ข่าว

ชาวบ้าน ร้องทุกข์แก๊งโจรกรรม ออกอาละวาดหนักในพื้นที่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชาวบ้านทุ่งมะพร้าว อ.กระบุรี ร้องทุกข์แก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ออกอาละวาดหนักในพื้นที่ ด้านผู้เสียหาย บางรายเดือนเดียวถูกโจรกรรมซ้ำถึง 2 รอบ

วันที่ 22 ตุลาคม 2562 ชาวบ้านทุ่งมะพร้าว ม.5  ต. จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง ร้องผู้สื่อข่าวว่า เดือนเดียว ถูกคนร้ายเข้าโจรกรรมรถจักรยานยนต์ถึง 2 รอบ โดยเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกัน และ ต.ปากจั่น อ.กระบุรี ตำบลข้างเคียงก็ถูกคนร้ายกลุ่มนี้เข้ามาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ต่อเนื่องเป็นรายวัน เนื่องจากเป็นพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา และมียาเสพติดแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ หลังจากนั้นชาวบ้านทุ่งมะพร้าว ม.5  ต.จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง  ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่คนร้ายที่คาดว่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน  หลังทำการลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน  ออกมาจากบ้าน แล้วเอามาซุกซ่อนอยู่ภายในสวนปาล์มน้ำมัน   แต่โชคดีที่เจ้าของรถพร้อมชาวบ้านสามารถติดตามคืนมาได้ทัน เนื่องจากคนร้ายยังไม่ทันนำรถข้ามแนวชายแดน ซึ่งจะต้องใช้เส้นทางลำเลียงรถผ่านทางแถบต้นแม่น้ำกระบุรี ซึ่งมีหลายจุดตามชายฝั่งคลองตามธรรมชาติที่ข้ามไปฝั้งประเทศเพื่อนบ้านใกล้มาก โดยฝั่งตรงกันข้ามจะเป็นหมู่บ้านหลุมพอ จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา 

ชาวบ้าน ร้องทุกข์แก๊งโจรกรรม ออกอาละวาดหนักในพื้นที่

จากนั้น นางอรอุมา ช่วยขำ  อายุ 35 ปี  แม่ค้าขายส่งผักผลไม้ ม.5  ต.จปร. อ.กระบุรี พร้อมสามี ได้ชี้จุดที่กอต้นข่า ในสวนปาล์มน้ำมัน ที่รถจักรยานยนต์ถูกนำมาซุกซ่อนไว้ เพื่อปิดบังอำพรางสายตาชาวบ้านที่จะอาจผ่านไปผ่านมา พร้อมกล่าวว่า “จุดตรงนี้เจอรถจักรยานยนต์ 1 คัน และอีกคันพบด้านล่างใกล้ปากทางเข้าสวน”  และกล่าวต่อว่า “สาเหตุที่มีการร้องเรียนมาที่ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดระนอง เพราะว่าเดือนนี้รถจักรยานยนต์หายไปถึง 2 ครั้งแล้ว  จึงไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ต.ค. และวันที่ 20 ต.ค.62 หายทีเดียว 2 คัน จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยอีกทางหนึ่ง และเมื่อคืนที่ผ่านมาของเพื่อนบ้านก็หายไปอีก 1 คัน  ซึ่งชาวบ้านได้ตระเวนออกกันไปหาอยู่ แต่ยังหาไม่เจอ” 

 

จากนั้นผู้เสียหายได้พาผู้สื่อข่าวไปดูรถบิ๊กไบค์ สีดำ  และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีขาว ของตนที่ได้คืนกลับมา  เนื่องจากคนร้ายไม่สามารถสตาร์ทรถจักรยานยนต์ติด จึงแอบซ่อนในสวนปาล์มไว้ก่อน  มันไม่ไหวแล้วเดือนเดียวตั้ง 2 หน อยากให้ช่วยชาวบ้านด้วย เพราะทุกคนต้องอยู่อย่างระหวาดระแวงไม่ต้องทำมาหากินทำงานทำการกันแล้ว โดยรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ถูกหักคอหมดทั้ง 2 คัน  และมีการตัดสายไฟเพื่อต่อสายตรง ต้องเสียเงินค่าซ่อมแซมอีกร่วม 20,000 บาท ส่วนรถถ้าถูกนำออกไปได้ ก็จะถูกนำพาข้ามฝั่งไปขายในประเทศเพื่อนบ้านทันที ซึ่งชาวบ้านต่างเดือดร้อน เพราะรถจักรยานยนต์หายบ่อยมากแต่ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งเมื่อรถจักรยานยนต์ใครหายก็จะรีบโทรแจ้งให้เพื่อนๆตามหมู่บ้านริมแม่น้ำกระบุรี และใน ต.ปากจั่น  ออกช่วยกันตามหาเพื่อสกัดไม่ให้รถจักรยานยนต์ถูกนำข้ามชายแดนไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนในครั้งนี้เมื่อตรวจสอบจนทราบว่ารถที่ถูกโจรกรรมไปยังไม่ออกนอกพื้นที่ จึงแยกย้ายหาตามแนวสวนปาล์มน้ำมันและสวนยางพารา ที่คาดว่าน่าจะเป็นจุดที่พักรถชั่วคราว ก่อนจะไปหาเจอรถในที่สุด ส่วนวิธีการแก้ปัญหาตอนนี้ต้องช่วยเหลือตนเอง โดยใช้วิธีการติดกล้องวงจรปิด เพื่อให้เห็นตัวคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุ  และเอาไปเป็นหลักฐานให้กับตำรวจ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย    

