ข่าว

เร่งรื้อ12 ร้านอาหาร หลังเทปูนรุกคลองคีรีวง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

12 ร้านอาหารเร่งรื้อพื้นปูนรุกคลองคีรีวงคาดแล่วเสร็จใน 2 วัน-หลังผู้ว่า ฯเมืองคอนสั่งรื้อและแจ้งความดำเนินคดี-แฉเบื้องหลังปมร้องเรียนเพราะผู้ประกอบการขัดแย้งกัน

12 ร้านอาหารเร่งรื้อพื้นปูนรุกคลองคีรีวงคาดแล่วเสร็จใน 2 วัน-หลังผู้ว่า ฯเมืองคอนสั่งรื้อและแจ้งความดำเนินคดี-แฉเบื้องหลังปมร้องเรียนเพราะผู้ประกอบการขัดแย้งกันเอง

            จากกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพการรุกล้ำลำน้ำ "คลองคีรีวง" หรือ "คลองท่าดี" ด้วยการเทคอนกรีตล้ำไปในน้ำ ทำให้เกิดกระแสวพิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง จน นายศิริพัฒ พัฒกุล ผวจ.นครศรีธรรมราช สั่งให้กรมเจ้าท่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ และให้เร่งรื้อสิ่งปลูกสร้างรุกลำน้ำออกทั้งหมด ขณะที่ผู้ประกอบการยินดีให้ความร่วมมือเร่งรื้อถอนโดยเร็ว ขณะที่ นายสำคัญ อรทัย นายอำเภอลานสกา ยืนยันจะไม่ดำเนินคดีกับฝ่ายใดทั้งสิ้นหากให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

            ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2562 บรรดาผู้ประกอบการได้เร่งทำการทุบพื้นปูนที่ลาดลงในแนวริมลำคลองคีรีวงหรือคลองท่าดี เพื่อปรับภูมิทัศน์ให้กลับมาเหมือนเดิม โดยมีการวาจ้างรถแบ็กโฮจำนวน 2 คันรวมทั้งกำลังคนเข้าดำเนินการตั้งแต่เมื่อบ่ายของวานนี้ (16 ต.ค.)  คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 วันข้างหน้า ในขณะที่นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางไปเที่ยวในหมู่บานคีรีวงตามปกติ และมีการวิพากวิจารณ์เรื่องที่เกิดขึ้นรวมมั้งแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวทั้งการรื้อพื้นปูนและยังมีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายอีกด้วย

เร่งรื้อ12 ร้านอาหาร หลังเทปูนรุกคลองคีรีวง

เร่งรื้อ12 ร้านอาหาร หลังเทปูนรุกคลองคีรีวง

เร่งรื้อ12 ร้านอาหาร หลังเทปูนรุกคลองคีรีวง

เร่งรื้อ12 ร้านอาหาร หลังเทปูนรุกคลองคีรีวง

สำหรับเหตุการณ์อลเวงที่เกิดขึ้นที่"คลองท่าดี" นั้นเริ่มแรกเดิมทีหลังเหตุการณ์อทกภัย วาตภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2531 สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่บ้านกะทูน  ต.กะทูน อ.พิปูน  และบ้านคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา อย่างหนัก ทางราชการได้ระดมกำลังจากทุกภาคส่วนเข้ามาฟื้นฟูพื้นที่ โดยได้รับความร่มมือจากชาวคีรีวงมาตลอดจนทำให้คีรีวงกลายเปนแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างกว้างขวาง ประกอบกับในปี 2552 ทางกรมควบคุมมลพิษได้ทำการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอากาศพบว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อากาศดีที่สุดในเมืองไทย ส่งผลให้คีรีวงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหรือเชิงนิเวศที่มีชื่อเสียง มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบัน

            ในช่วงแรก ๆ มีการดำเนินธุรกิจรูปแบบต่าง ๆ รองรับนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเล็ก ๆ ของคนในพื้นที่คีรีวง ทั้งโฮมสเตย์ ร้านคา ร้านอาหาร รานกาแฟ รวมทั้งการผลิตสินค้าท้องที่จำหน่ายเป็นที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นตลอดแนวริมคลองคีรีวง หรือคลองท่าดี มีการรุกล้ำแนวลำคลองอยางชัดเจน จนเมื่อ 2 ปีก่อนทางนายสำคัญ อรทัย นายอำเภอลานสกา ได้เข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและขอให้มีการรื้อแผงร้านค้าที่รุกล้ำออกไปโดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านค้าเร่งรื้อออกไปมากถึง 72 ร้าน ในขณะที่กลุ่มนายทุนนักธุรกิจจากนอกพื้นที่เริ่มเข้าไปทำธุรกิจบ้านพักสูดอากาศดี รีสอร์ท ร้านค้า ร้านกาแฟ และร้านอาหาร จนเกิดการแข่งข้นทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้น จนมีการร้องเรียนว่ามีการบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ เขตป่าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง รวมทั้งการปล่อยน้ำเน่าเสียลงคลองคีรีวงหรือคลองท่าดี และมีการตรวจสอบกันมาตลอดแต่เรื่องก็เงียบหายไป

