แฉฉาวผู้ประกอบการเห็นแก่ได้เทปูนล้ำ น้ำตกท่าแพ

ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช  และกางร่มตั้งโต๊ะอาหารบริการนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จนมีนักท่องเที่ยวถ่ายภาพ/คลิปโพสต์ในโซเชี่ยลจนมีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง จนทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งให้ทำการรื้อถอนในทันทีพร้อมให้เจ้าท่า ฯแจ้งความดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

            (18 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรานงานว่าล่าสุดเพจชมรม strong-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดนครศรีธรรมราช ออกมาแฉอีกว่า มีการกระทำผิดในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้น โดยระบุว่า พบอีก..เทคอนกรีตลงคลอง​ ที่น้ำตกท่าแพ (อุทยานแห่งชาติเขาหลวง)​ ต.ช้างกลาง​ อ.ช้างกลาง​ จ.นครศรี​ธรรมราช​ ทำเป็นเพิงพักค่อนขางถาวร ​มีการกางร่มตั้งโต๊ะกินกันในน้ำ​รุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ​ แถมบางร้านยังเอาศาลาที่พักที่ทำไว้ให้ชาวบ้านได้ไปนั่งพักผ่อน​มาทำเป็นร้านอาหารหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ​ หน่วยงานตรวจสอบเร่งแก้ไขด่วน​ โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติ​เขา​หลวง​ทำอะไรกันอยู่​ ถึงได้ปล่อยปละละเลยให้มีการบุกรุกไปเรื่อย ๆ

 

 

 

 

โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เรียกร้องให้หน่วยงานเข้าไปตรวจสอบและเร่งแก้ไขโดยด่วน เพราะน้ำตกท่าแพเป็นน้ำตกที่สวยงามและมีชื่อเสียง มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวปีละจำนวนมาก ไม่อยากให้กลุ่มคนไม่กี่คนที่เห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวมมาทำให้น้ำตกท่าแพไม่สวยงามเป็นธรรมชาติอีกต่อไป เพราะน้ำตกท่าแพเป็นน้ำตกที่สวยงามและมีชื่อเสียงมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวปีล่ะจำนวนมากไม่อยากให้กลุ่มคนไม่กี่คนที่เห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม มาทำให้น้ำตกท่าแพไม่สวยงามเป็นธรรมชาติอีกต่อไป

            นายวีรยุทธ ขนุนนิล นายอำเภอช้างกลาง พร้อมด้วยนายวิกรานต์  ทั่วด้าว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกคอรง และเจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง น้ำตกท่าแพ ท้องที่หมู่ 14 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง พบว่าเกาอี้ โต๊ะสนาม ร่มผ้าใบ และเต้นท์ ที่ร้านค้า ร้านอาหารนำมาวางให้บริการลูกค้านั้น ถูกเก็บจนเกลี้ยงแล้ว อย่างไรก็ตามตรวจสอบพบว่าร้านค้า ร้านอาหารทั้ง 3 ร้าน มีการเทพื้นคอนกรีตเพื่อวางโต๊ะ เก้าอี้ ร่มกาง อำนวยความสะดวกลูกค้า กระจายทั่วบริเวณริมลำน้ำสาธารณะ รวมทั้งมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะจริง จึงสั่งการผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งหมดรื้อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำออกให้หมด

 

 

 

 

ในขณะที่นายวิกรานต์  ทั่วด้าว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบแผนที่อุทยานพบว่าร้านอาหารทั้ง 3 ร้าน ที่สร้างสิ่งปลุกสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ น้ำตกท่าแพ ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยาน ฯ แต่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะจริง อย่างไรก็ตามการกระทำความผิดดังกล่าวนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของทางกรมเจ้าท่าจังหวัดนครศรีธรรมราชในการดำเนินการหรือแจ้งความเอาผิดกับผู้ประกอบการต่อไป

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลายฝ่ายต่างวิพากวิจารณ์ถึงการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งให้มีการื้อแผ่นปูนพร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ประกอบการว่าเป็นเหมือนการแหย่รังแตน เพราะที่ผ่านมามีปารปล่อยให้กระทำผิดในลักษณะดังกล่าวมานานแล้ว นอกจากนี้ยังมีการกระทำผิดอีกจำนวนมากทั้งการก่อสรางรีสอร์ทบุกรุกที่ป่าสงวน รุกล้ำแม่น้ไลำคลองและปล่อยให้เสียคงในลำคลองและไม่ใช้แต่ในหมู่บ้านคีรีวงเพียงแห่งเดียว แต่ตามน้ำตก เช่น น้ำตกท่าแพ” และแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ก็น่าจะมีการบุกรุกที่สาธารณะและลำคลองหรือทางน้ำเช่นเดียวกัน การที่ผู้ว่าชการจังหวัดนครศรีธรรมราชอ้างว่าหากเจ้าหน้าที่ไม่แจ้งความอาจจะถูกข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผิด ม.157 นั้นฐานปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดมายาวนานนับ 10 ปี ถือว่าเป็นการกระทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ และผู้ประกอบการสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าน้าที่ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชลงมาได้เช่นกัน.

 

 

 

 

ขอบคุณภาพ/เพจชมรม strong-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดนครศรีธรรมราช

ข่าว  ยุทธนะ  เตมะศิริ/นครศรีธรรมราช