ชาวบ้าน ร้องทุกข์แก๊งโจรกรรม ออกอาละวาดหนักในพื้นที่

นายพิชัย  อ่อนเทศ  ผู้ใหญ่บ้านทุ่งมะพร้าว  ม.5   ต.จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง  กล่าวภายหลังที่ช่วยกันกับลูกบ้านออกติดตามค้นหารถจักรยานยนต์ที่พึ่งถูกโจรกรรมว่า “รถจักรยานยนต์ในหมู่บ้าน เดือนนี้และเดือนที่ผ่านมาถูกโจรกรรมไปบ่อยครั้งมาก   เมื่อคืนที่ผ่านมาก็หายไป 3 คัน หาเจอเพียง 2 คัน อีก  1 คันยังหาไม่เจอ จากแหล่งข่าวระบุเมื่อคืนน่าจะมีการนำพาข้ามไปยังบ้านหลุมพอฝั่งประเทศเมียนมาแล้ว  ผ่านทางคลองกระไน  เพราะรถยนต์ก็สามารถข้ามไปได้   เมื่อข้ามไปก็สูญทุกคัน  โดยเมื่อเช้าทีมงานพรรคพวกยืนยันว่ามีข้ามไปแล้วจำนวน 2 คัน  สาเหตุเพราะเราเป็นหมู่บ้านตามแนวชายแดน ระวังยาก จึงอยากฝากเตือนไปยังลูกบ้าน บ้านไหนมีฐานะก็ช่วยติดกล้องวงจรปิด บ้านไหนไม่มีก็เอาเก็บรักษาภายในบ้าน ให้ล่ามโซ่ใส่กุญแจไว้ด้วย  และอยากให้ตำรวจและทหารเข้ามาเข้มงวด เพราะว่าหมู่บ้านชายแดนตรงนี้มียาเสพติดแพร่ระบาดจำนวนมาก เมื่อยาเสพติดข้ามมาแล้วจะมีเหตุเกิดขึ้นตามมาอีกหลายเรื่อง   ซึ่งที่ผ่านๆมามีรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม จาก จ.ชุมพร  เข้ามาในพื้นที่บ่อยมาก  เมื่อถูกเอาข้ามไปฝั้งประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ทางผู้ใหญ่บ้านเอง ต้องประสานไปที่กำนัน ต.ปากจั่น อ.กระบุรี  เพื่อให้ติดต่อกับผู้นำหมู่บ้านในฝั่งเมียนมา  เพื่อช่วยติดต่อผู้ซื้อไปว่าจะขอไถ่รถจักรยานยนต์คืน  ถ้าไปเจอพรรคพวกด้วยกันรู้จักกันก็สามารถไถ่คืนกลับมาได้ในราคาประมาณ 15,000-25,000 บาท  แต่ถ้าไม่ใช่พรรคพวก ก็ไม่สามารถไถ่คืนได้  เพราะไม่รู้จักกัน  ปัญหาจะเป็นแบบนี้มาโดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา”

ชาวบ้าน ร้องทุกข์แก๊งโจรกรรม ออกอาละวาดหนักในพื้นที่

โดยล่าสุดภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพพฤติกรรมของคนร้ายที่เข้ามาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ไปเมื่อเวลา 04.04 น. วันที่ 21 ต.ค.62 ในภาพวงจรปิดพบคนร้ายเป็นชาย จำนวน 2 คน  สวมเสื้อสีแดง และเสื้อสีน้ำเงิน  แอบย่องเงียบเดินเท้าเปล่าเข้ามาบริเวณหน้าบ้านของผู้เสียหายรายหนึ่ง ภายใน ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง  ก่อนจะทำการช่วยกันยกรถจักรยานยนต์ทั้งคันออกไปจากจุดเกิดเหตุอย่างง่ายดาย โดยเจ้าของบ้านต่างนอนหลับพักผ่อนโดยไม่ทราบว่ามีคนร้ายเข้ามา จนเช้าเมื่อตื่นขึ้นมาจึงทราบว่ารถจักรยานยนต์ถูกขโมยไปแล้ว

 

ข่าว นิเวศน์ เสระหมาน จ.ระนอง 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