เร่งรื้อ12 ร้านอาหาร หลังเทปูนรุกคลองคีรีวง

เร่งรื้อ12 ร้านอาหาร หลังเทปูนรุกคลองคีรีวง

เร่งรื้อ12 ร้านอาหาร หลังเทปูนรุกคลองคีรีวง

เร่งรื้อ12 ร้านอาหาร หลังเทปูนรุกคลองคีรีวง

 

สำหรับคลองท่าดีทางฝั่งทิศตะวันตก เดิมนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวจะอยู่ด้านฝั่งคลองทิศตะวันออกเป็นหลัก  เนื่องจากการเดินทางข้ามคลองยากลำบาก จนทางร้านการได้มีการสร้างถนนในรูปแบบฝายน้ำล้นเพื่อให้สามารถเดินทางข้ามไปมาได้ แต่ในช่วงฤดูมรสุมระหว่างเดือน ต.ต.- ม.ค.ของทุกปีเกิดฝนตกหนักบนเทือกเขาหลวงทำให้มีน้ำป่าไหลหลากสู่เบื้องล่างเชี่ยวกรากรุนแรง และท่วมฝายน้ำล้นกว่า 2-3 เมตรหรือมากกว่านั้น โดยตัดขาดการเดินทางข้ามลองไปโดยปริยาย จนกระทั้งทางราชการได้ก่อสร้างสะพานแขวนเพื่อเชื่อมสองฝั่งแต่ไม่มีใครอุทิศที่ดินให้ นายสมพร อนุโต อายุ 60 ปี เจ้าของร้านกาแฟ และร้านอาหารทางฝั่งทิศตะวันตกได้ยินยอมอุทิศที่ดินให้จนสามารถสรางสะพานแขวนได้ ทำให้นักท่องเที่ยวข้ามไปยังคลองอีกฝั่งหนึ่งได้ ทำให้เกิดธุรกิจร้านอาหารขึ้นมาตลอดแนวคลอง และมีการเทลาดพื้นปูนลงไปในแนวลำคลองเพื่อบริการนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปเล่นน้ำในลำคลองได้สะดวก และนายสมพร เจ้าของร้านเพียรชม ซึ่งเป็นนักอนุรักษ์ ได้เคยไปแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งทางหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ให้มาดูแลเรื่องของการรุกคลอง แต่ไม่มีหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ

            อย่างไรก็ตามร้านเพียรชมของนายสมพร ได้กลายเป็นร้านที่มีทำเลดีมากเพราะเป็นร้านแรกเมื่อนักท่องเที่ยวข้ามสะพานแขวนก็จะไปลงในพื้นที่ของร้านเพียรชม  แต่เนื่องจากบริเวณร้านเพียรชมไม่มีการเทพื้นปูนลาดไปยังแนวชายคลอง ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจะเดินเลยผ่านไปนั่งร้านอาหารอื่น ๆ ที่เทปูนลาดรุกแนวลำคลองเพราะมีความสะดวก และรู้สึกปลอดภัยกว่า   จนเมื่อวันที่ 5-6 ต.ค. 2562 ที่ผ่านมาต้องตัดสินใจเทลาดปูนลงไปในคลองเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวเหมือนร้านอื่น ๆ ด้วย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาใช้บริการในร้านจำนวนมาก จนมีมือมืดร้องเรียนไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าตรวจสอบ ซึ่งสาเหตุคาดว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการร้องเรียนเรื่องนี้อาจเกิดจากความอิจฉาที่เห็นว่าร้านเพียรชมดักลูกค้าไปหมด จึงแอบร้องเรียนไปยังนายสำคัญ อรทัย นายอำเภอลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งคงไม่ได้คิดว่าจะได้รับผลกระทบกับร้านค้าทั้งหมดด้วย  จนกระทั้งนักท่องเที่ยวถ่ายภาพ,คลิปบริเวณร้านค้าที่มีการรุกคลองพร้อมข้อความไปโพสต์ในโลกโซเชี่ยล จนเกิดเรื่องราวใหญ่โต กระทั้งมีการสั่งรื้อ และนายศิริพัฒ  พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งให้เจ้าท่า ฯเข้าแจ้งความกับพนักงาสอบสวน สภ.ลานสกา ดำเนินคดีกับผู้ประกอบการร้านกาแฟ ร้านอาหารที่รุกล้ำแนวลำคลองตามที่เป็นข่าวดังกล่าว  โดยผู้ประกอบการร้านอื่น ๆ จะกล่าวหาว่าสาเหตุที่ทำให้ทางราชการสั่งรื้อพื้นปูนและถูกแจ้งความดำเนินคดีเพราะนายสมพร เป็นต้นเหตุ”ซึ่งข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป.

เร่งรื้อ12 ร้านอาหาร หลังเทปูนรุกคลองคีรีวง

เร่งรื้อ12 ร้านอาหาร หลังเทปูนรุกคลองคีรีวง

เร่งรื้อ12 ร้านอาหาร หลังเทปูนรุกคลองคีรีวง

เร่งรื้อ12 ร้านอาหาร หลังเทปูนรุกคลองคีรีวง

ภาพ/ข่าว  ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช

ข่าว  ยุทธนะ เตมะศิร /นครศรีธรรมราช

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