกจับตาและวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ถึงสาเหตุที่ตนได้พบศพผู้เสียชีวิต จากนี้ก็จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตาย และทุกวันก็ยังคงนั่งสมาธิตามปกติ

 

 

----------------------------------------

(ข่าวภาพ บุญพิมพ์ ใบยา จ.อุตรดิตถ์)

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ลุงหนุ่ยวัย 65 ดับ ญาติเชื่อเป็นเพราะความเครียด

ทุก 40 วินาที มีคนเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย

ฆ่าตัวตายพุ่ง 12ราย ต่อวัน ติงสื่อเสนอวิธี